Author: มนต์ชัย วงษ์กิตติไกรวัล

ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่คุกรุ่นในขณะนี้ หากมองการเมืองด้วยมุมของการตลาด เราอาจมองเห็นสิ่งที่ขาดหายไป และหนทางแก้ไขให้ตรงใจประชาชนที่ไม่ใช่แค่การ ‘รีแบรนด์’

อีกไม่นาน ก็จะหมดวาระการทำงานของ ‘ดร.วิรไท สันติประภพ’ ผู้ว่าแบงก์ชาติที่ฝากผลงานไว้ไม่น้อยในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และแน่นอนว่า ‘แรงกดดัน’ สำหรับผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ย่อมหนักหนาเอาการ ด้วยปัจจัยต่างๆ ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจและโรคโควิด-19

โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อหนี้ครัวเรือนของคนไทย เมื่อภาคธุรกิจขาดรายได้ การจ้างงานลดลง รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ถือเป็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วงว่าจะเกิดหนี้เสีย

ไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสตาร์ตอัปไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งเม็ดเงินจากนักลงทุนที่ชะลอตัวลง และสตาร์ตอัปไทยเองก็จำต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด แต่ยังมีอุปสรรคมากมายที่อาจทำให้หลายสตาร์ตอัปล้มหายตายจากไปหลังจากนี้

เมื่อโรคระบาดโควิด-19 เป็นวิกฤตการณ์ที่ทำให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป เกิดเป็นความปกติใหม่ ( (New Normal) แล้วภาคธุรกิจโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคจะทำธุรกิจให้สอดรับกับความปกติใหม่ของผู้บริโภคได้อย่างไร บทความนี้ชวนมองไปข้างหน้าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

"คุณขาดทุนหลักหมื่นล้านบาทมาสองปีติดกันแล้ว สิ่งที่ทำให้ผมตกใจคือกรณีของคุณสุเมธ ดำรงชัยธรรม ที่ยื่นลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การเปลี่ยนแม่ทัพธุรกิจในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ถือว่ามีผลต่อขวัญและกำลังใจของคนในองค์กรพอสมควร และสิ่งที่น่ากังวลที่สุดที่เพิ่มขึ้นมา คือผลกระทบของ โควิด-19 ที่อาจทำให้หลายสายการบินเข้าสู่ภาวะล้มละลาย ขณะที่การบินไทยก็ลดเที่ยวบินในจุดหมายปลายทางสำคัญลงถึง 50%"

หลังการระบาดของเชื้อโควิด-19 สังคมต่างจับจ้องมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบินของบริษัทท่าอากาศยานไทย (AOT) ที่ 'ปรับลด' ค่าผลประโยชน์ตอบแทนอัตราร้อยละ และ ‘ยกเว้น’ การเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ เป็นระยะเวลา 26 เดือน

หุ้นขนาดใหญ่ทั้งหลายของประเทศไทยในขณะนี้ ยังถือเป็นหุ้นพื้นฐานที่ดี มีอนาคต หรือที่มักเรียกกันว่า ‘หุ้นบลูชิพ’ อยู่อีกหรือไม่ และผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้ สะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันและภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศไทยได้ดีเพียงไร มนต์ชัย วงษ์กิตติไกรวัล ชวนวิเคราะห์พื้นฐานหุ้นใหญ่ของไทยในปีนี้

แม้ว่ากระทรวงการคลังจะอ้างอิงตัวเลขจากสำนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 5 แห่งในจีนและประเมินเบื้องต้นว่า เหตุการณ์โคโรนาไวรัสจะทำให้ไทยสูญเสียรายได้ประมาณ 9.5 หมื่นล้านบาท แต่ตัวเลขที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดการณ์กลับสูงกว่ามากถึง 3 แสนล้านบาท

ชวนทบทวนเศรษฐกิจไทยปี 2562 กับสิ่งที่ต้องเผชิญ และมองไปข้างหน้ากับเศรษฐกิจไทยปี 2563 กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น จากมุมมองและการวิเคราะห์ของนักเศรษฐศาสตร์สามท่าน

ว่าด้วยโอกาสและความท้าทายในการลงทุนทำธุรกิจในลาว เจ้าของฉายา ‘แบตเตอรี่แห่งเอเชีย’ แม้ขนาดเศรษฐกิจจะเล็กแต่เติบโตเร็ว ทว่ายังมีข้อจำกัดอีกหลายด้านในการทำธุรกิจที่ลาว และที่สำคัญ ‘Know Who’ มาก่อน ‘Know How’ สำหรับที่นี่

อินเดียเป็นตลาดสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงบ่อยครั้ง ด้วยศักยภาพของขนาดประชากรนับพันล้านคนที่จะเป็นรองก็แค่จีน แถมยังมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก แต่เราเข้าใจอินเดียมากน้อยแค่ไหน?