วันนี้ (23 มีนาคม 2566) ที่พรรคเพื่อไทย มีการแถลงข่าวเปิดตัว สมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึง อนงค์วรรณ เทพสุทิน ภรรยาของสมศักดิ์ กลับเข้าพรรคเพื่อไทย โดยมีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ

สุริยะกล่าวตอนหนึ่งว่า โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศพังทลายยับเยินในช่วง 4 ปีแรก จากการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งทำให้ไม่เป็นที่ยอมรับจากนักลงทุนต่างประเทศ และทำให้ประเทศเสียโอกาสเป็นอย่างมาก ขณะที่ในช่วง 4 ปีหลังมานี้ที่ตนเองได้เข้าร่วมรัฐบาล ก็ปรากฏว่าพรรคพลังประชารัฐได้รับเสียง ส.ส.ไม่มากพอ จำเป็นต้องกระจายกระทรวงเศรษฐกิจไปยังพรรคต่างๆ ทำให้ขาดพลังในการแก้ไขปัญหาของประเทศ และนโยบายต่างๆ จำเป็นต้องคอยประนีประนอมให้แต่ละพรรคแย่งงบประมาณมาชูนโยบายของตนเอง จนไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้

“เมื่อเราสังเกตจาก GDP ของประเทศ เราโตต่ำเกือบที่สุดในประเทศอาเซียน ดังนั้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จะทำได้นั้นเราต้องมีแกนนำรัฐบาลที่มี ส.ส.เข้ามาอย่างถล่มทลาย หรือที่เราเรียกว่าแลนด์สไลด์ ทั้งท่านสมศักดิ์และผมจึงตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทย ให้มีส่วนแลนด์สไลด์ในครั้งนี้ด้วย เพื่อทำให้พรรคเพื่อไทยได้นำนโยบายพรรค คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน”

สุริยะยังระบุด้วยว่า วันนี้ถ้าไม่คิดใหญ่เศรษฐกิจคงฟื้นไม่ได้ และประกาศสนับสนุนนโยบายขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาทต่อวัน ในปี 2570 และผู้ที่จบปริญญาตรีต้องได้เงินเดือนขั้นต่ำ 2.5 หมื่นบาท เพราะวันนี้ผู้ใช้แรงงานต่างได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องช่วยเกษตรกรนับสิบล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลบริหารขาดประสิทธิภาพ พืชผลเกษตรตกต่ำตลอดกาล ทั้งที่ค่าปุ๋ยขึ้นไป 200-300%

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวด้วยว่า ในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มีโอกาสได้พบกับหอการค้าและสภาอุตสาหกรรม ซึ่งผู้คนในแวดวงนี้ทุกคนต่างยืนยันว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ และหากรัฐบาลปัจจุบันอยู่ต่อไปคงทุกข์ยากลำบาก ทุกคนจึงบอกให้ย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ

ด้านสมศักดิ์ระบุว่า การทำงานการเมืองในปัจจุบัน หากเห็นและเข้าใจแล้วไม่ปรับตัวเอง ก็ไม่สามารถทำงานต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ และจะทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียหาย พร้อมกับยืนยันคำเดิมว่า วันนี้ ‘ฟ้าเปิด’ และ ‘เมฆหมอกจาง’ เป็นบรรยากาศประชาธิปไตย ที่จะสร้างงานและอาชีพให้ประชาชนมีความสุข

“ที่ประทับใจมากที่สุดคือทีมของพรรคเพื่อไทย เป็นทีมที่เข้าใจง่าย เป็นปุถุชนธรรมดา ไม่ใช่คนมียศถาบรรดาศักดิ์ ที่จะฟังชาวบ้านชาวเมืองแล้วไม่เข้าใจ ผมเชื่อว่าทีมนี้จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ เมื่อทำความเข้าใจ ตกผลึก ขับเคลื่อนงาน ซึ่งต่างจากการแก้ปัญหาโดยทำตามที่ข้าราชการเสนอบันทึกมา และไม่สามารถแก้ปัญหานั้นๆ ได้”

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังยืนยันด้วยว่า วันนี้ไม่มีกลุ่ม ‘สามมิตร’ อีกแล้ว มีแต่บุคลากรที่จะทำงานสนับสนุนนโยบายและพื้นที่ของพรรค โดยจะมีการเติมเต็มพื้นที่ใหม่ๆ พร้อมกับยืนยันว่า ไม่มีมุ้ง ไม่มีกลุ่ม และตรงไหนที่พรรคเพื่อไทยต้องการพื้นที่ใหม่ๆ ก็จะเข้ามาช่วยกันเติมเต็มให้มากที่สุด

ด้านนายแพทย์ชลน่านระบุว่า ในส่วนของสุริยะจะช่วยเหลือพรรคในส่วนกลาง ขณะที่สมศักดิ์จะช่วยเพิ่มจำนวน ส.ส.ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่พรรคยังไม่มี ส.ส.

หากย้อนอดีตกลับไป สำหรับสมศักดิ์ซึ่งคุมมุ้ง ส.ส.ในจังหวัดสุโขทัยและกลุ่มจังหวัดใกล้เคียง และสุริยะซึ่งดำรงสถานะ ‘นายทุน’ ถือเป็นบุคลากรสำคัญในกลุ่ม ‘สามมิตร’ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐร่วมกับ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เมื่อช่วงปลายปี 2561 และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พลเอกประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้ง 2562

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนเก่าแก่ของพรรคไทยรักไทย โดยสมศักดิ์ย้ายพรรคมาร่วมกับพรรคไทยรักไทย และลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อตั้งแต่ปี 2544 ก่อนจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในปี 2545 ขณะที่สุริยะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในปี 2544 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในปี 2545

Tags: , , , ,