“อย่านอนกินบ้านกินเมือง”
การนอนตื่นสายดูเหมือนเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีในสายตาคนไทย โดยเฉพาะคนรุ่นปู่รุ่นย่าที่มักมีความเชื่อว่า การนอนตื่นสายเป็นสัญญาณของความเกียจคร้านไม่เอาไหน ทำอะไรในภายภาคหน้าก็จะไม่สำเร็จ
ขณะที่การนอนตื่นเช้าเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความขยัน ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต อันมีรากเหง้าทางความคิดมาจากการใช้ชีวิตแบบสังคมเกษตรกรรมของคนสมัยก่อน ที่ต้องรีบตื่นเช้ามาทำสวนทำไร่ไถนา
ความจริงแล้วแนวคิดแบบ ‘นกที่ตื่นเช้า หาหนอนกินได้ก่อนใคร’ ก็น่าสนใจดี แต่สังคมสมัยใหม่เรียกร้องอะไรมากกว่านั้นเยอะ ทั้งภาระงานและการเรียนที่หนักอึ้ง สังคมมีการแข่งขันสูง เศรษฐกิจย่ำแย่ ผู้คนฉาบฉวย ส่งผลให้เกิดความเจ็บป่วยทางกายและทางใจ บางทีในตอนนี้นกที่ตื่นเช้าอาจถูกนายพรานยิงก่อนได้จับหนอนเสียอีก มายาคติแบบเก่าก่อนจึงไม่อาจใช้กับบริบทสังคมปัจจุบันได้ทั้งหมด
แม้แต่เรื่องนอนตื่นสายที่เมื่อก่อนหลายคนมองว่า เป็นพฤติกรรมของคนไม่เอาไหนก็ถูกหักล้าง เมื่อมีการวิจัยและทดลองมาตลอดหลายปีว่า การนอนตื่นสายเป็นส่วนหนึ่งในการปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อนตามธรรมชาติ ซึ่งการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางความคิดและการทำงาน มากกว่าคนที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพออย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต
ในงานวิจัย The Sweet Spot of Weekend Catch-Up Sleep: A Protective Factor Against Depressive Symptoms? ที่เผยแพร่ในปี 2025 เกี่ยวกับการศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างระยะเวลาการนอนของวัยรุ่นกับสุขภาพทางจิต โดยทำการวิจัยร่วมกับอาสาสมัครที่มีอายุเฉลี่ย 13.5 ปี จำนวน 1,877 คน ผ่านการใช้เครื่องมือตรวจวัดเฉพาะทางและแบบสำรวจ Child Behavior Checklist ผลปรากฏว่า เด็กที่นอนตื่นสายเพิ่มอีก 2 ชั่วโมง ในวันหยุดสุดสัปดาห์มีสมาธิ พฤติกรรม การเรียนรู้ ความจำ การควบคุมอารมณ์ คุณภาพชีวิต สุขภาพจิต และร่างกายที่ดีขึ้น ในทางกลับกัน เด็กที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลมากขึ้น
คิม โซจอง คิม (Kim Sojeong) นักจิตวิทยาคลินิกและหัวหน้าทีมวิจัย เปิดเผยว่า การนอนหลับไม่เพียงพอ มีความเชื่อมโยงกับระดับความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามการนอนพักผ่อนชดเชยไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ช่วยลดอาการวิตกกังวลได้อย่างมีนัยสำคัญ งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า การพักผ่อนให้เพียงพอในวันหยุดสุดสัปดาห์สามารถฟื้นฟูพลังกายและพลังใจ ที่สูญเสียไปจากการทำงานหนักในช่วงวันธรรมดาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ใช่แค่ในกลุ่มเด็กหรือวัยรุ่นเท่านั้น งานวิจัยดังกล่าวยังสอดคล้องกับงานวิจัย Association between weekend catch-up sleep and the risk of depression among Korean middle-aged adults ในปี 2022 ซึ่งสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างการนอนพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ กับความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าในผู้ใหญ่วัยกลางคนชาวเกาหลี พบว่า ผู้ที่นอนหลับพักผ่อนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงในวันหยุด มีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนที่นอนหลับเพียงพอในวันหยุดอย่างมีนัยสำคัญ
แน่นอนว่า การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอส่งผลดีต่อการทำงานของสมองหลายอย่าง โดยเฉพาะการทำงานของระบบเซลล์ประสาทที่ช่วยให้เราสมองแล่น คิดเร็ว และกระปรี้กระเปร่า ขณะที่ร่างกายของเราจะได้รับการฟื้นฟูในหลายส่วน ตั้งแต่สมอง หัวใจ ปอด ไปจนถึงระบบการเผาผลาญ การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและอารมณ์ พูดง่ายๆ คือ การนอนหลับเพียงพอช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและเกือบทุกระบบในร่างกาย
สำหรับใครที่มีภาระรัดตัว เรียนเยอะ งานยุ่ง ชีวิตวุ่นวาย จนส่งผลต่อระยะเวลาการนอนของตนเอง ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะงานวิจัยระบุไว้แล้วว่า การนอนสามารถ ‘ชดเชย’ ได้ แต่ต้องอยู่ในระดับที่พอเหมาะพอดี อย่างน้อยไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง มิเช่นนั้นอาจได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม ดังนั้นถ้ารู้สึกว่าตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นวุ่นๆ และเหนื่อย ลองนอนตื่นสายเพิ่มอีกสักหน่อย อาจช่วยเยียวยาและเติมพลังกลับมา
ดังนั้นถ้าในสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณเต็มไปด้วยความเครียดและเหนื่อยล้า ลองปล่อยตัวเองให้นอนตื่นสายอีกสักนิดในวันหยุด เพราะนั่นอาจเป็นวิธีชาร์จพลังที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง และถ้ามีใครบอกว่า ตื่นสายแปลว่าขี้เกียจ ก็อย่าเพิ่งรู้สึกผิด เพราะจริงๆ แล้วอาจเป็นกระบวนการฟื้นฟูและเติมพลังจิตใจให้พร้อมก้าวต่อ
ที่มา:
– https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC10899926/
Tags: Wisdom, Weekend, Excitement, Sleep, Child Behavior, depression, Knowledge