เมื่อวานนี้ (15 สิงหาคม 2023) สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานถึงท่าทีของ ฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เนื่องในโอกาสรำลึกครบรอบ 78 ปี ที่จักรวรรดิญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 หลังเขาไม่กล่าวถึงอดีตอันเลวร้ายของทหารญี่ปุ่น พร้อมส่งเครื่องสักการะไปยังศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) สัญลักษณ์ความโหดร้ายแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น
“ญี่ปุ่นขอยึดมั่นในแนวทางเพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมแห่งสงครามซ้ำรอยอีกครั้งหนึ่ง” คิชิดะกล่าวในพิธีรำลึก โดยมีเนื้อหาคล้ายคลึงสุนทรพจน์เมื่อปีที่แล้ว เขาเสริมเรื่องราวในอดีตที่ญี่ปุ่นถูกกระทำจากสหรัฐอเมริกาและฝ่ายสัมพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์การทิ้งระเบิดปรมาณูในฮิโรชิมา (Hiroshima) กับนางาซากิ (Nagasaki) และการสู้รบอันนองเลือดในยุทธการแห่งโอกินาวา (Okinawa)
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังให้คำมั่นต่อบทบาทธำรงสันติภาพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 9 หรือบทบัญญัติที่ละเว้นการใช้กำลังในโลกระหว่างประเทศ และจะแสวงหาความร่วมมือกับนานาชาติเพื่อจัดการกับปัญหาความขัดแย้งในโลก
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของคิชิดะทำให้เกิดการตั้งคำถามตามมา เมื่อเขาไม่เอ่ยถึง และกล่าวขอโทษต่อวีรกรรมอันร้ายแรงของจักรวรรดิญี่ปุ่นในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการรุกรานประเทศอื่นๆ ในช่วงต้นทศวรรษ 1900 หรืออาชญากรรมในช่วงสงครามโลกอย่างการสังหารหมู่นานกิง (Nanking) และกรณีหญิงบำรุงขวัญ (Comfort Women) ก็ตาม
ขณะที่ นารุฮิโตะ (Naruhito) จักรพรรดิองค์ปัจจุบัน ออกมากล่าวสุนทรพจน์สำนึกผิดถึงการกระทำของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก
“เมื่อนึกถึงอดีตของเรา และจดจำความรู้สึกที่เต็มไปด้วยการสำนึกผิด ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความหายนะของสงครามครั้งนั้นจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก” นารุฮิโตะกล่าวเสริมว่า จะขอเดินตามรอยอดีตจักรพรรดิอากิฮิโตะ (Akihito) พระราชบิดาในการชดเชยความผิดที่เคยกระทำลงไป
ลำพังแค่การไม่ปริปากถึงวีรกรรมญี่ปุ่นในสงคราม ก็ได้รับการจับตามองจากสังคมระหว่างประเทศในด้านลบอยู่แล้ว แต่คิชิดะยังส่งเครื่องบูชาไปยังศาลเจ้ายาสุกุนิ หรือสัญลักษณ์ความโหดร้ายแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น และการนิ่งเฉยต่อความผิดที่เคยทำ หลังศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อสดุดีดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตในสงคราม ซึ่งรวมถึงผู้นำที่เป็นอาชญากรสงคราม อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ยูชูคัง (Yushukan Museum) ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงในสงคราม
คิชิดะจึงถูกจับตามองในฐานะผู้สนับสนุนความรุนแรง และโหยหาความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิญี่ปุ่นที่แลกมาด้วยความตายของผู้คน โดยจีนและเกาหลีใต้ในฐานะเหยื่อจากการกระทำของจักรวรรดิญี่ปุ่น ออกมาแสดงท่าทีไม่พอใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“นักการเมืองญี่ปุ่นแสดงท่าทีด้านลบผ่านศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสะท้อนความคิดที่ผิดพลาดในหน้าประวัติศาสตร์
“จีนขอให้ญี่ปุ่นเรียนรู้จากประวัติศาสตร์อย่างกระตือรือร้น ยึดมั่นการพัฒนาแนวทางแห่งสันติภาพ และแสดงให้เห็นท่าทีอันประจักษ์ที่จะหันหลังให้กับลัทธินิยมทหาร (Militarism) และหลีกเลี่ยงการทำลายความเชื่อใจต่อเพื่อนบ้านชาวเอเชีย และประชาคมระหว่างประเทศ” หวัง อี้ (Wang Yi) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีนเหน็บแนมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นย่ำแย่ลงจากความขัดแย้งในข้อพิพาทด้านดินแดน
“รัฐบาลเกาหลีใต้ผิดหวังและเสียใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อผู้นำที่เปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบแห่งรัฐบาลญี่ปุ่น ส่งเครื่องบูชาไปยังศาลเจ้ายาสุกุนิ อีกทั้งยังมีคณะรัฐมนตรีบางคนไปเยือนสถานที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสถานที่ที่แปรเปลี่ยนอดีตของญี่ปุ่นในสงครามให้สวยงาม” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์ เมื่อ ซาเนะ ทากาชิ (Sanae Takachi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น เดินทางไปเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ แต่ไม่มีการตอบโต้รุนแรงเท่าจีน เนื่องจากความสัมพันธ์ทวิภาคีของสองประเทศกำลังเดินหน้าในทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางการญี่ปุ่นแจ้งว่า การกระทำของคิชิดะเกิดขึ้นในนามหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่น (Liberal Democratic Party: LDP) และไม่ได้เดินทางไปเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิ แค่วางดอกไม้เพื่อไว้อาลัยทหารผู้ล่วงลับในสุสานจิโดริกาฟุจิ (Chidorigafuchi) เท่านั้น
ทว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า คิชิดะกำลังเดินตามรอยท่าทีอันแข็งกร้าวของ ชินโซะ อาเบะ (Shinzo Abe) อดีตนายกรัฐมนตรีขวาจัดจากพรรค LDP ที่แสดงความไม่สนใจเรื่องราวอดีตความโหดร้ายของจักรวรรดิญี่ปุ่น เพราะคิชิดะไม่เคยแสดงความรู้สึกเสียใจต่อโศกนาฏกรรม รวมถึงยังส่งเครื่องสักการะไปยังศาลเจ้ายาสุกุนิ นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2021 เป็นต้นมา
อ้างอิง
https://www.globaltimes.cn/page/202308/1296333.shtml
https://www.the101.world/yasukuni-shrine/
https://en.yna.co.kr/view/AEN20230815002300315