ประเทศไทยมักถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่รถติดมากที่สุดอันดับต้นๆ ของโลกอยู่บ่อยครั้ง และไม่ต้องใช้สถิติอะไรมาวัด เรากะเกณฑ์ด้วยสายตาและประสบการณ์บนท้องถนนก็พอจะคาดเดาได้ว่ากรุงเทพฯ น่าจะเป็นเมืองที่มีปัญหาสาหัสที่สุดเมืองหนึ่งในเรื่องการเดินทาง

ซึ่งจากรายงานการประเมินสภาพจราจรทั่วโลก ประจำปี 2016 หรือ Global Traffic Scorecard Report บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการจราจร INRIX เผยว่า ไทยเป็นประเทศที่รถติดมากเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยในแต่ละเมืองทั่วประเทศ คนไทยเสียเวลาเฉลี่ยราว 61 ชั่วโมงต่อปีไปกับรถติดบนถนน

พ.ร.บ เงินกู้สองล้านล้านในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ หวังเปลี่ยนประเทศด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ มอเตอร์เวย์ และรถไฟฟ้าหลายสี แม้สุดท้ายจะไปไม่ถึงดวงดาว แต่ก็เหมือนตัวจุดประกายที่ให้รัฐบาลต่อมาทบทวนและให้ความสำคัญ

สำหรับการเลือกตั้งปี 62 หลายพรรคการเมืองต่างชูนโยบายด้านคมนาคมกันอย่างเข้มข้น เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่านโยบายคมนาคมเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

The Momentum รวบรวมนโยบายด้านคมนาคมของพรรคการเมืองต่างๆ จากงานสัมมนา พลิกโฉมไทย เปิดประตูสู่เศรษฐกิจนวัตกรรม ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 62 ที่ผ่านมา และประมวลข้อมูลนโยบายจากเว็บไซต์หลักของแต่พรรคมาให้พิจารณากันว่า แต่ละพรรคจะทำให้คุณภาพการเดินทางของคนไทยดีขึ้นอย่างไร

‘เมืองน่าอยู่ เมืองเดินได้’ ขนส่งสาธารณะต้องพาเราไปถึงบ้าน

พรรคเพื่อไทยเสนอนโยบาย เมืองน่าอยู่ เมืองเดินได้ ด้วยการพัฒนาขนส่งสาธารณะที่เป็นจุดเชื่อมต่ออย่าง รถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ และรถกระป๊อ ให้เป็นระบบเดียวกันและมีคุณภาพ เพื่อให้นำเราจากบ้านไปสู่สถานีรถไฟฟ้าหรือจุดเชื่อมต่ออื่นๆ ได้อย่างไม่มีสะดุด เนื่องจากการขนส่งเหล่านี้เป็นวิธีการเดินทางที่สำคัญของคนที่มีรายได้น้อย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

ขณะที่ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยชี้ว่า ปัญหารถติดส่วนหนึ่งไม่ได้เกิดจากมีรถยนต์มากเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากคนไม่ใช้ขนส่งสาธารณะ เนื่องจากไม่สามารถพาเราจากบ้านไปถึงที่ทำงานได้อย่างสะดวก จึงจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยจะต้องมีการทำระบบการเดินทางอัจฉริยะ แก้ปัญหาความซ้ำซ้อนของหน่วยงานที่ดูแลด้านการจราจรที่มีมากถึง 37 หน่วยงาน และให้ความสำคัญกับรถเมล์โดยสารที่จะต้องปรับปรุงรถเมล์ใหม่ให้มีคุณภาพและเพียงพอต่อประชาชน เพราะรถไฟฟ้าคงไม่ได้เข้าไปถึงทุกพื้นที่ ขณะเดียวกัน ก็ยกระดับการเชื่อมต่อกับรถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก และสามล้อเครื่อง อีกทั้งมีการจัดสิ่งแวดล้อมรอบสถานีรถไฟฟ้าให้สามารถเดินเท้าโดยสะดวกเหมือนกับประเทศสิงคโปร์

ชัชชาติย้ำว่าการเดินเท้าเป็นสิ่งสำคัญ จึงมีแนวคิดสร้างเมืองเดินได้ โดยบริเวณรัศมี 500 – 800 เมตรของสถานีรถไฟฟ้า ต้องเป็นพื้นที่ที่ประชาชนเดินเท้าได้สะดวก ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อีกในอนาคต

‘กรุงเทพ สะดวก สบาย’ รถติด วิกฤตฝุ่น แก้ด้วยดิจิทัล

พรรคภูมิใจไทยนำแนวคิดแบบดิจิทัลเข้ามาแก้ปัญหาคมนาคมทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเริ่มจากการทำให้ Grab ถูกกฎหมาย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้คนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ เดินทางสะดวกยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาความเจ็บปวดจากบริการแท็กซีที่มักปฏิเสธผู้โดยสาร และความไม่แน่นอนของราคาและเวลา เพราะตัวเลือกแบบ Grab จะช่วยตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น และทำให้คนที่มีรถขับอยู่แล้วสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

ซึ่ง พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย บอกว่าจะนำคลื่นความถี่ 5 จี เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่สนับสนุนการเดินทางทุกรูปแบบ และช่วยให้คนทำงานสามารถทำงานหรือเรียนหนังสือจากพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งเข้าหาความเจริญในเมืองเสมอไป

จึงเป็นที่มาของนโยบาย ทำงาน 4 วัน และอีก 1 วันทำงานที่บ้าน ที่จะส่งเสริมให้มาตรการนี้ใช้กับทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อที่จะลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน และลดปริมาณมลภาวะในอากาศไปในตัว

ประชันนโยบายพรรคการเมือง EP 01: สุขภาพ

ประชันนโยบายพรรคการเมือง EP 03: ศิลปวัฒนธรรม

ประชันนโยบายพรรคการเมือง EP 04: วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

‘ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน’ คุณภาพดี ราคาถูก เข้าถึงง่าย

ด้านนโยบายคมนาคมของพรรคอนาคตใหม่ มีแนวคิดลดความซ้ำซ้อนของงบประมาณในการทำโครงการ และเปลี่ยนมาพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อให้ได้ประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ มีการพัฒนาขนส่งสาธารณะอย่างรถเมล์ให้มีคุณภาพ สามารถพาเราไปถึงจุดเชื่อมต่อต่างๆ ทั้งสถานีรถไฟฟ้า และสนามบิน ด้วยราคาต่อเที่ยวที่ถูกและเข้าถึงง่าย พร้อมใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำให้ระบบขนส่งสาธารณะเหมาะกับปริมาณผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่

โดยการลงทุนระบบขนส่งสาธารณะจะต้องมีความสอดคล้องกับปริมาณการใช้งานในแต่ละพื้นที่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องทุกลงสร้างรถไฟฟ้าในทุกเส้นทาง เป็นการประหยัดงบประมาณไปในตัว

พรรคอนาคตใหม่ยังมองว่า ปัญหารถติดของคนกรุงเทพฯ เกิดจากการออกแบบเมืองที่เน้นถนนเป็นหลัก และนโยบายซ้ำซ้อนที่เน้นลงทุนสร้างถนนเพื่อรองรับรถที่มีจำนวนคันมาก ในขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ กลับไม่ถูกพัฒนา

สุรเชษฐ ประวีณวงศ์วุฒิ ที่ปรึกษานโยบายด้านคมนาคม พรรคอนาคตใหม่ยังเสนอเปลี่ยนรถเมล์ร้อนเป็นรถเมล์ไฟฟ้าติดแอร์ที่มีต้นทุนถูกลงจากการผลิตในประเทศแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ และทุกคนสามารถใช้บริการได้ โดยมีแผนระยะยาวคือบูรณาการหลายหน่วยงานเข้าด้วยกัน ลดความซ้ำซ้อนของโครงการต่างๆ การพัฒนาระบบราง และใช้เทคโนโลยีไฮเปอร์ลูป

‘Logistic สร้างชาติ’ เร่งสร้างรถไฟฟ้า ปรับค่าบริการถูกลงเกือบครึ่ง

ฟากพรรคประชาธิปัตย์มีแนวคิดพัฒนารถไฟฟ้าควบคู่ไปกับรถเมล์ โดยนำเสนอนโยบายเร่งสร้างรถไฟฟ้าทุกสี และรถไฟรางคู่ที่ปัจจุบันมีระยะยาง 400 กิโลเมตร แต่ถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์จะสร้างรถไฟรางคู่ให้ครอบคลุมระยะทาง 3,000 – 5,600 กิโลเมตร ภายใน 10 ปี และเชื่อมต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงจากนครราชสีมา-หนองคาย-เวียงจันทน์ อีกด้วย

ไฮไลต์สำคัญคือการลดค่าบริการรถไฟฟ้าที่รัฐบาลรับผิดชอบ เช่น สายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) ให้เหลือเที่ยวละ 15 บาทตลอดสาย จาก 42 บาท และรถไฟฟ้าที่ให้บริการร่วมกับ BEM คือ สายสีม่วง + สีน้ำเงินเหลือ 43 บาทตลอดสาย จากที่เราต้องจ่ายกันสูงถึง 70 บาทตลอดสาย

สามารถ ราชพลสิทธิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ เสนอลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่รัฐบาลลงทุนเอง 100% เป็น 15 บาทตลอดสาย  เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง จาก 14-42 บาท เป็น 15 บาท และสายสีน้ำเงิน ช่วงบางใหญ่-หัวลำโพง จากสูงสุด  70 บาท ลดเหลือ 43 บาท หรือลดประมาณ 40 %

ขณะที่จะนำรถเมล์พลังงานไฟฟ้ากว่า 5,000 คัน มาวิ่งให้บริการ พร้อมปรับเส้นทางเดินรถให้สอดคล้องกับเส้นรถไฟฟ้าเพื่อให้มีขนส่งสาธารณะรองรับการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคล และพลังงานเชื้อเพลิง

พร้อมนำเสนอนโยบายคาร์พูล ทางเดียวกันไปด้วยกัน ที่นอกจากช่วยลดปริมาณรถยนต์แล้ว ยังช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ผ่านการใช้แอปพลิเคชั่น โดยที่เจ้าของรถสามารถกำหนดเวลาและสถานที่ให้เพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยในราคาไม่แพง

‘Bangkok OK’ ฉลาด ลื่นไหล ประหยัด ง่าย ปลอดภัย

พรรคพลังประชารัฐก็บอกว่าทางพรรคพร้อมจะต่อยอดทุกโครงการที่รัฐบาลทำไว้ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยมีเรื่องเร่งด่วนที่จะทำ คือการแก้ไขปัญหาการจราจร เพราะขณะนี้คนใช้รถยนต์ส่วนตัวมากเกินไป ต้องส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะให้ได้มากที่สุด มีนโยบายเด่นคือ บัตรตั๋วร่วมบัตรใบเดียวใช้บริการได้ทุกระบบขนส่งเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และยังเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง และการเดินทางทางเรือที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทย

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พูดถึง Bangkok Card บัตรเดียวใช้ได้ทุกอย่าง ที่จะมาสานฝันชาวกรุงเทพฯ ให้ใช้ได้กับการเดินทางขนส่งสาธารณะทุกประเภทอีก พร้อมยกเอา AI เข้ามาช่วยให้จัดการจราจรบนถนน เพื่อให้เราสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้นผ่านแอปพลิเคชั่น

เปลี่ยนรถถังเป็นรถเมล์

อีกหนึ่งพรรคที่มีนโยบายด้านคมนาคมที่น่าสนใจคือพรรคประชานิยมของพล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ หัวหน้าพรรค ที่ชูนโยบายลดค่าโดยสารรถเมล์ปรับอากาศเป็น 10 บาทตลอดสาย และ 40 บาท ขึ้นได้ทั้งวัน พร้อมกับยกเลิกการเก็บภาษีรถจักรยานยนต์และรถบรรทุกขนาด 1 ตัน เป็นการถาวร

พรรคประชานิยมยังเอาใจคนกรุงเทพฯ โดยจะเอางบซื้อรถถังมาซื้อรถเมล์ปรับอากาศ NGV แบบชานต่ำจำนวน 6,000 คัน และรถโดยสารปรับอากาศแบบ 20 ที่นั่ง อีก 4,000 คัน รวมเป็น 10,000 คัน เพื่อให้บริการประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเก็บค่าโดยสาร 10 บาท และ 40 บาทตลอดทั้งวัน และเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าทุกสถานี

อ้างอิง:

Tags: , , , ,