ไม่ว่าจะเป็นเธอในมิติไหน ทั้งหมดคือ ‘ทิฟฟานี่ ยัง’ ที่สมบูรณ์แบบ

การกลับมาไทยเป็นครั้งที่ 3 ของ ทิฟฟานี่ ยัง ในฐานะศิลปินเดี่ยว ช่วยทำให้ความคิดถึงที่ไม่ได้เจอกันนานถึง 3 ปีจางลงไปบ้าง

แม้เหมือนเราเพิ่งได้พบกับเธอในช่วงเดือนสิงหาคม 2022 กับการกลับมารวมตัวกันทำอัลบั้มเต็มชุดที่ 7 อย่าง FOREVER 1 กับการครบรอบ 15 ปีของวงโซนยอชิแด หรือ Girls’ Generation เกิร์ลกรุ๊ปวงสำคัญที่บุกเบิกแนวเพลงแบบ K-Pop ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง 

แต่หลังจากจบการโปรโมต FOREVER 1 ก็ไม่มีอะไรการันตีได้จัดเจนว่าโซวอนจะได้พบกับพวกเธออีกเมื่อไร

จนกระทั่งได้รู้ข่าวว่าทิฟฟานี่จะมาจัดงานแฟนมีตติ้ง ‘Tiffany Young Fan meeting in Bangkok’ ในวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2023 เหล่าโซวอนและยองวอนต่างดีใจที่จะได้พบกับเธอเร็วกว่าที่คาดไว้ แม้อาจมีการถกเถียงเรื่องสิทธิประโยชน์ในงาน หรือผังราคาที่นั่งกันบ้าง แต่สุดท้ายโซวอนต่างต้องยอมรับว่าพวกเราอยากพบกับเธอมากจริงๆ และรู้ว่าการพบกันครั้งนี้จะต้องได้รับพลังงานบวกติดตัวกลับบ้านไปด้วยแน่นอน

เมื่อโซวอนและยองวอนได้ร้อง เต้น เล่น ไปกับทิฟฟานี่ ยัง 

สำหรับเราที่เป็นโซวอน ไม่ว่าคอนเสิร์ตหรือแฟนมีตติ้งไหนที่ได้เจอสมาชิกของโซนยอชิแดต่างก็ต้องรู้สึกว่าคุ้มค่า ในแฟนมีตติ้งครั้งนี้ก็สร้างความรู้สึกเหมือนวันวานตั้งแต่การเดินเข้าฮอลล์แล้วเห็นโซวอนกับยองวอนสวมใส่เครื่องแต่งกายสีชมพู หรือเมื่อนั่งในฮอลล์แล้วเห็นแท่งไฟสีชมพูส่องแสงท่ามกลางความมืด ไหนจะเสียงกรี๊ดที่เร้าให้ความตื่นเต้นพุ่งทะยาน ไปจนถึง VCR ที่เล่าชีวิตในมิติและบทบาทต่างๆ ของทิฟฟานี่ที่อยู่ในวงการมานานกว่า 15 ปี

ก่อนบทเพลงเดบิวต์คุ้นหูกับจังหวะสนุกสนานอย่าง I Just Wanna Dance (2016) จะเป็นตัวเปิดฉากที่ยืนยันว่าทิฟฟานี่ ยัง อยู่ตรงหน้าเราแล้ว และทำให้ได้รู้ว่าเราคิดถึงเธอมากแค่ไหน จนเผลอน้ำตาคลอทั้งที่เพลงนี้ไม่ได้ซึ้งกินใจอะไรเลยก็ตาม 

สำหรับเรา หนึ่งในเพลงที่ประทับใจมากที่สุดในครั้งนี้คงหนีไม่พ้น Villain (2022) จากอัลบั้ม FOREVER 1 ที่เราได้เคยเขียนความพิเศษของเพลงดังกล่าวไว้ในบทความ Girls’ Generation FOREVER 1: เมื่อโลกใบใหม่กลายเป็นโลกที่เราคุ้นเคย ซึ่งทิฟฟานี่และซูยองได้เป็นส่วนสำคัญในการเขียนเนื้อเพลงและโปรดิวซ์เพลงดังกล่าวด้วยตัวเอง ที่อยากเผยให้เห็นว่าโซนยอชิแดพร้อมแสดงถึงความมั่นใจและสิทธิในการตัดสินใจว่าพวกเธอสามารถ ‘เลือกเส้นทางชีวิตตัวเองได้’

ในงานแฟนมีตตี้ง SNSD 15th Anniversary Fanmeeting: Long Lasting Love เพื่อฉลองครบรอบ 15 ปี ของโซนยอชิแดที่จัดขึ้นในกรุงโซล เกาหลีใต้ พวกเธอไม่ได้ทำการแสดงเพลงนี้ให้โซวอนเห็น และโซวอนไทยก็ได้เห็นท่าเต้นกับการแสดงเพลงดังกล่าวเป็นครั้งแรก 

ทำให้พูดได้อย่างเต็มปากว่าเรารักเพลง Villain ที่ทิฟฟานี่หยิบมาแสดงให้ดูมากๆ และรู้สึกตัวพองขึ้นมาหน่อยหนึ่งเพราะเป็นแฟนคลับกลุ่มแรกที่ได้เห็นการแสดงอันยอดเยี่ยมนี้ 

ร็อกซี่ ฮาร์ต (Roxie Hart) คงเป็นชื่อที่คุ้นหูสำหรับแฟนๆ บอร์ดเวย์ เช่นเดียวกับยองวอนที่คุ้นหูชื่อนี้เพราะทิฟฟานี่มีโอกาสได้รับบทดังกล่าวในการแสดงละครเวทีเรื่องชิคาโก (Chicago) ซึ่งเธอก็ได้ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำเพลง Roxie มาทำการแสดงให้ยองวอนได้เห็นนอกจากเวทีบอร์ดเวย์ เผยความเย้ายวน เซ็กซี่ เต็มไปด้วยเล่ห์กลทรงเสน่ห์ของร็อกซี่ ฮาร์ต ในแบบฉบับของทิฟฟานี่ ยัง 

อีกหนึ่งเพลงที่สองจิตสองใจว่าจะได้ฟังในงานนี้หรือไม่คือ FOREVER 1 ซึ่งทิฟฟานี่ก็ไม่เคยทำให้ใครต้องผิดหวัง เราได้ฟังเพลงครบรอบ 15 ปี ของโซนยอชิแดจริงๆ ซึ่งเธอทั้งร้อง เต้น แอดลิป ไฮโน๊ต เหมาหมดคนเดียวตามแบบฉบับมาดามฮวัง 

เพลงสุดท้ายที่ปิดฉากแฟนมีตติ้งอย่างงดงามคือ Lucky like that (2022) บทเพลงซึ้งๆ จากอัลบั้ม FOREVER 1 ที่มีความหมายว่าหากเรามีความปรารถนาต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งและเชื่อมั่นมายาวนาน สักวันหนึ่งเราอาจจะได้ในสิ่งที่ต้องการ เช่นเดียวกับที่เหล่าโซวอนรอคอยการกลับมาของโซนยอชิแด แล้วความปรารถนานี้ก็สัมฤทธิผลจริงๆ 

ช่วง Lucky Fan ที่ตอนแรกเราคิดว่าอาจจะน่าเบื่อเพราะใช้เวลานานไป กลายเป็นว่าพลังงานบวกของทิฟฟานี่สร้างรอยยิ้มให้กับเราได้ตลอดกิจกรรม เริ่มตั้งแต่ตอนที่เธอสุ่มหาผู้โชคดีขึ้นมาเล่นเกมด้วยกัน เธอเดินเลือกแฟนคลับด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ผสมกับจับฉลากกลุ่มคนดวงเฮงที่สุดในฮอล์นี้ 

เวลาสุ่มผู้โชคดี เธอจะเรียกทุกคนว่า ‘ที่รัก’ หยอดคำหวานไม่ขาดสาย แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าเธอพิเศษ คือช่วงที่ทิฟฟานี่เรียกแฟนคลับคนหนึ่งขึ้นเวที และถามก่อนว่ายองวอนคนนั้นสะดวกที่จะขึ้นมาหรือไม่ และถ้าไม่สะดวกใจ ก็จะไม่กดดันให้เขาหรือเธอคนนั้นต้องขึ้นมาเป็นที่จับจ้องของผู้คนอย่างแน่นอน 

การเล่นเกม Chubby Bunny ระหว่างทิฟฟานี่กับแฟนคลับทำให้เห็นว่าเธอใส่ใจแฟนๆ ของตัวเองมาก คอยถามตลอดว่าไหวไหม อย่าฝืนตัวเองนะ พร้อมกับเชียร์อัปคนที่กำลังแข่งขัน เมื่อเกมจบลงก็ดูแลทุกคนด้วยการคอยหยิบทิชชูหรือน้ำที่ทางผู้จัดเตรียมไว้ให้เธอระหว่างทำการแสดง ทิฟฟานี่แบ่งสิ่งเหล่านี้ให้แฟนๆ และคอยสังเกตแฟนคลับของตัวเองอยู่ตลอดเวลา 

ด้วยความที่ทิฟฟานี่เป็นผู้หญิงที่มีพลังงานบวกเยอะมากๆ และโซวอนกับยองวอนก็รู้จักเธอเป็นอย่างดี บรรยากาศในช่วงดังกล่าวจึงเรียกเสียงหัวเราะให้เราได้ตลอด ยิ่งกับช่วงการแข่งเต้นเพลง FOREVER 1 เธอดูสนุกไปกับแฟนคลับ พูดคุยกับยองวอนผู้โชคดีอย่างเป็นกันเอง 

กลายเป็นว่าความเข้ากันระหว่างทิฟฟานี่กับแฟนคลับลงตัวอย่าบอกใคร 

ไอดอล นักแสดงละครเวที นักแสดงละครจอแก้ว และผู้ผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ

VCR ในแฟนมีตติ้งครั้งนี้ เผยให้เห็นว่าทิฟฟานี่ ยัง เติบโตและมีความสามารถหลากหลายมากขนาดไหน

ส่วน VCR ที่เหล่าโซวอนและยองวอนเตรียมมาให้เธอ ก็เผยให้เห็นว่าทิฟฟนี่ ยัง เป็นคนที่มีทัศนคติที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร 

คลิปวิดีโอที่คล้ายกับสัมภาษณ์ตัวเอง ทำให้เราได้เห็นทิฟฟานี่ ยัง ในแง่มุมต่างๆ แง่มุมหนึ่งเธอคือสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคของตัวเอง อีกมุมหนึ่งเธอเป็นนักแสดงละครเวทีที่ทุ่มเทและเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ส่วนอีกแง่มุมหนึ่ง ทิฟฟานี่สวมบทบาทเป็นนักแสดงซีรีส์ที่ตีบทแตก ไม่ว่าบทบาทไหนเธอก็ทำอย่างเต็มที่ ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค และก็มีบางช่วงเวลาที่รู้สึกเหงาไม่ต่างจากคนอื่นๆ 

VCR ที่เผยชีวิตในมุมต่างๆ ของทิฟฟานี่จึงล้อไปกับช่วงพูดคุยที่จะมีคำถามให้เธอตอบ แต่ต้องตอบด้วยบทบาทต่างๆ ทั่งการเป็นไอดอลทิฟฟานี่ นักแสดงละครเวทีทิฟฟานี่ และทิฟฟานี่ผู้สวมบทบาท เรเชล จากเรื่อง Reborn Rich (2022) แต่ละมุมก็เผยให้เห็นความแตกต่างชัดเจนแม้ทั้ง 3 บทบาทจะเป็นทิฟฟานี่ ยัง ทั้งหมดก็ตาม 

เธอได้ชวนคิดถึงประเด็นเกี่ยวกับการทำตามความฝัน ในแง่การเป็นไอดอล เธอฝันเสมอว่าอยากจะทำเพลงกับสมาชิกโซนยอชิแดไปเรื่อยๆ และถ้ามีเงินจำนวนมหาศาลกองอยู่ตรงหน้า ก็จะไม่รอช้ารีบตามเพื่อนๆ มาทำเพลงร่วมกันอีกครั้ง เพราะเวลา 5 ปี หลังเมมเบอร์แยกย้ายกันไปทำตามความฝันอื่นๆ นอกจากการเป็นเกิร์ลกรุ๊ป ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่บางอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ขณะเดียวกันบางอย่างยังคงเหมือนเดิม 

ประเด็นการรักและตระหนักในคุณค่าของตัวเอง นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทิฟฟานี่ย้ำเตือนแฟนคลับของเธอมาโดยตลอด เธอมักบอกตัวเองว่าต้องมั่นใจ ภูมิใจในตัวเอง และอยากให้ทุกคนมั่นใจแบบที่เธอเป็น ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง เราสัมผัสได้ถึงพลังงานบวกดีๆ ที่ผู้คนกว่า 3,500 คนรวมถึงทิฟฟานี่ ส่งพลังงานบวกให้กันและกัน แล้วทำให้ธันเดอร์โดมเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเคล้ากับความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ 

ทิฟฟานี่ย้ำกับแฟนๆ ว่า ‘Forever  Wishing’ เป็นคำที่มีความหมายกับเธอมาก และหวังว่าจะมีความหมายกับทุกคนเช่นกัน แม้จะต่างชาติ ต่างภาษา วันนี้คุยกันทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลี แต่ความต่างนี้ทำอะไรพวกเราไม่ได้ ซ้ำยังอยู่ด้วยกันมาตลอด 15 ปี เพราะสิ่งที่เรามีเหมือนกันคือความรัก ที่ทำให้ทุกคนยังคงอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ก่อนจะบอกกับแฟนคลับว่าวันนี้อยากจากกันไปด้วยรอยยิ้ม จะไม่มีการร้องไห้ จะต้องไม่มีน้ำตาอย่างเด็ดขาด

ไม่นานหลังเธอพูดว่าวันนี้จะไม่ร้องไห้ จอภาพทั้งหมดก็เผยให้เห็นคลิป VCR โปรเจกต์ที่โซวอนเตรียมไว้ให้กับทิฟฟานี่ และหนึ่งในพาร์ตที่เราประทับใจมากที่สุด (อีกครั้ง) คือการที่แฟนคลับชาวไทยหยิบยกคลิปที่เธอเคยแสดงจุดยืนสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ และสนับสนุนผู้คนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) มาพูดถึงในแฟนมีตติ้งครั้งนี้ 

ย้อนกลับไป มีหลายครั้งหลายหนที่เหล่าแฟนคลับไอดอลต่างตั้งคำถาม ว่าเคยมีไอดอลคนไหนออกมาพูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ หลายครั้งหลายหนชื่อของทิฟฟานี่ ยัง มักถูกลืม ทั้งที่เธอนั้นพูดถึงประเด็นนี้ไม่น้อยกว่าใคร ซึ่งเราต่างจดจำได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อมีคำถามเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เธอไม่เคยรีรอที่จะตอบ 

“ไม่ผิดใช่ไหมที่จะชอบเพศเดียวกัน” 

เมื่อเกือบสิบกว่าปีก่อน ไม่แน่ใจว่าช่วงเวลาไหน เคยมีคนเขียนข้อความมาถามเธอเกี่ยวกับประเด็นทางเพศที่ยังคงละเอียดอ่อนในเกาหลีใต้

“แน่นอนว่าไม่ผิด เราสามารถชอบใครก็ตามที่เราอยากชอบ” 

เธอตอบคำถามนี้ทันที

หรือการเคยถูกถามว่าตั้งใจให้เนื้อเพลง Over My Skin (2018) เป็นกลางทางเพศหรือเปล่า เธอก็ตอบกลับมาว่า “music is for everyone”

ในช่วง Pride Month ปี 2018 เธอก็ยืนหยัดในจุดยืนของตัวเองอีกครั้ง ด้วยการส่ง ‘จดหมายรัก’ ให้กับคอมมูนิตี LGBTQ+ ใจความว่า

“ตลอดอาชีพการทำงานของฉัน กับการอาศัยอยู่ทั้งเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา มีหลายครั้งที่วัฒนธรรมและสังคมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทำให้รู้สึกหลงทางและโดดเดี่ยว ในช่วงเวลาแบบนั้นทำให้ฉันเข้าใจถึงความสำคัญในการรักตัวเอง ความรักนี้มันไม่มีเงื่อนไข 

“ขณะเดียวกัน การยอมรับ เสรีภาพในการแสดงออก และการรู้สึกมีความหวัง ก็เป็นสิ่งที่ชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศมอบให้กับฉันมาโดยตลอด พวกคุณเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันเสมอ ส่งพลังงานบวกในช่วงที่รู้สึกเดินมาถึงทางตัน พลังงานบวกจากพวกคุณทำให้มีความกล้าที่จะก้าวต่อไป และรู้สึกมีความสุข ควบคู่กับความรู้สึกขอบคุณบุคคลอันเป็นที่รักจากชุมชน LGBTQ+ ที่มอบความรักให้กับงานและชีวิตของฉัน 

“ฉันเขียนจดหมายนี้เพื่อส่งความรักและกำลังใจ แม้พวกคุณจะมีจุดมุ่งหมายอีกหลายอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จ แต่เมื่ออยู่ด้วยกัน พวกคุณนั้นสวยงามและแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันเชื่อว่าเราสามารถก้าวผ่านสิ่งต่างๆ ไปได้แน่นอน ความเท่าเทียมที่ถูกสื่อออกมาผ่านงาน Pride Month ในทุกๆ ปี กำลังบอกกับเราว่าโลกใบนี้เติบโตและตระหนักรู้มากขึ้นเรื่อยๆ 

“ขอบคุณที่ชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศมอบความรัก ความสวยงาม แรงบันดาลใจ และแสงสว่างให้กับผู้คนทุกมุมโลก ความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความเห็นอกเห็นใจของพวกคุณสร้างแรงบันดาลใจให้เรา แม้บางครั้งพวกคุณจะต้องดิ้นรนจากสถานการณ์ที่เจ็บปวด ซึ่งบางครั้งความเจ็บปวดนั้นก็มีแต่พวกคุณเท่านั้นที่รู้

“I stand by you and celebrate you not only on this day, but every day.”

(ฉันยืนเคียงข้างคุณและเฉลิมฉลองให้กับคุณ ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่คือทุกวัน)

อย่างไรก็ตาม การแสดงออกว่าพร้อมเป็นเพื่อนและซัพพอร์ตผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนบางกลุ่มในเกาหลีใต้โจมตีเธอด้วยถ้อยคำร้ายๆ ด่าทอเสียดสีเพียงเพราะเธอแสดงจุดยืนสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ และมันก็เป็นแบบนั้นเสมอมาจนถึงปัจจุบัน 

การที่ VCR ของเหล่าแฟนคลับหยิบประเด็นนี้มาขอบคุณเธอ จึงทำให้เราเกิดความรู้สึกว่ากลุ่มคนที่ทำคลิปวิดีโอนี้ คงอยากบอกให้ทิฟฟานี่ได้รับรู้ว่าสิ่งที่เธอทำนั้นถูกต้อง ไม่ได้ผิดอะไรเลยที่จะสนับสนุนความเท่าเทียมหลากหลายทางเพศ และพวกเราภูมิใจกับการแสดงออกนี้มากขนาดไหน 

นอกจากนี้ พาร์ตอื่นๆ ของวิดีโอที่เปรียบเทียบว่าทิฟฟานี่อยู่กับแฟนคลับเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นช่วงนักเรียนคอซอง ตอนที่เป็นพนักงานออฟฟิศ หรือการผ่านเรื่องราวต่างๆ ในหลายช่วงชีวิต เสมือนกับกำลังขอบคุณที่เธอเป็นแรงบันดาลใจ เป็นความสุข และเป็นช่วงเวลาดีๆ ท่ามกลางบางครั้งที่พวกเราพบเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต แต่เสียงเพลงของเธอ การได้พูดคุยกับเธอผ่านบับเบิล (Bubble) การเจอกันในคอนเสิร์ตหรือแฟนมีตติ้ง ก็คอยปลอบประโลมให้ผ่านช่วงเวลาแสนทรมานไปได้อีกครั้ง 

เหมือนกับที่แฟนคลับดวงเฮงคนหนึ่งเอ่ยกับทิฟฟานี่ว่า ขอบคุณที่ทำให้ตัวเธอยังอยู่ ทิฟฟานี่เป็นทั้งแรงบันดาลใจและเป็นคนที่ทำให้เธออยากมีชีวิตอยู่ต่อ 

การพบกันครั้งนี้ เหมือนเป็นเครื่องยืนยันว่าทั้งบทบาทไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป ศิลปินเดี่ยว นักแสดงละครเวที นักแสดงละครจอแก้ว เมนเทอร์ และนักผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ 

ไม่ว่าจะเป็นเธอในมิติไหน ทั้งหมดก็คือทิฟฟานี่ ยัง ที่สมบูรณ์แบบด้วยกันทั้งนั้น 

อ้างอิง

– https://www.billboard.com/culture/pride/tiffany-young-gay-pride-love-letter-lgbt-8462334/