มีเรื่องสะเทือนวงการแฟชั่นและผู้รักการเก็บกระเป๋าแบรนด์เนมอีกแล้ว หลังสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานตรงกันว่า เมื่อวานนี้ (20 มีนาคม 2024) ชาวแคลิฟอร์เนีย 2 ราย ยื่นฟ้องแอร์เมส (Hermès) แบรนด์กระเป๋าชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศส หลังปฏิเสธขายกระเป๋าแอร์เมสรุ่นเบอร์กิน (Hermes Birkin) ให้ โดยอ้างว่า ต้องมีประวัติการซื้อสินค้าก่อนหน้านี้ ‘มากพอ’ เท่านั้น

ทินา คาวาลเลอรี (Tina Cavalleri) และมาร์ก กลิโนกา (Mark Glinoga) ชาวแคลิฟอร์เนีย 2 ราย คือผู้ที่ยื่นฟ้องบริษัท แอร์เมสอินเตอร์เนชั่นแนลเอดูเคชั่น จำกัด กับศาลในซานฟรานซิสโก ในข้อกล่าวหาว่า แอร์เมสละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดทางการค้า ด้วยการ ‘ขายพ่วง’ สินค้าอีกหลายชิ้น หากลูกค้าต้องการซื้อกระเป๋าตามที่ตนเองต้องการ

ทินาและมาร์กให้เหตุผลว่า การปฏิบัติเช่นนี้จากแอร์เมสเป็นการบีบบังคับให้ลูกค้าต้องสร้าง ‘ประวัติการซื้อ’ ด้วยการซื้อของหรูหราอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอ จิวเวลรี หรือสินค้าตกแต่งบ้าน ซึ่งขัดต่อกฎหมายป้องกันการผูกขาดทางการค้า ด้วยการละเมิดอำนาจทางการตลาด ซึ่งทำให้แอร์เมสสามารถเพิ่มราคาสินค้าได้ตามต้องการ

ข้อมูลสำคัญที่สนับสนุนให้การฟ้องร้องครั้งนี้มีน้ำหนักมากขึ้น คือ ‘ค่าคอมมิชชัน’ ของพนักงานแอร์เมส เพราะพวกเขาจะได้ค่าคอมมิชชันเฉพาะการขายสินค้าประเภทอื่นๆ ในประวัติการซื้อขายราว 3% โดยไม่ได้รับเงินจากการขายกระเป๋าแอร์เมส 

“ผู้บริโภคทั่วไปไม่มีทางเห็นกระเป๋าเบอร์กินในช็อปแอร์เมสแน่นอน โดยปกติแล้ว ลูกค้าที่คู่ควรเท่านั้นถึงจะเห็นเบอร์กินในห้องส่วนตัวของร้าน” ส่วนหนึ่งของเอกสารฟ้องร้องในครั้งนี้ ซึ่งเน้นย้ำถึงความ ‘เข้าถึงยาก’ ในการซื้อสินค้ากับบริษัทแบรนด์เนมสัญชาติฝรั่งเศสเจ้านี้ 

ทินา ผู้ฟ้องร้องคนแรก เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดว่า ในช่วงที่ผ่านมา เธอใช้เงินจำนวนมากถึง 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.5 แสนบาท) ไปกับการซื้อสินค้าจากแอร์เมสมากมาย

ต่อมาในเดือนกันยายน 2022 ทินาติดต่อเพื่อขอซื้อแอร์เมสเบอร์กินรุ่นยอดฮิต แต่พนักงานกลับตอบปฏิเสธ พร้อมให้เหตุผลว่า สินค้าใบนี้จะขายให้กับลูกค้าที่มี ‘ยอดซื้อสม่ำเสมอ’ เท่านั้น นั่นจึงทำให้เธอเข้าใจว่า นี่เป็นการบังคับให้เธอซื้อสินค้าของแอร์เมสให้มากขึ้น เพื่อบรรลุเงื่อนไขสำคัญที่จะได้กระเป๋าใบดังกล่าวมาครอบครอง 

ขณะที่ มาร์ก ผู้ฟ้องร้องอีกราย บอกว่า เขาพยายามซื้อกระเป๋าเบอร์กินหลายครั้งหลายหนในปีที่ผ่านมา ทว่าทางแอร์เมสกลับตอบปฏิเสธคล้ายกันว่า ลูกค้าต้องซื้ออุปกรณ์เสริมหรือสินค้าอื่นๆ เสียก่อน 

ทั้งนี้ รายละเอียดอื่นๆ ของโจทก์และทนายความโจทก์ทั้ง 2 คนยังไม่ถูกเปิดเผย เช่นค่าเสียหาย ขณะที่ทางแอร์เมสยังไม่แสดงความคิดเห็น หรือปฏิกิริยากับสื่อในการฟ้องร้องครั้งนี้ 

นอกจากนี้ สำนักข่าวฟรองซ์แว็งกัซ (France 24) ยังระบุว่า คดีนี้ยังเปิดให้เหยื่อทางการตลาดอีกหลายรายเข้าร่วมฟ้อง พร้อมเน้นย้ำว่า ทุกคนควรได้ซื้อกระเป๋าตามที่ตนเองต้องการ

Hermès Birkin & Kelly: กระเป๋าที่แค่ ‘มีเงิน’ ก็ซื้อไม่ได้ 

โดยทั่วไปแล้ว การซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงถือว่ายากเย็นสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะการคำนึงถึง ‘เงิน’ ในกระเป๋า 

แต่สำหรับกระเป๋ารุ่นพิเศษอย่างเบอร์กินหรือเคลลี (Kelly) ซึ่งได้รับการขนานนามในฐานะ ‘Holy Trinity’ ของแอร์เมส นับเป็นปราการด่านสำคัญที่ท้าทายคอแบรนด์เนมทั่วโลก เพราะมีเงื่อนไขมากมายที่อาจบอกได้ว่า ‘มีเงินอย่างเดียวก็ซื้อไม่ได้’ ไม่ว่าจะเป็นการมียอดซื้อเกินกว่าราคากระเป๋า การจำกัดการซื้อได้แค่ 2 ใบต่อปีในลูกค้า 1 ราย ตามระบบโควตา (Quota) หรือการเป็นลูกค้า VIP ของแอร์เมสก็ตาม

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เบอร์กินกลายเป็นกระแส ไม่ใช่เพียงได้รับความนิยมจากเหล่าเซเลบริตีทั่วโลกอย่าง คิม คาร์เดเชียน (Kim Kardashian), วิคตอเรีย เบ็คแฮม (Victoria Beckham), เคต มอสส์ (Kate Moss), ไคลีย์ เจนเนอร์ (Kylie Jenner), เกรซ เคลลี (Grace Kelly) เจ้าหญิงแห่งโมนาโก หรือฟาร์เรลส์ วิลเลียมส์ (Pharrell Williams) ที่เดินถือกระเป๋าสุดหรูนี้ไปมาจนกลายเป็นภาพจำ 

แต่ยังรวมถึงการเป็นกระเป๋าที่ทำจากวัสดุคุณภาพราคาสูง โดยเฉพาะการใช้หนังสัตว์นานาชนิดที่อ้างว่าดีที่สุดในโลก เช่น หนังจระเข้ หนังนกกระจอกเทศ และหนังกิ้งก่า (แม้จะมีเรื่องสิทธิของสัตว์ตามมาในภายหลัง) ขณะที่ก็ต้องพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในการทำงาน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ช่างฝีมือต้องผ่านการอบรมมากกว่า 3-4 ปีจึงจะรังสรรค์กระเป๋าใบนี้ได้ 

ว่ากันว่า การทำเบอร์กินหนึ่งใบใช้เวลาอย่างน้อย 18 ชั่วโมง หากเทียบกับชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ของฝรั่งเศสจะอยู่ที่ 35 ชั่วโมง หมายความว่า กว่ากระเป๋าใบนี้จะกลายเป็นสินค้าทรงคุณค่าต้องตาต้องใจใครหลายคน จำต้องใช้เวลาราว 2-3 สัปดาห์เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ คือลิสต์รายชื่อของผู้ต้องการค้าซื้อทั่วโลก (เป็นความลับ แต่อาจอยู่ที่ 1.2 หมื่นใบ ถึง 7 หมื่นใบ) ทำให้กว่าจะได้เบอร์กินมาใบหนึ่ง ต้องใช้เวลายาวนานและผ่านมาตรการยากเย็นแสนเข็ญเสีย จนทำให้ไทม์ (TIME) ประเมินว่า การลงทุนกับเบอร์กินหนึ่งใบยัง ‘ดีกว่า’ ลงทุนกับทองคำหรือหุ้นเสียอีก

อ้างอิงข้อมูลจาก Baghunter ราคากระเป๋าเบอร์กินพุ่งสูงแซงหน้าดัชนี S&P 500 และราคาทองคำในรอบ 35% โดยคิดเป็น 14.2% หากเทียบกับหุ้นที่มีอัตราเฉลี่ย 8.7% ต่อปี และราคาทองคำที่ตกลง -1.5% 

“เบอร์กินเปรียบดังสัญลักษณ์สำคัญของชนชั้นนำและมหาเศรษฐี นี่จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้เป็นที่ต้องการในตลาดรอง สัญญาณทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นผ่านความต้องการอย่างแรงกล้าในปี 2016 หลังสื่อมักพากันประจบประแจงคนดังอย่างคิม คาร์เดเชียน และวิคตอเรีย เบ็คแฮมที่ถือเบอร์กินในภาพถ่ายของปาปารัสซี” Baghunter แสดงความคิดเห็นถึงความนิยมของเบอร์กินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

ความล้ำค่าของเบอร์กินถูกแสดงออกมาผ่านรู้สึกไม่พอใจ หากใครเก็บรักษากระเป๋าไม่ดีราวกับไม่รู้คุณค่าของมัน

ดังกรณีที่คาร์เดเชียนวางแอร์เมสใบงามสีเทาจากหนังจระเข้บนพื้น ในการแข่งขันบาสเก็ตบอลที่ลอสแอนเจลิสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พาลทำให้ชาวเน็ตต่างโวยวายเป็นเสียงเดียวกันว่า

“เบอร์กินบนพื้น บ้าไปแล้ว! ฉันจะไม่วางเบอร์กินบนพื้นแน่นอน!”

อ้างอิง

https://time.com/6958853/hermes-birkin-bag-class-action-lawsuit/

https://www.reuters.com/business/retail-consumer/hermes-sued-antitrust-class-action-over-birkin-bag-sales-2024-03-20/

https://www.theguardian.com/fashion/2024/mar/20/hermes-birkin-handbag-lawsuit

https://www.tatlerasia.com/style/fashion/my-hermes-birkin-the-ultimate-status-symbol-of-the-super-rich

https://www.invaluable.com/blog/history-birkin-bag/

https://people.com/kim-kardashian-stirs-reactions-after-putting-hermes-birkin-bag-on-the-floor-at-basketball-game-8611239

https://www.nssmag.com/en/fashion/30595/birkin-men

https://www.harpersbazaar.com.sg/fashion/iconic-celebrity-birkin-moments

https://www.instyle.com/fashion/accessories/bags/how-to-buy-a-birkin-bag

https://madisonavenuecouture.com/blogs/news/how-hermes-birkin-bags-are-made

Tags: , , , , , , , , ,