เหงา…ไม่ เคว้งคว้างดูจะเป็นคำที่เหมาะกว่า
บทกวีชั่วชีวิต ของสะอาด รวมเรื่องสั้นในรูปแบบการ์ตูน เล่าความหลังที่หลากหลาย พาเรามาอยู่ในความรู้สึกนั้น
ความหลังของคนคนหนึ่ง มีทั้งเพื่อนวัยเด็กที่เด็กอยู่ตลอดกาลในภาพจำเพราะเขาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร คนรักที่จากลาไปมีอนาคตใหม่ และคุณยายที่สลัดเขาออกจากความทรงจำโดยไม่ตั้งใจ
หรือเรื่องของการลืมเลือนความฝันวัยเยาว์ กลับไปตามหาไอดอลที่สูญหาย เพื่อพบว่าเขากำลังมีความพึงพอใจกับชีวิตแบบที่คาดไม่ถึง จบสิ้นแล้วความทะเยอทะยานวัยเยาว์ ดูเหมือนเศร้า แต่ที่จริงแล้วสุข
เรื่องเพื่อนรักที่หักหลังกันโดยไม่ตั้งใจ คนหนึ่งมีแผลเพราะถูกทรยศน้ำใจ อีกคนมีแผลเพราะตัวเองผิดคำพูด บอกยากว่าใครขมขื่นกว่าใคร ในช่วงหลายปีที่สูญหายในความสัมพันธ์ รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน
เหงา
เราได้ยินเสียงลูกบาสเดาะอีกครั้ง กระดอนอยู่ระหว่างฝ่ามือของคนคนเดียวกับพื้นว่างๆ ส่วนคู่เล่นอีกคนไม่มาปรากฏตัวตามนัด จนตะวันลับฟ้า ลูกบาสกลายเป็นสีเทาขมุกขมัว
ภาพการ์ตูนขาวดำ บางเวลาเหมือนกลายเป็นภาพซีเปียในภาพยนตร์ ที่ใช้เล่าเหตุการณ์ในอดีตที่ยังโหยหา เป็นความเหงาเมื่อพบว่าตัวเราปัจจุบันถูกแยกออกจากอ้อมอกอบอุ่นของความหลัง
นึกถึงได้ แต่กลับไปเป็นตัวเองในวันนั้นไม่ได้ เช่นเดียวกับตัวละครอื่นๆ ที่อยู่ในฉาก หรือกระทั่งฉากเองก็เปลี่ยนไป เหมือนเวลาที่เราดูหนัง แฟนฉัน แล้วรู้สึกเศร้าพิกลที่มีร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่มาแทนที่ร้านชำในอดีต
ต่อให้พูดซ้ำซากว่าอยากกลับไปแก้ไข หรืออยากกลับไปวันนั้น แต่อดีตที่ซ้อนทับกันจนกลายเป็นปัจจุบัน จะทำให้เราเสียดายเหตุการณ์ที่สั่งสมมาจนเป็นเราในวันนี้ การย้อนกลับไปที่จุดจำเพาะในอดีตจึงเป็นเรื่องไม่คุ้มค่า
ติดอยู่ระหว่างทาง และหากไม่บรรลุธรรม การคิดถึงเรื่องราวหนหลังเป็นวัตถุดิบเรียกน้ำตาได้เสมอ
“ทำไมการ์ตูนของสะอาดเล่มนี้ต้องบิวต์ให้เศร้าขนาดนี้ด้วย…”
บางความทรงจำ เป็นบทสนทนา
บางทีเป็นแค่บรรยากาศ ร้อนแบบอบอ้าว หนาวจนผิวแห้ง
บางทีเป็นแค่เสียงลมแทรกไม้ไผ่
บางทีเป็นภาพพวงกุญแจรูปการ์ตูนที่กระดุกกระดิกอยู่ตรงกระเป๋ากางเกง
บางทีเป็นเสียงแหลมเสียดหูของล้อที่บดรางรถไฟ
หรือภาพติดตาในโมเมนต์บาดลึก ที่ต่อให้มีเสียงใดๆ อึกทึกรายรอบก็กลายเป็นความเงียบ
ลายเส้นและการถมดำของสะอาดมีสุ้มเสียง …ขึ้นอยู่กับผู้อ่านแต่ละคนว่าได้ยินเสียงอะไร
เศร้า แม้กระทั่งในช่องที่ไร้บทสนทนา สนามบาสว่างเปล่าในโรงเรียนมัธยมฯ ประกาศความเคว้งคว้างดังก้องด้วยขนาดพื้นที่หน้าคู่ของมัน
บางที ช่องที่เศร้าที่สุด ไม่ใช่ช่องที่มีถ้อยคำกระแทกใจ แต่คือช่องที่ปล่อยให้บรรยากาศได้คุยกับเรา
บทกวีชั่วชีวิต หยิบเอาความสัมพันธ์ไม่ลงรอยในครอบครัว ความรักระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง ระหว่างเพื่อนต่างเพศ และระหว่างคนสร้างแรงบันดาลใจกับคนเดินตามความฝัน มาเล่าแบบคนที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง รู้ปมต่างๆ ของความสัมพันธ์เหล่านี้เป็นอย่างดี รายละเอียดเล็กจ้อยไม่ถูกมองข้าม แต่ถูกขับเน้นเหมือนขีดเส้นใต้ให้เรายิ่งสะเทือนอารมณ์
สะอาดทำสำเร็จในบทที่ 3 เมื่อก้อนสะอื้นดันขึ้นคอมาในฉากธรรมดาสามัญ แล้วกลายเป็นน้ำตาของผู้อ่าน
ประสบการณ์หรือสิ่งที่เราเจอในอดีต อาจไม่ได้ทำให้เราเป็นเราในวันนี้ แต่เป็นความทรงจำต่างหาก วิธีการประกอบร่างเรื่องเล่าในหัว ทำให้เราสรุปบางเรื่องว่าเป็นเหตุเป็นผลกันแบบนั้น ปักใจเชื่อว่าตัวเราคือคนแบบนี้ และโลกเป็นแบบนี้
บทกวีชั่วชีวิต บทที่ 3 เล่าเรื่องราวของนักเขียนการ์ตูนที่เติบโตจากความสนุกในการอ่านการ์ตูนช่อง เธอเติบโตมาทำอาชีพที่รัก คือการเป็นนักเขียนการ์ตูน แต่มันช่างเป็นอาชีพที่ไม่ตอบโจทย์การหาเลี้ยงชีวิตเพราะเงินในบัญชีฟ้องอยู่ทนโท่ เธอกลับไปตามหานักเขียนการ์ตูนในดวงใจที่หายสาบสูญไปจากวงการ มีข่าวแว่วเพียงว่าเขาไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด
ไม่รู้ว่าระหว่างทางรถไฟขาไป เธอจินตนาการภาพชีวิตของเขาเป็นแบบไหน แต่รถไฟขากลับ เราได้ยินเสียงร้องไห้โฮของเธอสอดประสานไปกับเสียงล้อรถไฟ
มันเตือนให้เราคิดอีกทีถึงการทบทวนเชยๆ ว่าแก่นของความฝัน คือ อาชีพ หรือ จุดประสงค์ในการทำสิ่งนั้น กันแน่
มันเชย แต่บางทีเราก็ลืมคิดและยึดติดจนต้องเสียน้ำตาให้ทางตัน แล้วรู้สึกเหมือนโดนชีวิตทรยศ
บางทีน้ำตาก็ไม่ได้มาจากความเศร้า แต่มาจากความสุขที่ได้เจอคำตอบบางอย่าง คำตอบของคำถามที่เราเลิกถามตัวเองไปนานแล้ว
Tags: บทกวีชั่วชีวิต, สะอาด