เนื่องจากปี พ.ศ. 2562 นี้ เป็นวาระครบรอบ 500 ปีมรณกาลของศิลปินชื่อก้อง เลโอนาร์โด ดา วินชี (เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2062) พิพิธภัณฑ์และสถานที่ต่างๆ ในหลายประเทศจึงจัดนิทรรศการแสดงผลงานและบรรยายชีวประวัติของ ดา วินชี จิตรกรอัจฉริยะ ตั้งแต่เมษายนปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เช่น หอศิลปะประจำเวนิซ GALLERIE DELL’ACCADEMIA, หอสมุดแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (The British Library), หอศิลป์แห่งชาติที่กรุงลอนดอน (The National Gallery), นิทรรศการสื่อผสม ‘อิตาเลียน เรอเนสซองส์’ ที่อาคาร River City Bangkok
แต่ที่ที่มีการพูดถึงมากที่สุดย่อมต้องเป็นนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ประเทศฝรั่งเศส ที่ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ให้การสนับสนุน และนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ศิลปะและสถานที่ท่องเที่ยวสิบแห่งในอิตาลี เพราะทั้งสองประเทศต่างมีผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงของดา วินชีอยู่มากที่สุด นิทรรศการของทั้งสองประเทศต่างโฆษณาอย่างยิ่งใหญ่ มีการลงทุนมหาศาล เตรียมการล่วงหน้าหลายปีและกลายเป็นสถานการณ์ความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศไปอย่างคาดไม่ถึง
ประเทศอิตาลีและประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีความสำคัญกับเลโอนาร์โด ดา วินชี เป็นอย่างมาก โดยประเทศอิตาลี เป็นภูมิลำเนาและที่ที่ดา วินชี ได้เติบโต ฝึกปรือฝีมือและผลิตผลงานจำนวนมาก ส่วนประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ดาวินชีได้มาพักพิงตามพระบรมราชโองการของกษัตริย์ฟรานซิสที่หนึ่งแห่งฝรั่งเศส และเป็นที่ผลิตผลงานในช่วงสามปีสุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิตที่ปราสาท Clos Lucé ที่ฝรั่งเศสนี้เอง
หลายเดือนที่ผ่านมา มีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส เพราะทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเจรจาหาข้อตกลงในเรื่องการขอยืมภาพเขียนชื่อดังที่สุดของดา วินชี จำนวนหลายภาพในอิตาลี มาจัดแสดงในฝรั่งเศสได้ โดยเมื่อปลายปี 2561 ส.ว. ลูซีอา บอร์กอนซอนี แห่งพรรค Lega Nord ของอิตาลีได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Corriere della Sera ว่า “ประเทศฝรั่งเศสจะได้ไปทุกอย่างไม่ได้ ในเมื่อดา วินชี เป็นคนอิตาเลียน และแค่บังเอิญเสียชีวิตในฝรั่งเศสเท่านั้น”
ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นสามารถวิเคราะห์หาสาเหตุได้หลายประเด็น ทั้งในด้านความบอบบางของงานศิลปะ ที่จำเป็นจะต้องมีเทคนิคในการขนส่งงานศิลปะอายุหลายร้อยปีอย่างปลอดภัย การลงทุนจัดเตรียมสถานที่จัดงาน รายได้จากนักท่องเที่ยวและคนรักงานศิลปะและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงความเกี่ยวพันทางประวัติศาสตร์และความรู้สึกชาตินิยม ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศได้พยายามเจรจาหาทางออกเป็นเวลานานหลายเดือน และสถานการณ์เพิ่งจะเริ่มคลี่คลายลงเมื่อวันอังคารที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา โดยทางฝรั่งเศสและอิตาลีร่วมกันลงนามข้อตกลงระหว่างประเทศ ณ กรุงปารีส ซึ่งมีนายฟรองก์ รีสเตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศส และนาย แดริโอ ฟรานเชสกีนี รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของอิตาลี เป็นผู้ลงนาม
โดยตามข้อตกลง ประเทศอิตาลีจะให้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยืมผลงานศิลปะของดา วินชี จำนวนทั้งสิ้นเจ็ดชิ้น มาจัดแสดงในนิทรรศการที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ต.ค. 2562 – 24 ก.พ. 2563 และทางฝรั่งเศสจะให้อิตาลียืมภาพเขียนของจิตรกร ราฟาเอล (ราฟาเอล ซานซิโอ — อีกหนึ่งศิลปินอิตาเลียนร่วมสมัยกับดา วินชี และมีชื่อเสียงในระดับทัดเทียมกัน) ที่มีอยู่ในฝรั่งเศส ไปจัดแสดงที่ Scuderie del Quirinale ณ กรุงโรม ในปี 2563 เป็นจำนวนเจ็ดภาพเช่นกัน
นายฟรองก์ รีสเตอร์ กล่าวสรุปเรื่องน่ายินดีนี้ว่า “ผลงานศิลปะของดา วินชี และ ราฟาเอล เป็นของมวลมนุษยชาติ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทางอิตาลีและฝรั่งเศสที่จะต้องจัดแสดงและเผยแพร่ผลงานเหล่านี้ตราบเท่าที่เทคโนโลยีต่างๆ จะเอื้ออำนวยได้”
ผลงานศิลปะของดา วินชี ที่จัดแสดงเป็นพิเศษในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ตามข้อตกลง ได้แก่ ภาพเขียน The Vitruvian Man, The Study of The Adoration of the Magi, ฯลฯ (ซึ่งพิจารณาแล้วว่าสามารถเคลื่อนย้ายได้และไม่เป็นอันตรายต่องานศิลปะมากจนเกินไป) และในนิทรรศการยังมีผลงานของดา วินชีที่มีที่ลูฟวร์อยู่แล้ว เช่น ภาพเขียน La belle ferronnière, Mona Lisa, Saint John the Baptist, The Virgin and Child with Saint Anne, The Virgin of the Rocks ฯลฯ โดย นิทรรศการ ดา วินชี ที่จะจัดขึ้นที่ลูฟวร์นี้ ต้องทำการจองและซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าทางเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์เท่านั้น เนื่องจากพิพิธภัณฑ์ต้องการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละรอบ ให้มีความเหมาะสมกับสถานที่และการรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม จะมีการจัดแสดงในรูปแบบ AR เสมือนจริงให้เข้าชมภาพโมนาลิซาได้จากทางเว็บไซต์เช่นกัน
เรียบเรียงจาก
Tags: ศิลปะ, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เลโอนาร์โด ดา วินชี