“ตำรวจด้อมมาแล้ว”

“สวัสดีค่ะ ดิฉันผู้กำกับจากสถานีตำรวจกวังยา”

“ขอบคุณที่แจ้งให้ทราบ ทางเรากำลังดำเนินการอยู่”

เหล่านี้คือประโยคเสียดสีในหมู่แฟนด้อมศิลปินจากค่าย SM Entertainment หรือตึกชมพู ที่อาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะนวัตกรรม ‘ตำรวจกวังยา’ ภายใต้อาณาจักรสีชมพูยุคใหม่ SM 3.0 ที่ใครหลายคนพูดเล่น ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ 

เมื่อวานนี้ (22 มิถุนายน 2023) SM Entertainment ประกาศเปิดแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อ ‘KWANGYA 119’ หรือศูนย์ร้องทุกข์ต่อต้นสังกัดผ่านระบบดิจิทัลสำหรับแฟนคลับโดยเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถแจ้งเรื่องราวต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีหมิ่นประมาท หรือข่าวลือที่สร้างความเสื่อมเสียให้ศิลปินในต้นสังกัด ตลอดจนการละเมิดลิขสิทธิ์ การขายบัตรคอนเสิร์ตผิดกฎหมาย รวมถึง ‘การแก้ไขและข้อเสนอแนะ’ ต่อบริษัท

SM Entertainment ให้เหตุผลว่า KWANGYA 119 คือศูนย์ร้องทุกข์ที่ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของศิลปิน เกิดขึ้นเพื่อจัดการความกังวลในหมู่แฟนด้อมถึงอาชญากรรมทั้งหลายที่ทวีคูณความรุนแรง และยากที่จะรับมือ ซึ่งมีการใช้เลข 119 ที่อ้างอิงมาจากเบอร์สายด่วนแจ้งเหตุร้ายในเกาหลี

ถึงเหตุด่วนจะไม่เลือกเวลาเกิด แต่ KWANGYA 119 ขอเลือกเวลาเปิด-ปิดให้บริการ เพราะศูนย์ร้องทุกดังกล่าว เปิดทำการตั้งแต่ 10.00-18.00 น. ในวันจันทร์ถึงศุกร์เท่านั้น ไม่ต่างกับการทำงานของหน่วยงานราชการในปัจจุบัน

สำหรับวิธีการใช้งาน ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://kwangya119.smtown.com/ และล็อกอินด้วย SMTOWN ID ตามด้วยการกดเลือกหัวข้อที่ต้องการจะร้องเรียนในหมวดหมู่ต่างๆ เช่น การทำให้ศิลปินเสื่อมเสียชื่อเสียง การรายงานขายบัตรปลอม การรายงานละเมิดลิขสิทธิ์ และข้อแนะนำหรือรายงานการปรับปรุง 

 ทันทีที่ประกาศการมีอยู่ของระบบดังกล่าวภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็มีผู้ร้องเรียนเข้ามาถึง 6,502 เรื่องเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งประเภทการร้องเรียนยังมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข่าวปลอม การใส่ร้ายและดูหมิ่น รวมถึงกรณีการล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย

สำหรับการตอบรับและความคืบหน้าเบื้องต้นจาก KWANGYA 119 SM ได้ชี้แจงและอัปเดตข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้า เช่นกรณีหมิ่นประมาทในโลกโซเซียลฯ ของ แทยอน (Taeyeon) ศิลปินจาก Girls’ Generation ในปี 2021 หลังตำรวจนำบุคคลในคำร้องเข้าสอบสวน 4 คน และส่งตัวไปยังอัยการอีก 2 คนเพื่อพิจารณาความเห็นในการดำเนินคดี รวมถึงกำลังตรวจสอบบางส่วน และจะชี้แจงให้ทราบในภายหลัง

(ที่มา: SM Entertainment)

ข่าวลวง ข้อความหมิ่นประมาท และซาแซง: อาชญากรรมต่อไอดอลที่เพิ่มขึ้นทุกวัน

ก่อนหน้านี้ SM ออกมาเกริ่นถึงการมีอยู่ของนวัตกรรม KWANGYA 119 แล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 ท่ามกลางสถานการณ์อันร้ายแรงต่อศิลปินในต้นสังกัด เช่น กรณีกลุ่มซาแซงบุกรุกบ้านของแฮชาน (Haechan) สมาชิก NCT จน SM ต้องออกมาประกาศการดำเนินคดีทางกฎหมายในวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา

(ที่มา: SM Entertainment)

 ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มดังกล่าวก็มาจากการเรียกร้องของแฟนๆ เนื่องจากจำนวนและความรุนแรงต่อศิลปินที่เพิ่มขึ้นทุกวันอย่างไม่หวาดหวั่น

เป็นที่รู้กันดีในหมู่แฟนด้อมว่า ไอดอลต้องเผชิญการคุกคามนับไม่ถ้วน ซึ่งมาในรูปแบบของ ซาแซง แอนตี้แฟน หรือแม้แต่กลุ่มคนที่เรียกตนเองว่า ‘แฟนคลับ’ 

กรณีศิลปินในตึกชมพู พวกเขาต้องเผชิญภัยจากซาแซงจนบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจมาแล้ว เช่น เรื่องราวสุดคลาสสิกของ ยุนโฮ (Yunho) สมาชิกวง TVXQ หลังแอนตี้แฟนผสมกาวในน้ำส้มให้ดื่มในปี 2006 ซึ่งภายหลัง เขาเปิดเผยในรายการ Radio Star ว่าหวาดกลัวเครื่องดื่มนี้ไปสักพัก

(ที่มา: SM Entertainment)

ปัจจุบัน เหตุการณ์ในทำนองนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นแล้ว เพราะการระแวงระวังจากบทเรียนเก่าๆ หรือเทคโนโลยีที่แพร่หลายมากขึ้น แต่อาชญากรรมก็ปรากฏในรูปแบบใหม่ที่ใกล้ตัวศิลปินกว่าเดิม เช่น การหมิ่นประมาท และการโจมตีทางข้อความซึ่งหน้าผ่านโลกโซเซียลฯ นับตั้งแต่ เยริ (Yeri) สมาชิกวง Red Velvet ที่ต้องเผชิญคอมเมนต์ด่าทอด้วยคำหยาบคายในปี 2015 กลางไลฟ์สด ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น

“เฮ้อ ฉันคิดว่า SM จำเป็นต้องดำเนินคดีกับเรื่องนี้ ฟ้องและพาเธอ (แอนตี้แฟน) ไปอยู่หน้าเยริ ​​แล้วดูสิว่า เธอจะยังพูดอะไรแบบนั้นได้อีกไหม”

“น้องต้องกลัวมากแน่ๆ เลย ㅜㅜㅜㅜㅜㅜ”

“ฉันไม่ใช่แฟน แต่นี่มันทำให้ฉันสบถออกมาจริงๆ รายงานคนพวกนี้ไม่ได้เหรอ” ทั้งหมดคือคอมเมนต์ของชาวเน็ตต่อรีแอ็กชันของเยริในเวลาดังกล่าว เมื่อเธอหยุดพูดและนิ่งเงียบไประหว่างการซ้อมเต้น ซึ่งมีการคาดเดาว่า เธอน่าจะอ่านคอมเมนต์ดังกล่าว

(ที่มา: SM Entertainment)

รวมถึง ไอรีน (Irene) ลีดเดอร์และวิชวลของวง ก็ต้องเผชิญความเกลียดชังจากเหล่าอดีตแฟนคลับ หลังแฟนบอยจำนวนมาก ‘เผารูปของเธอ’ เพียงเพราะเธออ่าน ‘คิม จี-ยอง เกิดปี 1982’ (Kim Ji Young, Born 1982) หนังสือที่เผยให้เห็นชีวิตของหญิงสาวในเกาหลีที่ต่อสู้กับระบอบชายเป็นใหญ่

“ผมผิดหวังในตัวเธอ”

“เธอไม่ควรทำตัวไร้เดียงสา 

“เธอต้องเข้าใจว่าแฟนคลับของเธอส่วนมากเป็นผู้ชาย”

“มันเป็นความผิดที่เธอทำให้แฟนคลับรู้สึกแย่ในเมื่อพวกเขาเป็นผู้สนับสนุนเธอ” นี่คือคอมเมนต์ส่วนหนึ่งจาก ‘อดีตคนที่เรียกตัวเองว่าแฟนบอย’ หลังจากไอดอลที่ตนรักอ่านหนังสือเชิดชูความเท่าเทียมทางเพศ

หรือบางครั้งภัยคุกคามเหล่านี้ก็มาในรูปแบบข่าวลือ เช่นกรณี เซฮุน (Sehun) สมาชิกวง EXO ที่ต้องเผชิญกับข่าวที่ไม่มีมูล หลังหญิงสาวคนหนึ่งอ้างว่า เห็นเขาและแฟนสาวไปคลินิกเพื่อตรวจครรภ์ จนเจ้าตัวออกมาบ่นกับแฟนๆ ทั้งในแอปพลิเคชัน บับเบิล และไอจีสตอรี ว่า

“ผมโมโหมากกับสถานการณ์นี้หลังนิ่งเงียบมาตลอด แต่ผมอยากจะบอกพวกคุณว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด” ข้อความของมักเน่ หรือน้องเล็กวง EXO แสดงความไม่พอใจ ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับ EXO-L เพราะเซฮุนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมา

“ตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน มีผู้หญิงแอบอ้างว่าเป็นแฟนผม เธออัปโหลดรูปในโซเซียลมีเดียเหมือนเรากำลังเดตกันอยู่ ผมรู้เรื่องนี้เพราะมีคนมาบอกเยอะมาก แต่เพราะว่าเธอไม่ใช่ใครสักคนที่ผมรู้จัก ผมเลยปล่อยผ่าน

“เพราะผมตัดสินใจเช่นนี้ สถานการณ์จึงดำเนินมาถึงจุดนี้ รูปภาพทุกรูป ข้อความทุกอย่างที่เผยออกไปไม่ใช่ผม ผมยืนยันจริงๆ” เขาโพสต์ไอจีสตอรีหลังเรื่องราวบานปลายขึ้น

(ที่มา: SM Entertainment)

หรือกรณีร้ายแรงที่สุดของอาชญากรรมเหล่านี้ คือ การซื้อขายข้อมูลส่วนตัวศิลปิน และแทรกแซงการใช้ชีวิตจากกลุ่มซาแซง ซึ่งเกิดขึ้นกับสมาชิก NCT ที่ต้องประสบปัญหาดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นดราม่าในโลกทวิตเตอร์ หลัง เตนล์ NCT/WayV หรือชิตพล ลี้ชัยพรกุล โพสต์ข้อความในบับเบิลทั้งภาษาไทยและเกาหลีว่า

“สวัสดีครับ การเดินทางกลับมาครั้งนี้เป็นตารางส่วนตัว ก็เลยจะมีครอบครัวของผมอยู่ด้วย หวังว่าจะช่วยรักษาความปลอดภัยที่สนามบินกันด้วยครับ ระวังอย่าให้บาดเจ็บกันนะครับ!

“และสำหรับคนที่ติดตามมาถึงบ้านที่ประเทศไทยของผม หวังว่าจะพอได้แล้วนะครับ ผมขอพื้นส่วนตัวกับครอบครัวของผมด้วยครับ หวังว่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของข้อความแบบนี้ ขอให้เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นอีกนะครับ

“ถึงแม้จะรู้ถึงความรู้สึกของการชอบและคอยเชียร์อยู่ แต่ก็ควรที่เคารพซึ่งกันและกันให้เท่ากับที่ชอบและคอยเชียร์กันนะครับ”

(ที่มา: SM Entertainment)

เหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ไอดอลต้องพบเจอ ทั้งจากแฟนคลับในคราบอาชญากร รวมถึงซาแซง ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทวีความรุนแรง จนทั้งแฟนด้อมและตัวศิลปินเองไม่สามารถรับมือได้โดยตรง 

ดังนั้น การมีแพลตฟอร์ม KWANGYA 119 จึงเป็นความหวังอีกอย่างหนึ่งของแฟนๆ ที่ช่วยลดความรุนแรงกับปัญหาได้ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการใช้วิธีทางกฎหมายดำเนินการกับผู้คุกคามโดยต้นสังกัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องติดตามความคืบหน้าและประสิทธิภาพต่อไป

มากกว่าการคุ้มครองศิลปิน?: KWANGYA 119 กับ SM 3.0 ยุคใหม่ในวันที่ไร้ ‘อี ซูมาน’

ข้อสังเกตอันน่าสนใจจากแพลตฟอร์มร้องทุกข์ KWANGYA 119 ที่มากไปกว่าการคุ้มครองศิลปิน คือสิ่งนี้อาจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ ‘รีแบรนด์’ ภายใต้นโยบาย SM 3.0 ในวันที่ไร้ อี ซูมาน (Lee Soo-man) ผู้เคยเป็นเสาหลักและทุกอย่างของค่าย

(ที่มา: SM Entertainment)

เป็นที่รู้กันดีในหมู่ผู้สนใจวงการ K-Pop ว่าค่าย SM เกิด ‘ศึกชิงบัลลังก์สีชมพู’ ระหว่างลุงกับหลานชาย คือ อี ซูมาน กับคริส ลี (Chris Lee) หรือลี ซองซุน (Lee Song-soon) เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนนำไปสู่เรื่องราวสุดแสนดราม่า คือการเทกโอเวอร์จากบริษัทคู่แข่งอย่าง HYPE ที่เข้าซื้อหุ้น 14.8% จากอี ซูมานไป แต่สุดท้าย สงครามก็สงบลง หลังจากฝ่าย Kakao ที่จับมือกับ คริส ลี ได้รับชัยชนะไป เพราะการถอนตัวของ HYPE

(ที่มา: SM Entertainment)

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการต่อสู้ครั้งนั้น คริส ลี ออกมา ‘ทิ้งระเบิด’ หลายอย่างถึงประวัติศาสตร์ตึกสีชมพูภายใต้ อี ซูมาน โดยเขาอ้างว่า ลุงของเขาก่อความอันตรายให้กับบริษัท โดยหยิบยกเรื่องการคัมแบ็กของ Aespa ที่ช้าลง เพราะอี ซูมาน สั่งให้ทำเพลงที่พูดถึง ‘การปลูกต้นไม้’ และ ‘ความยั่งยืน’ จนทำให้สมาชิกสาวทั้ง 4 คน เสียใจมากถึงกับร้องไห้ออกมา อีกทั้งสร้างปัญหาให้กับกลุ่ม AR ในการคิดค้นและออกแบบคอนเซปต์คัมแบ็กที่เหมาะสม

(ที่มา: SM Entertainment)

  SM ในยุคของอี ซูมาน ยังถูกมองว่า ‘สนใจแค่กำไร ขูดรีดแต่ศิลปิน’ โดยเฉพาะการแฉของสำนักข่าวดิสแพตช์ (Dispatch) หลังระบุว่า ผู้ก่อตั้งค่ายรายนี้ยักยอกเงินของบริษัทและหากำไรอย่างผิดจรรยาบรรณ ซึ่งมีรายละเอียดบางส่วนว่า เขาใช้เงินทุนปลอมในการชำระหุ้นโดยไม่มีการผ่านข้อมติหรือการประชุมจากคณะกรรมการเพื่อหารือเรื่องนี้ รวมถึงข้อครหา ‘การฮุบรายได้ของศิลปิน’ ในค่ายถึง 2 พันล้านวอน (ประมาณ 54 ล้านบาท) และการหาประโยชน์จากนักธุรกิจในต่างประเทศ โดยใช้โปรเจกต์ชั่วคราว ‘SuperM’ เป็นเครื่องมือบังหน้าเอง

ขณะที่ผู้บริหารคนใหม่ของบริษัท คือ ทัก ยองจุน (Tak Yong-joon) และคริส ลี ก็ได้ออกมานำเสนอคอนเซปต์ SM 3.0 ว่าจะขจัดระบบการผูกขาดที่เคยเป็นในยุคของ อี ซูมาน และจะเน้นการพัฒนาผ่านทีมโปรดักชันที่ยิ่งใหญ่และหลากหลาย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการผลิตผลงาน ซึ่งมีการอ้างว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ ศิลปินในค่ายจะสามารถปล่อยอัลบั้มได้มากถึง 41 อัลบั้ม ภายในปี 2023 นี้

รวมถึงการสร้างอุตสาหกรรมขยายตลาดเพลงไปทั่วโลก การขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกับกลุ่มแฟนด้อม โดยเชื่อมโยงกับระบบเมตาเวิร์ส (Metaverse) ซึ่งแสดงให้เห็นผ่านจักรวาลโลก AI ที่ถูกเนรมิตขึ้นมาในนามของ ‘กวังยา’ 

นอกจากนั้น หนึ่งในกลยุทธ์ SM 3.0 ที่แตกต่างจากยุค อี ซูมาน คือคุณภาพชีวิตของไอดอลในสังกัด เช่น การยกชูประเด็นปกป้องสิทธิศิลปิน ซึ่งค่าย SM แสดงออกผ่านการเซ็นสัญญาทำงานร่วมกับสำนักงานกฎหมายชินและคิม (Shin & Kim) เพื่อคุ้มครองศิลปินจากความคิดเห็นที่เป็นอันตราย การล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงการละเมิดสิทธิตัดต่อรูปศิลปิน

อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มแฟนคลับบางส่วนเห็นว่า SM 3.0 เป็นการตลาดที่หลอกลวง เพราะยังมีศิลปินจำนวนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียม ซึ่งบางส่วนหยิบยกประเด็นสดๆ ร้อนๆ ของสมาชิก EXO 3 คน ‘เฉิน แบคฮยอน และซิ่วหมิน’ หลังยื่นฟ้องและเปิดเผยเนื้อหาของ ‘สัญญาที่ไม่เป็นธรรม’ ชนิดที่ต้นสังกัด ‘ดิ้นไม่หลุด’ ตลอดทั้งเดือนมิถุนายน 

(ที่มา: SM Entertainment)

แม้ว่าจะได้รับข่าวดี เพราะข้อพิพาทระหว่าง SM กับสมาชิก EXO ยุติด้วยการเจรจาและการแก้ไขสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พร้อมทั้งการขอโทษของต้นสังกัดต่อสมาชิกในวงและข้อกล่าวหาว่าด้วยมือที่ 3 แล้ว 

แต่แฟนๆ ก็ไม่สบายใจ และยังคงมีความกังวลอยู่ โดยเฉพาะกรณีล่าสุดของแทยอน หลังโซวอน (ชื่อแฟนคลับ Girls’ Generation) จำนวนมาก ส่งรถไปประท้วงหน้าตึก SM ถึงตารางทัวร์คอนเสิร์ต ‘The Odd of LOVE’ รวมถึงการรับมือต่อแอนตี้แฟนที่ล่าช้าตั้งแต่ปี 2021

(ที่มา: @309ktyss)

คำตอบที่ว่า SM 3.0 หรือ KWANGYA 119 จะสามารถปกป้องและคุ้มครองผลประโยชน์กับสิทธิของศิลปินได้จริงหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่ยังหาคำตอบอย่างชัดเจนไม่ได้ ต้องให้ ‘กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์’ ถึงการตอกย้ำของ SM ในอนาคตที่ไม่มีใครล่วงรู้

อ้างอิง

https://www.koreaboo.com/news/sm-entertainment-launches-reporting-center-fan-demands-artist-protection/

https://kwangya119.smtown.com/?p=1&k=&m=false

https://twitter.com/withsnsd_th/status/1671709915361214465?s=46&t=hU5hr0FChBcGLsjdifaBZQ

https://popcornfor2.com/content/-news-109649

https://www.korseries.com/sm-denied-exo-s-suho-rumours-and-to-take-legal-action/

https://pantip.com/topic/41853448

https://www.kpopstarz.com/articles/311760/20230316/what-kwangya-119-know-sm-entertainment-new-project.htm

https://workpointtoday.com/hybe-sm/

https://www.nme.com/news/music/exo-sehun-statement-girlfriend-pregnancy-rumours-3421461

https://netizenbuzz.blogspot.com/2015/09/instiz-yeri-reads-malicious-comment.html

https://www.allkpop.com/article/2023/02/dispatch-claims-lee-soo-man-earned-over-570-million-usd-through-embezzlement-and-manipulative-contracts-in-the-past-23-years-while-sm-executives-knowingly-watched

https://women.kapook.com/view264384.html

https://www.bbc.com/thai/international-43467576

https://workpointtoday.com/hybe-sm/

https://twitter.com/kimtaenos/status/1671684538244947968

https://twitter.com/309ktyss/status/1671752041264467968?s=46&t=hU5hr0FChBcGLsjdifaBZQ

Tags: , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,