เมื่อวานนี้ (6 พฤศจิกายน 2023) สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า ชายคนหนึ่งในเกาหลีใต้ ถูกจับกุมตัวในข้อหาทำร้ายพนักงานพาร์ตไทม์หญิงของร้านสะดวกซื้อ เพราะคิดว่า เธอเป็นกลุ่มเฟมินิสต์ (Feminist) เนื่องจากไว้ผมสั้น 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ เมืองจินจู (Jinju: 진주) จังหวัดคยองซังใต้ ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นชายวัยรุ่นรายหนึ่ง เดินเข้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในตอนเที่ยงคืน แต่ปรากฏว่าเขาชกหน้าและเตะพนักงานหญิงในร้าน อีกทั้งยังพยายามแทงลูกค้าวัย 50 ปี ที่เข้ามาช่วยเหลือหญิงสาว ก่อนสถานการณ์ยุติลงเมื่อตำรวจมาถึง

“เพราะคุณไว้ผมสั้น คุณต้องเป็นเฟมินิสต์แน่ๆ ผมเชื่อเรื่องชายเป็นใหญ่ และคิดว่าเฟมินิสต์สมควรถูกทำร้าย” ประโยคที่ชายผู้ต้องหาพูดกับเหยื่อ ซึ่งบอกกับตำรวจตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮับนิวส์ (Yonhap: 연합뉴스)

เบื้องต้น ศาลอนุมัติหมายจับในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2023 และให้ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ในฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัส และทำลายทรัพย์สิน ทว่าเขาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยอ้างว่าอยู่ในสภาวะมึนเมาจากการดื่มสุรา และจำเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้

การกล่าวอ้างนี้ตรงกับคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีการเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาอยู่ในอาการมึนเมาระหว่างก่อเหตุ และก่อนหน้านี้เคยมีประวัติเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาโรคจิตเภท 

นอกจากนี้ ทางการระบุว่า คดีดังกล่าวยังไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติมจนกว่าเหยื่อจะหายดี เนื่องจากพนักงานหญิงมีอาการบาดเจ็บสาหัสบริเวณหูและกล้ามเนื้อเอ็น แต่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต ขณะที่เหยื่ออีกรายซึ่งเป็นลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ มีอาการบาดเจ็บที่หน้าและไหล่จากการกระแทกกับเก้าอี้

ความคิดเห็นจากนานาชาติต่อเหตุการณ์ครั้งนี้

เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเผยแพร่ในเรดดิต​ (Reddit) เว็บไซต์รวบรวมข่าวสารจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้มีผู้คนมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกัน

“แล้วพวกคุณก็บอกว่า ประเทศตนเองมีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก” คอมเมนต์หนึ่งเหน็บแนมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสื่อนัยว่า ผู้หญิงหลายคนในเกาหลีใต้เลือกที่จะไม่มีครอบครัว เพราะถูกเหยียดหยามจากสังคมชายเป็นใหญ่

“มันมีหลายเหตุผลมากที่ผู้หญิงไว้ผมสั้น ไม่ใช่แค่เป็นเฟมินิสต์ แต่การที่ผู้ชายโจมตีหญิงสาวเพราะทรงผมเป็นสาเหตุที่บ่งบอกได้ว่า ทำไมเราจึงควรเป็นเฟมินิสต์ตั้งแต่แรก” คอมเมนต์ต่อมาเผยความในใจ

“แบบนี้อาจุมม่าที่ฉันรู้จักคงเป็นเฟมินิสต์หัวรุนแรงหมดแล้วสิ” คอมเมนต์ที่สองตอบกลับกระทู้

“ฉันโคตรเกลียดผู้ชายเกาหลีที่เชื่อโฆษณาชวนเชื่อของ แอนดรูว์ เท็ต เหมือนกับว่า พวกเขาแค่อายุ 16 ปี ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ และไม่พัฒนาตรรกะคิด วิเคราะห์ แยกแยะ” คอมเมนต์ดังกล่าวพูดถึง แอนดรูว์ เท็ต (Andrew Tate) อดีตนักมวยชาวอเมริกัน-อังกฤษ ที่ผันตัวมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง 

เท็ตเป็นที่รู้จักจากการยอมรับว่า ตนเองมีความเกลียดชังต่อเพศหญิง (Misogyny) และครั้งหนึ่งเคยเปิดเผยว่า เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ รวมถึงเรียกร้องให้ผู้หญิง ‘รับผิดชอบตนเอง’ จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ

“พวกอินเซลเกาหลี เยี่ยมไปเลย ฉันหวังว่าพนักงานผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเฟมินิสต์แล้วจริงๆ ขอให้เธอปลอดภัย และตำรวจโยนไอบ้านั่นเข้าคุกไปซะ แต่หากผู้ชายคนนั้นเมาตามคำกล่าวอ้าง ทางการก็อาจจะลงโทษเขาเล็กน้อย” ความคิดเห็นนี้ทิ้งท้ายบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างน่าสนใจ

ผมสั้น=เฟมินิสต์: ชะตากรรมของเพศหญิงที่ต้องรับจบ

ย้อนกลับไปในปี 2021 ข้อถกเถียงว่าด้วยเรื่องผู้หญิงผมสั้น เคยเป็นประเด็นครั้งใหญ่ในสังคมเกาหลี หลัง อัน ซาน (An San) นักกีฬายิงธนูหญิงทีมชาติเกาหลีใต้ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตในโลกโซเชียลมีเดีย เพราะทรงผมที่สั้น ดูไม่เหมือนผู้หญิงตามอุดมคติ แม้ว่าในเวลานั้น เธอนำชัยชนะอันน่าภาคภูมิใจมาสู่คนทั้งประเทศ

(ภาพ: Naver)

“เธอเก่งนะที่ได้เหรียญทอง (ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น) แต่ผมสั้นทำให้เธอเหมือนเฟมินิสต์ ถ้าเธออยู่ในกลุ่มเคลื่อนไหวนี้จริงๆ ผมจะเลิกสนับสนุนเธอ” 

คอมเมนต์ข้างต้นจุดประกายการเคลื่อนไหวของหญิงสาวทั่วเกาหลี โดยเกิดแคมเปญ #Women_Shortcut_Campaign จาก ฮัน จียอง (Han Ji-young) เมื่อผู้หญิงนับพันคนเริ่มโพสต์ภาพของตนเอง และย้ำว่า ผมสั้นเช่นนี้ไม่ได้ทำให้พวกเธอเป็นผู้หญิงที่ผิดแปลกแต่อย่างใด ขณะที่บางคนเปิดเผยว่า เธอตัดผมสั้นเพราะได้รับแรงบันดาลใจจาก อัน ซาน

อย่างไรก็ตาม สาเหตุสำคัญที่ผมสั้นเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเฟมินิสต์ เนื่องจากในปี 2018 เป็นต้นมา เกิดขบวนการเคลื่อนไหว ‘Cut the Corset’ หรือการหลุดออกจากค่านิยมความงามตามแบบฉบับ ‘K-Beauty’ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าสัดส่วนทองคำ รูปร่างที่ผอมแห้ง ผมยาวสลวย การแต่งเติมใบหน้าด้วยเครื่องสำอางสีเข้ม และผิวขาวผ่อง ทำให้ชวนนึกถึงตุ๊กตาพอร์ซเลนในตู้กระจก 

ผู้หญิงหลายคนในขบวนการนี้จึงเคลื่อนไหวด้วยการไม่แต่งหน้า ตัดผมสั้นไปจนถึงโกนหัว และแก้ผ้าถ่ายรูป เผยให้เห็นจุดตำหนิหรือรอยแตกบนเนื้อตัวที่ขัดกับค่านิยมมาตรฐานความงามของสังคม

“ผู้หญิงไม่ได้ต้องการทำลายวงการเครื่องสำอางด้วยการลบสีสันที่เติมแต่งบนใบหน้าของเธอ แต่เป้าหมายของพวกเธอ คือการกำจัดระบอบปิตาธิปไตยที่มีผู้ชายเป็นศูนย์กลาง” ยุนคิม จียอง (Yoon-Kim Ji-Yong) ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยคอนกุก (Konkuk University) อธิบายถึงขบวนการเคลื่อนไหวนี้ และเสริมว่า ความภาคภูมิใจในตนเองของหญิงสาวหลายคนตกต่ำลง เพราะสังคมต่างตราหน้าให้พวกเธอต้องดูสวย ผอม และอ่อนวัยตลอดเวลา 

 (ภาพ: NPR)

Femicide และความรุนแรงต่อผู้หญิงในเกาหลีใต้: ปัญหาที่ยังซุกซ่อนใต้พรมสีเลือด เพราะสังคมชายเป็นใหญ่และผู้มีอำนาจ

เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศในโลกที่ไร้ความปลอดภัยสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะเรื่องราวการฆาตกรรมผู้หญิงที่เกิดจาดความเกลียดชัง (Femicide) และความรุนแรงทางเพศ ที่มักเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

ทั้งหมดนี้สะท้อนจากผลการสำรวจของกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศและครอบครัว (Ministry of Gender Equality and Family) ในปี 2021 ว่า เหยื่อการใช้ความรุนแรงเป็นผู้หญิงถึง 80% ขณะที่ประชากร 57.8% ระบุว่า พวกเธอกลัวความรุนแรงที่เกิดจากความเกลียดชังเพศหญิง

นอกจากนี้ Korea Women’s Hot Line กลุ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศเปิดเผยว่า มีคดีฆาตกรรมผู้หญิงมากกว่า 83% ที่เกิดจากบุคคลใกล้ตัว ดังเรื่องราวการเสียชีวิตของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ถูก จอน จูฮวาน (Jeon Joo-Hwan) อดีตเพื่อนร่วมงานชายสังหารด้วยการแทงในสถานีรถไฟกังนัม (Gangnam) เมื่อปี 2019 เพราะความแค้นส่วนตัวที่ทำให้เขาถูกไล่ออก เมื่อฆาตกรรายนี้ได้ส่งข้อความคุกคามและพยายามข่มขู่เหยื่อในที่ทำงาน 

แม้รัฐบาลเกาหลีใต้จะพยายามหาทางออกวิกฤตดังกล่าว ด้วยการสร้าง ‘ถนนสำหรับผู้หญิง’ ในเขตกวานัก (Gwanak) หลังเกิดเหตุฆาตกรรมหญิงวัย 34 ปี แต่ก็ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดย ชเว อินโฮ (Choi In-ho) สมาชิกพรรคพลังประชาชน (People Power Party) ของ ยุน ซอกยอล (Yoon Suk-yeol) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนปัจจุบัน แสดงความคิดเห็นว่า ถนนเส้นนี้เป็นการ ‘ทิ้งผู้ชาย’ ไว้ข้างหลัง โดยปราศจากการปกป้อง

“เราได้ตัดงบประมาณ 74 ล้านวอน (ประมาณ 2 ล้านบาท) ที่จะสร้างถนนสำหรับผู้หญิง และเพิ่มการสร้างถนนที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนแทน” ชเว อินโฮกล่าวในปี 2022 ก่อนได้รับเสียงเรียกร้องให้ลาออก ขณะที่นักเคลื่อนไหวบางส่วนลงความเห็นว่า คำพูดเช่นนี้เป็นการสร้างความขัดแย้งทางเพศ และบั่นทอนความปลอดภัยของเพศหญิง

 

อ้างอิง

https://www.reddit.com/r/korea/comments/17oflzw/young_south_korean_man_arrested_after_assaulting/

https://www.bbc.com/news/world-asia-67330628

https://www.yna.co.kr/view/AKR20231105030200057?input=1195m

https://www.theguardian.com/commentisfree/2023/jan/08/andrew-tate-isnt-feminisms-inadvertent-bastard-child-hes-sexisms-last-gasp

https://www.npr.org/2019/05/06/703749983/south-korean-women-escape-the-corset-and-reject-their-countrys-beauty-ideals

https://www.leftvoice.org/femicide-in-south-korea-the-state-and-bosses-are-responsible/

https://www.koreaherald.com/view.php?ud=20230207000659

https://english.hani.co.kr/arti/english_edition/e_national/1105184.html

Tags: , , , , , , , , , , , , ,