เมื่อวานนี้ (13 มิถุนายน 2024) สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า ฝรั่งเศสและอิตาลีโต้เถียงในระหว่างการประชุม G7 (Group 7) หลังอิตาลีเรียกร้องให้นำประโยค ‘ทำแท้งอย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย’ ออกจากแถลงการณ์ร่วม ขณะที่ฝรั่งเศสยืนกรานและประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ วาระการทำแท้งถูกกฎหมาย เป็นส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ร่วมในการประชุมสุดยอด G7 ประจำปี 2023 ณ เมืองฮิโรชิมา (Hiroshima) ประเทศญี่ปุ่น และถูกผลักดันอย่างต่อเนื่องในการประชุมครั้งล่าสุดที่เมืองฟาซาโน (Fasano) แคว้นอาปูเลีย (Apulia) ประเทศอิตาลี
ทั้งนี้ รายงานของรอยเตอร์ (Reuters) ระบุว่า ฝรั่งเศสและแคนาดาเป็นฝ่ายเสนอวาระการทำแท้งถูกกฎหมายระหว่างการประชุม ทว่าข้อเสนอดังกล่าวกลายเป็นปมความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ หลังนักการทูตอิตาลีในฐานะเจ้าภาพการประชุมโต้แย้งว่า ประโยค “การทำแท้งถูกกฎหมาย” ต้องไม่ปรากฏบนแถลงการณ์ร่วมฉบับสมบูรณ์ โดยอ้างว่า ไม่มีสาระสำคัญใดที่ต้องใช้ประโยคนี้ และเรื่องนี้ได้รับความเห็นชอบร่วมกันในปฏิญญาสันติภาพฮิโรชิมาในการประชุม G7 ปี 2023 แล้ว
นั่นจึงทำให้ฝรั่งเศสแสดงความไม่พอใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ต่อสื่อของอิตาลีถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ตนรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอิตาลีไม่มีสำนึกร่วมกันในเรื่อง ‘ความเท่าเทียม’ ซึ่งต่างจากฝรั่งเศสที่มองว่า ผู้ชายและผู้หญิงเท่าเทียมกันในหลายปริมณฑลทางการเมือง
ขณะที่ สหรัฐอเมริกาภายใต้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) แสดงความไม่พอใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยผู้แทนระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ไบเดนไม่ต้องการให้นำวาระการทำแท้งออกจากแถลงการณ์ร่วม และอย่างน้อยการประชุม G7 ครั้งนี้ ควรยอมรับเงื่อนไขปฏิญญาฮิโรชิมาเรื่องสุขภาวะของเพศหญิง รวมถึงสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ (Reproductive Rights)
นอกจากนี้ นักการทูตนิรนามรายหนึ่งยังระบุผ่านรอยเตอร์ว่า ทุกประเทศสนับสนุนวาระดังกล่าว แต่นี่เป็นประเด็นอ่อนไหวสำหรับอิตาลี โดยเฉพาะ จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni) นายกรัฐมนตรีจากพรรคฝ่ายขวาที่ต่อต้านนโยบายการทำแท้ง ครั้งหนึ่งเธอเคยเล่าว่า ตนอาจไม่มีชีวิตรอดจนถึงทุกวันนี้ เพราะแม่ของเธอเคยเกือบทำแท้ง ก่อนจะตัดสินใจเก็บเธอไว้
ขณะเดียวกัน เมโลนีโต้ตอบวาทะของมาครง หลังนักข่าวอิตาลีสอบถาม และเกริ่นถึงการที่ฝรั่งเศสรองรับสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า คนอิตาลีไม่มีสำนึกร่วมกันในเรื่องนี้เหมือนฝรั่งเศส และเธอรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไรนัก แต่เคารพการตัดสินใจของคนในชาตินั้นๆ
นายกรัฐมนตรีอิตาลียังทิ้งระเบิดด้วยการเหน็บแนมประธานาธิบดีฝรั่งเศสว่า ไม่มีเหตุผลที่เธอจะสร้างความขัดแย้งในการประชุมครั้งนี้ และสิ่งที่มาครงทำเป็นการ ‘หาคะแนนเสียง’ ระหว่างการเลือกตั้งใหม่ในฝรั่งเศส หลังมีการยุบสภาในวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อพรรคชุมนุมแห่งชาติ (National Rally: RN) พรรคฝ่ายขวาจัด มีคะแนนนำทิ้งห่างจากพรรคเรอเนสซองส์ (Renaissance) ของมาครงในการเลือกตั้งยุโรปปี 2024
“ฉันคิดว่า มันผิดฝาผิดตัวมากที่เขาหาเสียงโดยใช้เวทีการประชุม G7 อันมีค่า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้” เมโลนีทิ้งท้ายกับนักข่าวถึงมาครง
อย่างไรก็ตาม อันโตนีโย ตายานี (Antonio Tajani) รองนายกรัฐมนตรีอิตาลี ปฏิเสธมูลข่าวที่เกิดขึ้นผ่านสกายทีจี 24 (Sky TG24) ว่า ตัวแทนของทุกฝ่ายกำลังอยู่ขั้นเจรจาหารือกันอยู่ ซึ่งเร็วเกินไปที่จะวิเคราะห์ และไร้ประโยชน์ที่จะคาดการณ์ ก่อนจะทิ้งท้ายว่า ประเด็นสงครามในยูเครนและความขัดแย้งในตะวันออกกลาง คือเป้าหมายหลักในการประชุมครั้งนี้
เบื้องต้นมีการรายงานว่า ทุกฝ่ายในการประชุม G7 จะแก้ปัญหาร่วมกันโดยไม่ระบุถึงสิทธิการทำแท้งในแถลงการณ์ หากแต่อ้างอิงว่า แต่ละชาติจะปฏิบัติตามปฏิญญาฮิโรชิมาในปีที่ผ่านมา
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การประชุมครั้งนี้เต็มไปรอยร้าวมากมาย สะท้อนจากเสียงของนักการทูตระดับสูงในยุโรปรายหนึ่งผ่านเอลปาอีส (El País) สื่อสเปน ว่าสถานการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นอุดมการณ์ที่ขัดแย้งระหว่างกลุ่ม G7 ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ของประเทศสมาชิกในฐานะผู้นำโลกเสรี
อิตาลีเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่รองรับการทำแท้งถูกกฎหมายในปี 1978 แม้เคยเป็นเรื่องต้องห้ามในสมัยของ เบนิโต มุสโสลินี (Benito Mussolini) ผู้นำฟาสซิสต์อิตาเลียน ปัจจุบันอิตาลีอนุญาตให้ผู้หญิงยุติการตั้งครรภ์ในระยะเวลา 90 วัน นับจากวันแรกที่ตั้งท้อง และไม่กำหนดอายุครรภ์หากมีเหตุผลด้านการรักษาโรค ทว่าในทางปฏิบัติแพทย์จำนวนหนึ่งยังปฏิเสธการทำแท้งด้วยเหตุผลทางศาสนาและศีลธรรม
อ้างอิง
https://www.city.hiroshima.lg.jp/uploaded/attachment/216700.pdf
Tags: ฝรั่งเศส, อิตาลี, ทำแท้ง, โจ ไบเดน, G7, สิทธิทำแท้ง, Abortion Rights, ยุติการตั้งครรภ์, เอ็มมานูเอล มาครง, Group 7, สหรัฐอเมริกา, จอร์จา เมโลนี, ยุโรป
