นานแล้วที่บลิ๊งค์ไทยไม่ได้เจอกับ BLACKPINK
บางคนอาจมองว่าช่วงเวลา 1,456 วัน นับจากคอนเสิร์ตครั้งก่อนเป็นเวลาที่ไม่นาน แต่บางคนกลับเห็นต่าง และรู้สึกว่าแต่ละวันมันช่างยาวนานกว่าที่ศิลปินกับแฟนคลับจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในคอนเสิร์ต
หากจะนับแค่ผลงานเพลงของ BLACKPINK ในรูปแบบศิลปินกลุ่ม หลังซิงเกิล How You Like That, Ice Cream และ Lovesick Girls ที่ปล่อยออกมาในปี 2020 ก็ถือว่าเป็นเวลากว่า 2 ปี ที่ BLACKPINK ไม่ได้ออกผลงานใหม่และทุ่มความสนใจไปยังการโซโล่เดี่ยวของเมมเบอร์ รวมถึงงานสายอื่นๆ อย่างแฟชั่นและการแสดง
จนกระทั่งช่วงเดือนกันยายน 2022 ในที่สุดพวกเธอก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอัลบั้ม BORN PINK ที่มีไตเติลแทร็ก Shut Down ที่เป็นเครื่องยืนยันว่า BLACKPINK พร้อมกลับมาทวงคืนพื้นที่และสร้างไวรัลให้กับโลกอีกครั้ง
BORN PINK ในปี 2022 อีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสำเร็จของ BLACKPINK
ไตเติลและเพลงรองที่ใช้โปรโมตหลักอย่าง Shutdown และ Pink Venom ยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบ BLACKPINK แต่เพิ่มความเท่ ความมั่นใจ และการแรปที่ดุดันยิ่งขึ้น แถมยังหยิบเครื่องดนตรีท้องถิ่นอย่าง คอมุนโก (Geomungo) เครื่องดีด 6 สายที่ในสมัยก่อนนิยมใช้บรรเลงในวงดนตรีพื้นบ้านหรืองานในราชสำนัก จับความคลาสสิกกับบีตแบบยุคสมัยใหม่มารวมอยู่ในเพลงเดียวกัน
หลังปล่อยเพลง Pink Venom ไปเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2022 หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ทวิตเตอร์ chartsblackpink ระบุว่า BORN PINK สามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 2,443,961 อัลบั้ม ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งเกิร์ลกรุ๊ปที่มียอดขายมากที่สุดในปี 2022
จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน เว็บไซต์ koreaboo รวบรวมยอดขายอัลบั้มของเกิร์ลกรุ๊ปในปีนี้แล้วจัดอันดับ โดยนำสถิติมาจาก Data Throne ที่เผยให้เห็นว่า BORN PINK ของ BLACKPINK มียอดขายมากกว่า 2,756,643 อัลบั้ม
ความสำเร็จทั้งยอดขาย ยอดวิว และกระแสตอบรับที่ร้อนแรง ส่งให้ BLACKPINK กลายเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้เพียงวงเดียวในปี 2022 ที่มียอดสตรีมแบบ On-Demand เกิน 500 ล้านครั้งในสหรัฐอเมริกา คว้าอันดับหนึ่งเกิร์ลกรุ๊ปที่มียอดวิวสูงสุดประจำปีใน YouTube กับการสตรีมมากกว่า 7.02 พันล้านครั้ง
นอกจากนี้ อัลบั้ม BORN PINK กลายเป็นอัลบั้มเพียงหนึ่งเดียวจากฝั่ง K-Pop ที่ขึ้นอันดับหนึ่ง UK’s Official Albums Chart 2022 และยังติดอันดับ 42 จากทั้งหมด 50 อันดับอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปีที่ Billboard ในบทความ 50 Best Albums of 2022 by Billboard ด้วยการเป็นศิลปิน K-Pop เพียงวงเดียวที่ติดอันดับในลิสต์ดังกล่าว
บทความของ Billboard กล่าวถึง BLACKPINK ว่าการทะยานเข้าสู่ชาร์ตเพลงต่างๆ ทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าศิลปิน K-Pop ก้าวเข้าสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างเต็มตัว เราจะได้เห็นการแรปสไตล์คลาสสิกแบบ Braggadocio ในเพลง Shut Down และ Typa Girl ไปจนถึงเพลงที่ได้อวดทักษะการร้องอย่าง Hard to Love กับ The Happiest Girl รวมถึงเพลงฮิต Pink Venom ที่แสดงให้เห็นถึงสมดุลทางภาษาที่ไร้ที่ติในการนำภาษาอังกฤษกับภาษาเกาหลีมาอยู่ด้วยกัน
อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถการันตีความสำเร็จและการเป็นที่นิยมของพวกเธอในปีนี้ได้ คือการที่นิตยสาร TIME เลือก BLACKPINK ขึ้นปกในฐานะ ‘Entertainer of the Year’
ในบทความตอนหนึ่งของ TIME ระบุว่า หลัง BLACKPINK ประกาศเวิลด์ทัวร์ในเดือนตุลาคม 2022 กับการแสดงทั่วโลกรวมแล้วกว่า 27 เมือง ด้วยระยะเวลา 9 เดือน ร่วมกับแฟนคลับหลายแสนคน โดยอัลบั้มล่าสุดอย่าง BORN PINK ได้สร้างสถิติอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้ด้วยยอดขายมากกว่า 2 ล้านชุด และกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มียอดผู้ติดตามใน YouTube มากกว่า 83 ล้านคน สร้างรายได้มหาศาลให้กับต้นสังกัดอย่าง YG Entertainment
ยาง มินซอก (Yang Minsuk) CEO และประธานบริหารของ YG เคยแสดงความคิดเห็นที่มีต่อ BLACKPINK ว่าพวกเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่ไอคอนทางด้านดนตรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแวดวงแฟชั่น ความงาม และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2022 TIME มีโอกาสได้ร่วมงานและถ่ายภาพปกนิตยสารกับเหล่าผู้หญิงที่โด่งดังที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก กว่า 12 ชั่วโมงที่ได้ทำงานร่วมกับ BLACKPINK พวกเธอไม่เหมือนซูเปอร์สตาร์ที่เข้าถึงยาก แต่เหมือนกลุ่มเพื่อนสาวที่สนิทกัน สิ่งนั้นสร้างความรู้สึกผ่านคลาย บรรยากาศดูเป็นไปตามที่ ‘โรเซ่’ ว่าไว้ว่า แม้ทุกคนจะมีที่มาแตกต่างกัน เป็นคนเกาหลีใต้ที่เติบโตในเกาหลีใต้ เป็นคนเกาหลีใต้ที่เติบโตในต่างแดน หรือเป็นชาวต่างชาติที่มาทำงานที่เกาหลีใต้ ความแตกต่างนี้ถือเป็นข้อดีและเป็นความลงตัวกันของสมาชิกในวง
“หากพวกเรามองทุกอย่างเป็นธุรกิจ เราก็คงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ พวกเราทุกคนทำงานด้วยใจรัก”
‘เจนนี่’ หนึ่งในสมาชิก BLACKPINK กล่าวกับ TIME หลังการถ่ายแบบจบลง
BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK]
ย้อนกลับไปยังเวิลด์ทัวร์ครั้งก่อนอย่าง BLACKPINK 2019 World Tour [In Your Area] ในช่วงปี 2019-2020 หลังจากเดบิวต์ได้ราว 2 ปี พวกเธอสามารถจัดคอนเสิร์ตระดับอารีน่าได้ทั้งในโซนเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย ท่ามกลางตารางงานที่แน่นขนัด ซึ่งเห็นได้จากสารคดี BLACKPINK: Light Up the Sky (2020) ที่เล่าถึงการทำงานและเวิลด์ทัวร์ของพวกเธออย่างหมดเปลือก
ไม่นานหลังปล่อยอัลบั้ม BORN PINK ศิลปินเจ้าของผลงานยอดเยี่ยมก็พร้อมจะพบกับบลิ๊งค์ทั่วโลกผ่าน BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] คอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 2 ที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีจากนักข่าวที่เข้าร่วมคอนเสิร์ตและผู้ชมทั่วโลก
ก่อนที่พวกเธอจะเริ่มทัวร์ในทวีปเอเชีย BLACKPINK ได้ทำการแสดง 10 รอบ ใน 7 เมืองทั่วทวีปยุโรป ใช้เวลานานหลายสัปดาห์ร่วมกับผู้ชมกว่า 1.6 แสนคน จนสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ กลายเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีที่มียอดผู้เข้าชมคอนเสิร์ตมากที่สุดในยุโรปไปแล้ว
“ตอนนี้พวกเรารู้วิธีที่จะดูแลตัวเองระหว่างทัวร์แล้ว” – เจนนี่
ในครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเธอมีประสบการณ์และเตรียมตัวรัดกุมมากขึ้นกว่าเก่า เจนนี่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการทัวร์รอบโลกครั้งที่ 2 ว่าทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพราะสมาชิกทุกคนพยายามเตรียมพร้อมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต
ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้พวกเธอมีเวลาได้พักผ่อนและโฟกัสกับงานเดี่ยวของตัวเองมากขึ้น ซึ่งระหว่างนั้นก็ยังรับรู้ถึงความคาดหวังของบลิ๊งค์ที่รอคอยจะได้พบกันอีกครั้ง
[BORN PINK] IN BANGKOK
เมื่อตารางทัวร์คอนเสิร์ตของพวกเธอถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชน จะเห็นได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกในฝั่งเอเชีย (ไม่นับรวมเกาหลีใต้ที่มักจะเป็นจุดสตาร์ทของศิลปิน K-Pop) ที่ทำให้บัตรคอนเสิร์ต 2 วันในประเทศไทย โดยเฉพาะบัตรนั่งถูกขายออกไปจนหมด แม้แฟนเพลงบางส่วนจะตั้งคำถามเรื่องสถานที่จัดงานอย่าง ‘สนามศุภชลาศัย’ ที่มักไม่ค่อยเห็นว่าถูกใช้งานในการจัดคอนเสิร์ตยุคใหม่เท่าไรนัก
แฮชแท็ก #BORNPINKinBangkok ถูกเทรนด์ตั้งแต่ช่วงสายของวันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2023 เมื่อเข้าแท็กไปดูจะเห็นว่ามีบลิ๊งค์จำนวนมากมารออยู่รอบๆ สนามศุภชลาศัย โดยเฉพาะตั๋วยืนบางส่วนที่มาเร็วเพราะอยากจับจองที่ใกล้กับเวที ผู้ถือบัตร VIP ที่มาต่อคิวรอเข้ารอบซาวนด์เช็กบางส่วนไปเร็วเพื่อชมบรรยากาศรอบๆ ก่อนเข้างาน ไปร่วมเต้นแฟลชม็อบ รวมถึงไปเพื่อเลือกดูของที่ระลึกของ BLACKPINK แม้ข้อมูลในตั๋วคอนเสิร์ตเขียนว่าการแสดงจะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 19.00 น. ก็ตาม
ส่วนเราที่มาถึงตอน 5 โมงครึ่ง ได้พบกับผู้คนจำนวนมากในโซนบัตรยืนที่กำลังต่อแถวรอเข้าพื้นที่ด้านใน หลายช่วงหลายตอนมีความติดขัดเรื่องการเปิดพื้นที่แต่ละส่วน จึงทำให้ผู้ชมบางโซนจะต้องเดินต่อแถววนไปวนมารอบสนามกีฬาเพื่อลดความแออัด
ในตอนแรก เราซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชมบัตรยืนที่ไม่ขึ้น Sold Out ยังจินตนาการไม่ออกว่าจำนวนผู้ชมที่ร่วมชะตากรรมในโซนหลุมจะมีมากแค่ไหน จนกระทั่งได้เข้าไปยังพื้นที่ ได้ยืนอยู่ท่ามกลางบลิ๊งค์รอบตัว ได้เห็นภาพมุมสูงในวันคอนเสิร์ต จึงได้รู้ว่าประชากรบลิ๊งค์ในบัตรยืนอาจเรียกได้ว่ามากในระดับ ‘มหาศาล’ เลยก็ว่าได้ ก่อนจะทราบถึงตัวเลขกลมๆ หลังจบคอนเสิร์ตว่าวันแรกมีประชากรบลิ๊งค์อยู่ในโซนบัตรยืนราว 4 หมื่นคน ส่วนวันที่ 2 อาจเตะหลัก 5 หมื่นคน
มุมมองส่วนตัวของเราในพื้นที่ฝั่ง A1 ต้องอธิบายอย่างจริงใจว่ามองไม่เห็นศิลปินเลยแม้แต่น้อย จะเห็นก็ต่อเมื่อเขย่งจนสุดปลายเท้า แล้วยกมือสูงสุดเพื่อใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพบรรยากาศ ผู้ชมส่วนใหญ่ในละแวกเดียวกันจึงไม่มีตัวเลือกอื่น นอกจากดูจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่ง เพื่อดูว่าศิลปินกำลังทำอะไรกันอยู่บ้าง
อย่างที่รู้กันว่าเวลาเริ่มการแสดงคือ 19.00 น. แต่คอนเสิร์ตในวันแรกช้าจากเดิมไปประมาณ 32 นาที แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อผู้ชมในสนามได้เห็นการปรากฏตัวของ BLACKPINK ความเหนื่อยที่สะสมมาตลอดทั้งวันก็เหมือนดีขึ้น และพร้อมสนุกสุดเหวี่ยงไปพร้อมกับพวกเธอ ซึ่งเลือกเพลงเปิดโหมอารมณ์ให้คึกคักอย่าง How You Like That, Pretty Savage และ Whistle
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของคอนเสิร์ตที่หลายคนตั้งตารอ คงหนีไม่พ้น ‘Solo State’ ของสมาชิกทุกคนที่เริ่มต้นด้วยพี่ใหญ่ของวงอย่างจีซู กับเพลง Lair (Cover Version) ก่อนส่งต่อเวทีให้กับเจนนี่ ที่โชว์ความเซ็กซี่และความเป็นยัยตัวแสบได้อย่างสมบูรณ์แบบกับเพลง SOLO และ You and Me
ทางด้านของโรเซ่ ก็เปิดเวทีเดี่ยวของตัวเองด้วยเพลงสุดเพราะอย่าง Hard to Love ที่ได้โชว์พลังเสียงเต็มที่ ตามด้วยเพลงสุดฮิตอย่าง On the Ground ที่ทำให้หลายคนไม่สามารถละสายตาได้ ส่วนสมาชิกคนสุดท้ายอย่างลิซ่า ใส่เต็มด้วยเพอร์ฟอร์แมนซ์เท่ๆ กับเพลง LALISA และ MONEY ซึ่งซีนที่สร้างเสียงฮือฮามากที่สุดในหมู่ผู้เล่นทวิตเตอร์คือท่อนที่ลิซ่าร้องว่า “Everyone silent” แล้วบลิ๊งค์หลายหมื่นคนทั่วสนามสามารถเงียบได้ภายในอึดใจ
นอกเหนือจากโชว์ระดับคุณภาพของ BLACKPINK ความน่ารักของเมมเบอร์ที่มีให้เห็นตลอด 2 ชั่วโมง สามารถเรียกรอยยิ้มจากแฟนคลับได้ตลอดเวลา จีซู เจนนี่ และโรเซ่ พูดเสมอว่าดีใจมากๆ ที่ได้มาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทยซึ่งเป็นบ้านเกิดของลิซ่า และมีความสุขมากๆ ที่เห็นว่าลิซ่ามีความสุข
ไหนจะความพยายามพูดภาษาไทยด้วยประโยคน่ารักๆ หรือการที่เมมเบอร์ทุกคนคอยถามบลิ๊งค์อยู่ตลอดเวลาว่า “ร้อนไหมคะ” “โอเคไหมคะ” “ไหวใช่ไหมคะ” หรือการพูดตลกๆ ของจีซูที่มักจะมาถูกจังหวะเสมอ เช่น การที่อยู่ๆ พูดขึ้นมาว่า “เป็นคนไทยค่า” ก็สร้างเสียงหัวเราะเพราะความเอ็นดูได้ตลอด รวมถึงการที่พวกเธอบอกกับทุกคนในสนามว่า “คิดถึงนะ” และ “รักบลิ๊งค์นะคะ” ที่ไม่ว่าใครได้ยินแล้วก็ต้องยิ้มให้กับความน่ารักสดใสของทุกคน
BLACKPINK ไม่ได้เพียงแค่ขึ้นมาแสดงคอนเสิร์ตแล้วจบไป แต่พวกเธอมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับตลอดเวลา
เราซึ่งไม่อาจเรียกตัวเองได้อย่างมั่นใจว่าเป็นบลิ๊งค์ ทว่ากว่า 2 ชั่วโมงที่อยู่ในคอนเสิร์ต BORN PINK กลับร้องทุกเพลงของ BLACKPINK ได้ครบถ้วน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสำเร็จในวงกว้างของพวกเธอ ดึงดูดให้เหล่านักฟังเพลงได้มาลองทำความรู้จักกันผ่านบทเพลงในอัลบั้มต่างๆ จนรู้ตัวอีกทีทุกเพลงในทุกอัลบั้มก็พากันหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในหัวของนักฟังเพลงจำนวนมากเสียแล้ว
การแสดงกว่า 2 ชั่วโมง แสง สี เสียง ที่จัดเต็ม วงดนตรีสด การร้องสดไร้ลิปซิงค์ และเสียงเชียร์ของแฟนคลับ ทั้งหมดคือองค์ประกอบหลักที่ทำให้ผู้คนยอมจ่ายเงินมาเพื่อรับชมและรับฟังด้วยตาตัวเอง
แม้จะมีบางช่วงบางตอนที่มีจังหวะเดดแอร์เบาๆ แต่ก็ถือว่าสามารถมองข้ามไปได้ เพราะในแง่องค์ประกอบหลักของคอนเสิร์ต ครั้งนี้ถือว่าทำได้ครบถ้วนดีเยี่ยมทั้งจังหวะการปล่อยพลุ เปลวไฟ แสงเลเซอร์ ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างถูกที่ถูกเวลา (แม้จะมีอุบัติเหตุในบางช่วง) โดยเฉพาะกับ BLACKPINK และวงดนตรีเจ้าประจำที่เวิลด์ทัวร์ไปพร้อมกับพวกเธอ ที่จำเป็นต้องย้ำอีกครั้งว่ายอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ ที่ก่อนหน้านี้เราได้ยินเหล่าบลิ๊งค์รอบตัวยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ดนตรีสดกับ BLACKPINK เป็นอะไรที่โคตรจะลงตัว”
อ้างอิง
https://twitter.com/TIME/status/1599943364010442754
https://twitter.com/BLACKPINKSTATS5/status/1605727543008428033
https://theqoo.net/index.php?mid=square&filter_mode=normal&page=11&document_srl=1148379340
https://www.billboard.com/lists/best-albums-2022/
https://time.com/entertainer-of-the-year-2022-blackpink/
https://www.koreaboo.com/lists/kpop-girl-groups-official-best-selling-2022/
Tags: คอนเสิร์ต, Lisa, BLACKPINK, BORNPINK in BKK, Screen and Sound, บลิ๊งค์, บลิ้ง, Entertainment, แบล็กพิงก์, ไอดอลเกาหลี, Rosé, Music, BORN PINK IN BANGKOK, เพลง, Jisoo, ดนตรี, Jennie