หากยังจำกันได้ โซนยอชิแดคือศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติเกาหลีใต้ที่เดบิวต์ด้วยเพลง Into The New World กับเนื้อหาที่เอื้อนเอ่ยถึงจุดเริ่มต้นของการก้าวไปสู่โลกใบใหม่…

ความใหม่ที่ว่านี้อาจใหม่ด้วยการเปลี่ยนผ่านจากเด็กสาวสู่หญิงสาว

จากเด็กนักเรียนสู่นักศึกษามหาวิทยาลัย

จากนักศึกษามหาวิทยาลัยกลายเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน

จากคนรุ่นหนุ่มสาวสู่วัยที่พร้อมจะสร้างครอบครัวของตัวเอง

หรืออาจหมายถึงเรื่องราวของเด็กผู้หญิง 9 คน กับการก้าวเข้าสู่โลกไอดอลที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเธอและผู้คนอีกมากมายไปตลอดกาล

จุดเริ่มต้นของเส้นทางในโลกใบใหม่ที่ว่านี้เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2007 รู้ตัวอีกทีจากปฐมบทหน้าแรกที่เล่าถึงการก้าวเดินไปยังโลกใบใหม่ ตอนนี้โลกใบใหม่นั้นกลายเป็นโลกที่คุ้นเคย เป็นพื้นที่ปลอดภัย และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมานานกว่า 15 ปี

 

จาก Into The New World สู่ FOREVER 1

ลองคิดว่าเวลา 15 ปี มีเรื่องราวเกิดขึ้นหลายร้อยหลายพันเรื่อง เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของโซนยอชิแดผ่านอัลบั้มต่างๆ ไปจนถึงบทบาทสายงานอื่นอย่างการเป็นนักแสดง นักแสดงละครเวที นางแบบ หรือศิลปินเดี่ยว ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวของพวกเธอที่เติบโตขึ้นเท่านั้น แต่ควบรวมถึงแฟนคลับที่บางครั้งบางคราวก็แยกย้ายไปมีเรื่องราวของตัวเองด้วยเช่นกัน บางคนเริ่มห่างจากไอดอลวัยเด็กไปทุ่มความสนใจกับหลายสิ่งในชีวิต เข้าสู่การเปลี่ยนผ่านในแต่ละช่วงวัย พบเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ไม่ต่างจากศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบ แต่ขณะเดียวกัน โซนยอชิแดก็ยังคงอยู่ในความทรงจำ ยังคงเป็นศิลปินที่เป็นรักแรก และเป็นกลุ่มหญิงสาวที่สร้างแรงบันดาลใจ เมื่อนึกถึงทีไรก็ย่อมอดคิดถึงพวกเธอไม่ได้อยู่ดี 

หลังห่างหายการทำเพลงแบบเต็มวงไปนานถึง 5 ปี ตอนนี้โซนยอชิแดทั้งแปดคนกลับมาพร้อมกับอัลบั้มเต็มชุดที่ 7 ในเพลงไตเติลชื่อเดียวกันว่า ‘FOREVER 1’ ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของสมาชิกวงที่ต้องการเฉลิมฉลองวันครบรอบ 15 ปีร่วมกับโซวอน คล้ายกับยืนยันว่าพวกเธอจะยังคงอยู่กับแฟนเพลงตลอดไปตามคอนเซปต์ที่ว่า…

“Right now it’s Girls’ Generation, It’s Girls’ Generation from now on, It’ll be Girls’ Generation forever.”

“วันนี้ก็โซนยอชิแด พรุ่งนี้ก็โซนยอชิแด โซนยอชิแดตลอดไป”

ทันทีที่ถึงเวลาปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง FOREVER 1 แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับโซนยอชิแดทะยานขึ้นอันดับหนึ่งทวิตเตอร์ไทยและอันดับสามเทรนด์โลกอย่างรวดเร็ว หลายคนลงความเห็นว่าบรรยากาศใน MV เต็มไปด้วยความสดใสตามช่วงวัย มีกลิ่นอายคล้ายเพลงเดบิวต์ Into The New World (2007) หรือเพลงที่สร้างชื่อที่สุดอย่าง Gee (2009) ที่นอกเหนือจากความสดใส เนื้อเรื่องของ FOREVER 1 คือการเล่าเรื่องราวชีวิตของโซนยอชิแดในปัจจุบัน 

เส้นเรื่องในมิวสิกวิดีโอคล้ายกำลังจะบอกว่าตอนนี้ ‘แทยอน’ กลายเป็นศิลปินเดี่ยวจากวงเกิร์ลกรุ๊ปที่สื่อเกาหลีใต้ยอมรับว่าประสบความสำเร็จในสายอาชีพนักร้อง และเธอกำลังเฉิดฉายอยู่บนเวทีทำสิ่งที่ตัวเองรักต่อไป ส่วน ‘ฮโยยอน’ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เดินสายศิลปินเดี่ยวกับแนวเพลงแบบ EDM โดดเด่นเรื่องการเต้นจัดจ้านดุดันไม่ต่างไปจากวันแรกที่พบกัน ควบกับการมีบทบาทใหม่เป็น DJ HYO ที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจ เพียงเปลี่ยนภาพจำจากสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปเป็นการมิกซ์เพลงอยู่ในคลับกับเครื่อง Mixer ซึ่งเป็นอาวุธคู่กายของเหล่าดีเจ

‘ยูริ’ เป็นทั้งศิลปินและนางแบบที่ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารไปจนถึงป้ายบิลบอร์ดที่ติดอยู่ตามตึกรามบ้านช่อง เธอโด่งดัง ยิ้มแย้ม เปี่ยมล้นด้วยพลังดังเดิม ส่วน ‘ซอฮยอน’ มาในภาพลักษณ์ของนักแสดงละครเวที เพราะเธอสามารถเป็นทั้งศิลปิน นักแสดง ไปจนถึงการรับบทบาทนักแสดงละครเวทีที่ยอดเยี่ยม และ ‘ซันนี่’ คืออีกหนึ่งคนที่มีความสุขกับการใช้ชีวิต รอยยิ้มของเธอยังคงสดใสไม่เปลี่ยนไป ที่ตอนนี้เธอเป็นคนดังที่ยังขึ้นชื่อเรื่องของการเป็นเจ้าแม่วาไรตี้โชว์หาตัวจับยาก

‘ซูยอง’ กับ ‘ยุนอา’ ผู้ผันตัวไปเดินสายการแสดงกลายเป็นเซเลบริตี้ เป็นดาวเด่นที่ทำงานในกองถ่ายละคร เมื่อไปงานพรมแดงก็จะมีแฟนคลับถือโปสเตอร์ภาพยนตร์มาขอลายเซ็น พวกเธอทั้งสองมีภาพลักษณ์ที่เติบโตจากเดิมมากพอดู 

คนสุดท้ายคือ ‘ทิฟฟานี่’ สมาชิกอีกคนที่ออกจากต้นสังกัดเดิมเพื่อไปทำตามฝันยังสหรัฐอเมริกา ทว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่บนเครื่องบิน เดินทางกลับมายังเกาหลีใต้เพื่อพบกับกลุ่มเพื่อนคนสำคัญ ซึ่งแฟนคลับบางคนที่ดูมิวสิกวิดีโอ ทีมงานเบื้องหลัง และตัวของทิฟฟานี่เองได้เคยแซวเอาไว้ว่าจริงๆ แล้วฉากนั่งเครื่องบินนี้อาจกำลังหมายถึงการเดินทางไปยัง กวังยา (KWANGYA) ก็เป็นได้ อยู่ที่ว่าใครอยากจะตีความแบบไหน

พาร์ตคอรัสหรือที่คนส่วนใหญ่มักเรียกกันว่าท่อนฮุก เผยให้เห็นการรวมตัวกันของสมาชิกทั้ง 8 คน ท่ามกลางบรรยากาศงานเทศกาลสนุกสนาน พวกเธอมาในลุคเสื้อยืดลายทางกับกางเกงขาสั้น ชวนให้คิดถึงคอนเซ็ปต์เก่าๆ ที่พวกเธอเคยทำ ตัดสลับกับเส้นทางชีวิตของเมมเบอร์ที่ต่างกันไป ก่อนจะพาไปยังช่วงท้ายของมิวสิกวิดีโอที่เผยให้เห็นว่าสถานที่นัดพบของทุกคนคืองานพรมแดงที่มีถ้วยรางวัลสีทองรออยู่ในนั้น ซึ่งซีนพรมแดงก็หวนให้นึกถึงบรรยากาศของเพลง The Boys (2011) หนึ่งในเพลงที่สร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ให้กับโซนยอชิแดได้เหมือนกัน

การที่หัวหน้าวงอย่างแทยอนเป็นผู้ชูถ้วยรางวัล อาจหมายถึงการเฉลิมฉลองความรัก ความสุข ความสำเร็จ จากการเดินทางอันยาวนานร่วมกับสมาชิกรวมถึงโซวอนที่ยังคงรอพวกเธออยู่เสมอ และในบางแง่อาจอนุมานได้ว่าตัวของโซนยอชิแดเองก็คือถ้วยรางวัลสำหรับโซวอนเช่นกัน

ในแง่การสร้างสรรค์ทางดนตรี พวกเธอยังคงคอนเซ็ปต์การทำเพลงแบบ Pop Dance ได้ดีเหมือนเคย เผยให้เห็นความสดชื่นที่เป็นเอกลักษณ์จัดเต็มตามแบบฉบับโซนยอชิแด ซึ่งหนึ่งในโปรดิวเซอร์ของเพลงนี้คือ Kenzie (เคนซี) ผู้สร้างสรรค์ดนตรีดีๆ แก่โซนยอชิแดเสมอมาทั้ง Into The New World เพลงเดบิวต์ที่กลายเป็นตำนานของเคป็อป Oh! (2010) กับคอนเซปต์เชียร์ลีดเดอร์สาวเคล้าเพลงจังหวะสนุกแถมยังติดหู และ All Night (2017) เพลงรองสไตล์วินเทจของอัลบั้มเต็มเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ในคราวนี้ทีมโปรดิวเซอร์ได้ซ่อนลูกเล่นเล็กๆ ไว้ใน FOREVER 1 เพื่อเป็นของขวัญให้กับโซวอน

FOREVER 1 ชวนให้ผู้ชมและผู้ฟังหวนคิดถึงสมัยก่อนได้ง่ายๆ โดยเฉพาะท่อนที่ใช้เสียงเปียโนไล่คีย์เหมือนกับท่อนเปิดของเพลง Into The New World ที่ถือเป็นอีกหนึ่งท่อน killing part ในแง่ความรู้สึกร่วม หวนนึกถึงความทรงจำเก่าๆ ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่มีร่วมกันมา ก่อนซูยองจะให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าสมาชิกในวงเป็นผู้ขอให้ Kenzie ใส่ทำนองบางอย่างที่จะทำให้ผู้ฟัง FOREVER 1 นึกถึง Into The New World คล้ายกับการกล่าวขอบคุณในความสำเร็จนับจากจุดเริ่มต้นที่ทำให้โซนยอชิแดเดินมาถึงทุกวันนั้น

“FOREVER 1 คือการส่งต่อความรักนิรันดร์ให้กับเหล่าคนสำคัญ” – โซนยอชิแด ซันนี่

 

บทเพลงหลากหลายอารมณ์ในอัลบั้ม FOREVER 1 ที่ไม่ควรมองข้าม

ไม่ได้มีเพียงแค่เพลงไตเติลเท่านั้นที่น่าสนใจและชวนให้รู้สึกอิ่มเอม แต่ทั้งอัลบั้มของ FOREVER 1 ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวของสมาชิกทั้งแปดคน รวมถึงสิ่งที่พวกเธออยากบอกเล่าแก่ผู้ฟังภายใต้คอนเซปต์โซนยอชิแด จนทำให้เราต้องเลือกหยิบบางเพลงในอัลบั้มมานำเสนอให้กับผู้ฟังไปจนถึงแฟนเพลงขาจรที่อยากรู้จักพวกเธอมากขึ้นผ่านงานเพลง

ยุนอาให้นิยาม Lucky Like That ไว้ว่าเป็นเพลงที่ได้ยินเสียงของสมาชิกทุกคนอย่างชัดเจน ซ้ำยังเป็นเพลงแรกของอัลบั้มที่ทุกคนจะได้ร้อง ส่วนเธอเป็นคนสุดท้ายที่เข้าห้องอัดเพลงนี้ จึงเป็นคนแรกที่ได้ฟังทั้งเพลงที่สมาชิกร้องเอาไว้ก่อนแล้ว พอได้ยินเสียงขับร้องของทุกคนหลังจากไม่ได้ยินมาหลายปี Lucky Like That ที่มีความหมายว่าหากเรามีความปรารถนาต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งและเชื่อมั่นมายาวนาน สักวันหนึ่งเราอาจจะได้ในสิ่งที่ต้องการ 

ด้วยบรรยากาศแห่งความคิดถึง เคล้าบทเพลงที่อัดแน่นด้วยอารมณ์หลากหลาย จึงทำให้ยุนอาร้องไห้ออกมาเมื่อฟังเพลงนี้เป็นครั้งแรก 

Closer คือเพลงที่ฮโยยอนเลือกให้เป็นเพลงที่เธอชอบที่สุดในอัลบั้มนี้ ด้วยดนตรีฟังสบาย ท่วงทำนองกำลังดี ไม่เบาเกินไป ไม่หนักเกินไป ประกอบกับเนื้อเพลงที่ตรงตามชื่อคือการเอ่ยถึงความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ในการขยับความสัมพันธ์ แต่สุดท้ายก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายทิ้งทุกอย่างแล้วอยู่ด้วยกันใกล้ๆ ทำให้ Closer สร้างบรรยากาศอบอุ่นชวนอมยิ้มได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะฟังในวันฝนตกหรือวันที่ท้องฟ้าสดใส 

เนื้อเพลง Seventeen เกิดขึ้นระหว่างที่ทิฟฟานี่และซูยองใช้เวลาท่องเที่ยวร่วมกัน ทั้งสองได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องต่างๆ พร้อมกับจดบันทึกเรื่องราวที่คุยกันก่อนจะนำมาดัดแปลงเป็นเนื้อเพลงที่เล่าถึงช่วงชีวิตและการเติบโตของพวกเธอในจังหวะดนตรีแบบ R&B 

Villain เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทิฟฟานี่กับซูยองมีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อ นอกจากนี้ทิฟฟานี่ยังได้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมโปรดิวซ์ บทเพลงดังกล่าวจึงค่อนข้างมีอิทธิพลต่อเธอเป็นพิเศษ โดย Villain เล่าถึงอีกด้านหนึ่งของโซนยอชิแด เพราะตั้งแต่เพลงแรกจนถึงปัจจุบัน แม้จะมีบางเพลงที่สวมมาดยัยตัวร้ายอย่าง Run Devil Run (2010) หรือ You Think (2015) แต่ภาพจำของคนส่วนใหญ่ที่มีต่อพวกเธอยังคงเป็นผู้หญิงที่สดใส เป็นตัวของตัวเอง และเป็นมิตรกับทุกคน ทำให้บทเพลงนี้แตกต่างจากตัวตนดังกล่าวเล็กน้อย เพราะพวกเธอต้องการแสดงถึงความมั่นใจและสิทธิในการตัดสินใจว่าพวกเธอสามารถ ‘เลือกเส้นทางชีวิตตัวเองได้’

ซูยองอธิบายเพลง Villain ว่าวายร้ายในที่นี้ไม่ใช่ผู้หญิงนิสัยไม่ดีแต่เป็นผู้หญิงที่กล้าเดินออกจากกรอบเดิมๆ เพื่อทำตามความตั้งใจโดยไม่ต้องสนเสียงวิจารณ์รอบข้างว่าการเลือกของพวกเธอนั้นคือความผิดพลาดไม่ควรทำ เพียงเพราะแตกต่างจากสิ่งที่สังคมต้องการ สมาชิกทุกคนของโซนยอชิแดก็มีบุคลิกที่แตกต่าง มีเอกลักษณ์ในหลากหลายรูปแบบ ตัวตนของพวกเธอทุกคนก็มีความเป็น Villain ในตัวเองอยู่แล้ว และพวกเธอที่ถูกมองว่าเป็นวายร้าย ในบางครั้งก็สามารถกลายเป็นฮีโร่หรือเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้เหมือนกัน

อีกหนึ่งสิ่งที่แฟนคลับต่างสงสัยคือโซนยอชิแดเป็นส่วนหนึ่งของ กวังยา ด้วยหรือไม่ เสมือนว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่าใครใน SM Entertainment ก็ไม่สามารถหนีกวังยาได้ รวมถึงโซนยอชิแดที่ถึงแม้ว่าเมมเบอร์บางส่วนจะไม่ได้อยู่ในสังกัดเดิมก็ตาม

แทยอนเอ่ยถึงกวังยาเอาไว้ว่าเป็นจักรวาลของ SM Entertainment ซึ่งทางค่ายได้นิยามโซนยอชิแดเอาไว้ว่าเป็น ‘Goddess of Sound’ หรือ ‘เทพีแห่งเสียงเพลง’ ใน Cosmic Festa สมาชิกแต่ละคนจะมีความโดดเด่นในด้านดนตรีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเธอเองก็ยังคงให้คำตอบแน่ชัดร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ว่า Cosmic Festa เป็นส่วนหนึ่งของกวังยาด้วยหรือไม่ เพราะในช่วงสัมภาษณ์กับสื่อ พวกเธอเองก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับกวังยาที่ไม่เหมือนกัน (ซอฮยอนเคยตอบสื่อว่า Cosmis Festa ไม่ใช่กวังยา แต่ฮโยยอนตอบว่า Cosmis Festa เป็นส่วนหนึ่งของกวังยา) แต่จักรวาลกวังยาถือเป็นเรื่องใหม่ของหลายคนโดยเฉพาะสมาชิกที่อยู่คนละสังกัด พวกเธอเองก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจต่อกวังยาให้มากขึ้นด้วยเหมือนกัน ส่วนทิฟฟานี่มองว่าตัวเธอที่ไม่ได้อยู่ค่ายเดิมแล้วเป็นเพียงแค่ “ผู้มาเยือนของกวังยาเท่านั้น”

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมตาเวิร์สกวังยาได้ที่ ‘จักรวาลนฤมิต เมืองทิพย์กวังยา’ ความสำเร็จ aespa ที่ไม่ไกลเกินฝัน และไม่ยากเกินความเข้าใจ

 

โซนยอชิแดกับการถูกเรียกว่าเป็น ‘ดาวค้างฟ้า’

วันที่ 6 สิงหาคม 2022 หลังปล่อยเพลงได้หนึ่งวัน สำนักข่าว Herald Pop รายงานว่า อัลบั้ม FOREVER 1 สามารถขึ้นอันดับหนึ่งใน iTunes Album Chart ได้ทั้งหมด 31 ประเทศ สร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเองด้วยการเป็นอัลบั้มที่ติดอันดับหนึ่งรายประเทศมากที่สุด หลังอัลบั้มเต็มชุดที่ 6 Holiday Night เมื่อห้าปีก่อนทำสถิติไว้ที่ 20 ประเทศ และ FOREVER 1 มียอดขายอัลบั้มวันแรกรวม 102,879 อัลบั้ม ทำลายสถิติยอดขายวันแรกของตัวเองอีกครั้งหลัง Holiday Night มียอดขายอยู่ที่ 30,644 อัลบั้ม

การทำลายสถิติเดิมของตัวเองในปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ยืนยันว่าแฟนคลับของพวกเธอยังคงเหนียวแน่น แม้ยอดจะดูแตกต่างจากเกิร์ลกรุ๊ปรุ่น 4 ที่มาแรงทั้งยอดขายและยอดวิว แตกต่างจากเกิร์ลกรุ๊ปรุ่น 2 ที่มีวัฒนธรรมการรับชมศิลปินที่ไม่เหมือนกับปัจจุบัน แต่ในแง่การเป็นตำนาน การเป็นที่รู้จักของผู้คนหลากหลายช่วงวัย ความสนใจของสื่อมวลชน และสาธารณชนก็ยังคงเข้มแข็งอยู่เหมือนเคย เห็นได้จากสื่อมวลชนเรียกการกลับมาของโซนยอชิแดครั้งนี้ว่า “เป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปที่อยู่ในวงการและรักษามาตรฐานของตัวเองได้ยาวนานที่สุด”

  เมื่อถูกสื่อมวลชนเรียกว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ยืนอยู่ได้ยาวนานที่สุด ยูริและแทยอนกล่าวขอบคุณถึงคำเรียกนั้น ก่อนแทยอนจะอธิบายว่าการที่โซนยอชิแดยังคงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะโซวอน นอกจากนี้ วงที่มีสมาชิก 8 คน ทุกคนย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป เป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้ความคิดหลากหลายเหล่านี้เป็นหนึ่งเดียวหรือไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในความต่างนั้นกลับมีหนึ่งสิ่งที่พวกเธอคิดเหมือนกันคือความรักที่จะปกป้องโซนยอชิแด ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ตอบคำถามว่าทำไมโซนยอชิแดจึงยังคงอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน 

ทิฟฟานี่เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการทำเพลง FOREVER 1 ไว้ว่าหลังสมาชิกหลายคนออกจากสังกัดเดิม เธอรู้สึกว่าเป็นไปได้ยากที่จะกลับมารวมกันอีกครั้ง แต่ตอนนี้พวกเธอก็กลับมาตามที่เคยให้สัญญากับโซวอนได้จริงๆ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเต็มไปด้วยความรักและความตั้งใจที่จะทำให้ผู้คนได้เห็นโซนยอชิแด

ส่วนความคิดเห็นของนักวิจารณ์เพลง ผู้เชี่ยวชาญด้านเคป็อป ไปจนถึงแฟนคลับหลากหลายด้อมที่เฝ้ามองการกลับมาในรอบ 5 ปีของพวกเธอ มีหลายความคิดเห็นมองตรงกันว่าแบรนด์ของโซนยอชิแดเข้มแข็งมากกว่าที่คิด เห็นได้จากการที่ SM Entertainment ค่ายต้นสังกัดซึ่งสร้างพวกเธอมายอมให้ศิลปินที่ออกจากสังกัดไปแล้วกลับมาทำเพลงร่วมกันอีกครั้งในนามโซนยอชิแดเหมือนเดิม เพราะภาพรวมและภาพจำที่สาธารณชนมีต่อโซนยอชิแดยังคงเหนียวแน่นตลอดระยะเวลา 15 ปี 

แม้พวกเธอจะแยกกันไปเติบโต จาก 9 เหลือ 8 จาก 8 เหลือ 5 แต่สุดท้ายโซนยอชิแดทุกคนยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน แม้ผู้คนต่างเติบโตไปในเส้นทางที่ต่างกันแต่สุดท้ายพวกเธอก็เป็นเด็กสาวที่เป็นรักแรก เป็นผู้หญิงที่สร้างแรงบันดาลใจ เป็นเหมือนเซฟโซนคอยปลอบโยนให้ก้าวผ่านเรื่องราวแย่ๆ ที่หลายคนพานพบมา 

ดังที่เนื้อเพลงท่อนหนึ่งของ FOREVER 1 ว่าไว้

‘เมื่อคิดถึงเธอฉันก็เข้มแข็งขึ้น สัญญาเลยว่าเราจะอยู่ด้วยกันจวบจนนิรันดร์’

โซนยอชิแดยังคงเหมือนเดิมไม่ต่างจากวันแรกที่เราพบกัน

 

Tags: , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,