เราถูกจับโยนลงมาจากฟากฟ้า พุ่งลงในเมืองอิเญวส์ รัฐบาเยีย ในประเทศบราซิล กลิ่นบรรยากาศชื้นป่าฝน สลับร้อนอ้าว นั่งฟังคนท้องถิ่นพูดคุยกันออกรส พยายามทำความเข้าใจว่าพวกเขาสนใจเรื่องอะไร ประเด็นนั้นสำคัญกับชีวิตขนาดไหน และค่านิยมต่อเรื่องนั้นๆ ของแต่ละคนเป็นอย่างไร ความรัวเร็วของบทสนทนาทำให้เรานึกถึงสำเนียงภาษาโปรตุเกส

ฟังไปก็ขบขัน เพราะดูเหมือนเป็นการเสียดสี นินทาตัวละครที่ถูกกล่าวถึงทุกตัว… เราพยายามมองไปรอบๆ เพื่อหาว่าใครกันที่เป็น ‘คนดี’ ซึ่งพอจะเป็นพระเอกหรือนางเอกของเรื่องนี้ได้

ดูเหมือนจะไม่มี และไม่จำเป็นต้องมี

เพราะนี่มันวรรณกรรมการเมือง! …อ้า รวมถึงวรรณกรรมแห่งความรักด้วย

มุงจินญู กับอนาคตใหม่ของเมืองแห่งโกโก้

กาบริแอลา กานพลู และอบเชย แปลมาจาก Gabriela, cravo e canela (1958) ของฌอร์จ อะมาดู (Jorge Amado) ผู้เขียนเดียวกับ กัปตันเม็ดทราย ที่สำนักพิมพ์ไลบรารีเคยนำมาจัดพิมพ์

ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ความเจริญและศิวิไลซ์ของเมืองไกลปืนเที่ยงอย่างอิลเญวส์ เราเห็นความลักลั่น ก๋ากั่น ประดักประเดิดในการปรับตัวของชาวเมือง

พวกเขาควรสนับสนุนค่านิยม ศีลธรรมแบบไหน นักการเมืองคนใดที่ควรหันหน้าไปเยินยอหรือลงคะแนนเสียงให้

นี่คือการปะทะกันระหว่างนักการเมืองรุ่นเก่า ชื่อ ฮามิรู ซึ่งเป็น ‘นายหัว’ ผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่มาช้านาน (เรียกตำแหน่งทำนองนี้ว่า โกโรเนล ในเรื่อง ซึ่งอิงมาจาก coronel ที่ใช้เรียกยศทหาร) กับ นักการเมืองรุ่นใหม่อย่าง มุงจินญู พ่อค้าและทายาทเศรษฐี-ตระกูลนักการเมืองจากเมืองหลวง ‘ที่เจริญกว่า’

“เขามาทำอะไรที่นี่” ชาวเมืองถามคลางแคลงตั้งแต่ต้นเรื่อง ก็ใช่น่ะสิ เหมือนเวลาเราสงสัยชาวต่างชาติที่มาปักหลักอยู่ในดินแดนที่ดูต่ำต้อยกว่า และอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาพกพาความล้มเหลวมาด้วยหรือไม่

และความเป็น ‘คนนอก’ หรือ ‘พ่อค้า’ นี้เองที่ทำให้นายหัวแก่หงำเหงือกของเราและเหล่าสมุนใช้เป็นข้อหาโจมตีทางการเมือง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะนอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีความได้เปรียบทางการเมืองอะไรเลย เมื่อเทียบกับชายคนนอกคนนั้น

คนท้องถิ่นอิลเญวส์กตัญญูพอจะรู้ว่าเมืองมีทุกวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งเพราะนักเลงกึ่งเจ้าพ่อท้องถิ่นเหล่านี้มอบให้ แต่ส่วนหนึ่งก็เหน็ดหน่ายกับความล้าหลังที่แสนทะนงตน ปากพร่ำบอกว่าตนได้สร้างความสวยงามให้เมืองด้วยสวนสวย แต่ ‘สวนสวย’ ดูจะสวนทางกับความต้องการของชาวเมือง ในยุคที่ท่าเรือและการค้าขายกับโลกกว้างสำคัญกว่า

และมุงจินญูคือชายแปลกหน้าที่เดินเข้ามาบอกว่า ฉันทำได้ ฉันทำให้เธอได้

สันดอนทราย สิ่งกีดขวางความก้าวหน้าที่ปักหลักนิ่ง

ย้อนกลับไปในอดีตกาล อิลเญวส์คือพื้นที่ที่ปัญหาการเมืองและการกระจายสินทรัพย์ถูกจัดการให้เข้าที่เข้าทางด้วยอาวุธปืนและความเถื่อนส่วนบุคคล แปลงที่ดินที่แบ่งสรรกลายเป็นแหล่งปลูกโกโก้ที่สร้างรายได้อย่างงาม จนเหล่านักเลงติดอาวุธเพิ่มพูนความมั่งคั่ง ยกระดับเป็นโกโรเนลด้วยเม็ดเงินที่ต่างสั่งสมกันมา ไม่ใช่ด้วยอารยธรรมหรือกฎหมายอะไรทั้งนั้น

แต่การระลึกความหลังอันงดงามของประวัติศาสตร์อิลเญวส์ การเชิดชูวีรกรรมแม่นปืนป่าเถื่อน หรือการฉอเลาะนักการเมืองที่เก่าทั้งอายุและความคิด ไม่อาจทำให้เมืองเจริญไปกว่านี้ได้ เหมือนเช่นสันดอนทรายที่ทำให้ท้องเรือใหญ่ไม่อาจเข้าเทียบท่า

สันดอนทรายต่างหากที่ต้องกำจัดอย่างเป็นรูปธรรม สันดอนทรายที่คอยขัดขวางไม่ให้เรือใหญ่จากนานาประเทศเข้ามาติดต่อค้าขาย

“เป็นไปไม่ได้” “ไม่สำคัญ” คือสิ่งที่นักการเมืองรุ่นเก่าพร่ำบอก (ปิดซ่อนความพ่ายแพ้ต่ออำนาจรัฐส่วนกลางไว้ใต้พรม) แล้วใช้วิธีบอกว่า มุงจินญู = เป็นอื่น แบบเดียวกับที่เราพบเห็นในหลายประเทศเมื่อเกิดความขัดแย้งทางการเมือง เรื่องจะได้จบๆ ไปแบบคลีนๆ

มุงจินญเป็นคนดีหรือเปล่า? ไม่… ผู้เล่าเรื่องไม่สนใจ ฌอร์จ อะมาดูเพียงถ่ายทอดเรื่องราวหรรษาเหล่านั้นต่อไป ราวกับจะตั้งคำถามว่า เอาจริงๆ มันสำคัญด้วยหรือ ในเมื่อคำตอบที่ควรตอบก็คือ มุงจินญูจะทำได้ตามที่ให้ความหวังกับชาวเมืองหรือเปล่า ในวันที่สันดอนทรายไม่อาจสลายไปได้ด้วยบารมีหรือความดีของใคร

กาบริแอลา และความรักเสรีที่อาจถูกแปะป้ายว่าลิเบอร่าน

นี่คือฉากหลังของเรื่องราวทั้งหมด คือการต่อสู้ทางการเมือง ส่วนเรื่องความรักกลับมีศูนย์กลางอยู่ที่ นาซีบิ พ่อค้าร้านขายเครื่องดื่มผู้มีสัญชาติอาหรับ กับ กาบริแอลา แม่ครัวสาวลูกผสมที่เขาเจอจากตลาดค้าทาส

ถ้าจะมองหาใครที่เป็นกลางทางการเมืองแต่ต้นเรื่อง ก็คงเป็นนาซีบิ พ่อค้าผู้ไม่ยอมเข้าข้างใครให้เสียลูกค้า เขาเพียงแก้ปัญหารายวันเพื่อให้การค้ายังดำเนินต่อไป ส่วนกาบริแอลาคือทางออกของปัญหาที่เขาไขว่คว้ามาได้อย่างไม่เต็มใจเมื่อแม่ครัวประจำร้านลาออกกะทันหัน ทำให้เธอต้องมารับบทบาทแม่ครัว

แต่กาบริแอลากลับกลายเป็นปัญหาใหม่ เพราะความงดงามและมีเสน่ห์ยั่วยวนของเธอ เริ่มแรกก็เพียงทำให้ลูกค้าหนุ่มๆ มากันเต็มร้าน แต่สุดท้ายก็เป็นนาซีบิเองที่หลงรักจนบ้าคลั่ง และหึงหวงจนต้องมัดเธอไว้ด้วยแหวนแต่งงาน

อย่าเพิ่งคิดว่านี่เป็นหนังรักที่จะจบตามสูตร เพราะไม่มีคนดีอยู่ในความรัก ความเจ็บปวดที่ใครคนหนึ่งเป็นสาเหตุ ไม่ได้หมายความว่าเธอหรือเขาคือตัวร้ายของความสัมพันธ์

ปัญหาของเรื่องนี้มีอยู่ว่า กาบริแอลาไม่เคยเป็นของใคร และไม่เข้าใจระบบคิดของการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแห่งความปรารถนา

เธอเหมือนจิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่หลุดออกมาจากป่าดงพงไพร รับรู้เพียงว่าอยากเต้นระบำตอนไหนก็เต้น อยากยิ้มให้ใครก็ยิ้ม อยากคุยกับใครก็คุย ชอบเห็นรอยยิ้มของใครก็ยินยอมพร้อมใจรับใช้เพื่อให้เขาได้ยิ้ม และพูดได้เต็มปากว่าอยากอยู่กับ ‘นายนาซีบิ คนดี’

แต่สิ่งหนึ่งที่เธอทำไม่ได้ และไม่อาจเข้าใจได้ คือการอยู่ในกรงขังของความสัมพันธ์

เรื่องรักพังๆ แสนหอมหวานเผ็ดร้อนนี้เกิดขึ้นใต้ระบบยุติธรรมที่รับมาแบบแค่นๆ ของเมืองอิลเญวส์ สถานที่ที่รับเอาระบบศาลเข้ามา แต่กลับพลิกลิ้นพูดว่า รับได้นะ หากโกโนเรลผู้ลงมือฆ่าเมียและชายชู้จะถูกศาลปล่อยตัวไป เพราะมี ‘มาตรฐานความยุติธรรม’ ในแบบฉบับของเมืองอิลเญวส์เอง (หรือยุติธรรมแบบอิลเญวส์ๆ) ที่มองว่าการหยามหน้าสามีนั้นสมควรกับการโดนฆ่า

ไลฟ์สไตล์รักแบบเปิดเสรี โอเพ่นรีเลชันชิปแบบกาบริแอลา จึงเป็นการท้าทายอันน่าหวาดเสียวในเมืองที่มีแนวคิดแบบชายเป็นใหญ่จนน่าขยะแขยง (แนวคิดทำนองว่า โกโนเรลฆ่าเมียเก็บได้ถ้าใครมายุ่มย่ามกับหล่อน ผู้หญิงคือสิ่งของ ผู้หญิงที่ทำให้เราหลงคือยาพิษที่ทำให้ชีวิตผู้ชายย่ำแย่ ฯลฯ) และนี่คือบทพิสูจน์ความศิวิไลซ์ของชาวเมืองและพ่อค้านาซีบิ ว่าจะเลือกแก้ปัญหากันอย่างไร

นี่จึงไม่ใช่แค่การท้าทายอำนาจคร่ำครึ แต่คือช่วงเวลาแห่งการท้าทายคุณค่าในหลายมิติ เมื่อเมืองเมืองหนึ่งไม่อาจหยุดอยู่ได้แค่เพียงมีปฏิสัมพันธ์กันเองในเมือง อยู่กันเองในวงแคบๆ ที่เรียกว่าเมืองอิลเญวส์ แล้วปลอบใจว่า เมืองเราดีกว่าเมืองใดในโลก แต่ถูกท้าทายด้วยความแตกต่างที่ไหลบ่าเข้ามาในเมือง และยืนยันกับพวกเขาว่า มีอะไรที่ต้องพัฒนาและทำความเข้าใจอีกมากเชียว

Fact Box

  • กาบริแอลา กานพลู และอบเชย แปลจากต้นฉบับภาษาโปรตุเกส Gabriela, cravo e canela หรือชื่อภาษาอังกฤษ Gabriela, Clove and Cinnamon แปลโดย กอบชลี พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ไลบรารีเฮ้าส์ จำนวนหน้า 544 หน้า พิมพ์ครั้งแรกเมือเดือนมีนาคม 2561
  • ในส่วนคำตามที่เขียนโดยผู้แปล ได้ให้ข้อมูลว่า เล่มนี้อาจมีรสชาติต่างไปจาก กัปตันเม็ดทราย  เพราะผ่อนคลายลง สอดแทรกความขบขันมากขึ้น และ “ไม่เร้าอารมณ์โศกเศร้าหมองหม่นจนสะเทือนใจเกินไป”
Tags: , ,