“ไอ้xxx ขับรถxxxอะไรวะ” 

ประโยคคุ้นหูที่มักได้ยินประจำบนท้องถนน เวลาพบเจอผู้ใช้รถใช้ถนนที่น่าหงุดหงิด แล้วเราก็อาจจะลืมๆ มันไป แต่สำหรับนิทรรศการ I GONE WILD (everyday) ไม่หยุดเพียงเท่านั้น ศิลปินเลือกจับเอาสถานการณ์ที่ผู้คนพบเจอในแต่ละวันที่ก่อให้เกิดการเปรียบเทียบแบบ ‘สัตว์ๆ’ มาบอกเล่าผ่านงานศิลปะล้ำๆ ด้วยเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) จำลองมิติเสมือน ที่ชวนให้ฉุกคิดว่าวันวันหนึ่งมนุษย์เราเปลี่ยนเป็นสัตว์ไปแล้วกี่ตัว

หากเราก้าวเข้าไปในห้องจัดแสดง ก็จะเห็นประติมากรรมเรียงราย คล้ายเมืองจำลองที่สร้างจากเครื่องปริ๊นต์สามมิติ แต่เมื่อลองเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วหยิบหน้าจอแท็บเล็ตขึ้นมาส่อง บนหน้าจอ เราจะเห็นสัตว์บางตัวใช้ชีวิตอยู่ในเมืองจำลองนั้น เมื่อมองดูดีๆ สัตว์เหล่านั้นอาจเป็นพวกเราเอง อย่างเช่นตัวเหี้ยที่คืบคลานบนท้องถนนหน้าตาเฉยและถูกอุทานชื่ออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หรือฝูงกบที่ส่งเสียงร้องในวันฝนพรำ ไม่ต่างจากพวกเราที่ติดอยู่บนถนนในวันฝนตก เราต่างอื้ออึง หยุดนิ่งและส่งเสียงกันไม่หยุด

— ความน่าสนใจเหล่านี้ล้วนเป็นผลงานของกลุ่มศิลปิน Living Spirits

    

Living Spirits คือกลุ่มศิลปะที่ชอบรับฟัง ตั้งคำถาม สร้างบทสนทนาและเชื่อมโยงผู้คนผ่านงานศิลปะด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ง่ายต่อการเข้าใจ เพื่อให้เข้าถึงผู้คนและสังคมวงกว้างได้ ผลงานหลักๆ ของศิลปินกลุ่มนี้ คือศิลปะจัดวางที่จัดแสดงตามงานต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Awakening Bangkok 2018, Chiang Mai Design Week 2018 และ I Light Singapore 2018 ณ ประเทศสิงคโปร์ และนิทรรศการ I GONE WILD (everyday) นี้ถือเป็นงานชิ้นแรกที่พวกเขาใช้เทคโนโลยี AR มาช่วยนำเสนอสิ่งที่ต้องการจะสื่อสาร

นอกจากประติมากรรมเมืองจำลองที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AR แล้ว อีกส่วนหนึ่งของนิทรรศการคือภาพวาดสัตว์ต่างๆ ที่มีพฤติกรรมเหมือนคนชัดๆ หรือนั่นอาจเป็นภาพมนุษย์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนสัตว์ก็ไม่อาจแน่ใจ

การเปรียบเทียบคนกับสิงสาราสัตว์เหล่านี้ พาผู้ชมไปตั้งคำถามกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว ที่เราอาจมีรีแอคชั่นเป็นการด่าทอ สบถ หรือมองเป็นเรื่องตลก เพื่อจะรับมือกับปัญหาที่พบเจอเป็นประจำ แล้วก็เลิกตั้งคำถามไป แต่เมื่อมันถูกสื่อผ่านภาพของสัตว์ ในทางหนึ่งก็ทำให้เราเห็นภาพสิ่งที่เป็นอยู่ได้ชัดเจนขึ้น 

บางภาพในนิทรรศการชวนให้ตีความได้อย่างหลากหลาย อย่างภาพวาดของชายชราที่มีงูพันล้อมรอบคอ บางคนอาจนึกถึงเฒ่าหัวงูที่พร้อมเปย์ให้กับสาวต่างวัยที่อายุต่างกันหลายรอบอายุ ขณะที่บางคนอาจนึกถึง ‘นังงูพิษ’ หญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่แอบแฝงไปด้วยความร้ายกาจที่พร้อมจะเล่นงานมนุษย์เพศผู้เงินถึง และแน่นอนว่าวิธีตีความของผู้ชมก็คงขึ้นอยู่กับมุมมองและประสบการณ์ที่ใครคนนั้นผ่านมานั่นเอง

อีกภาพหนึ่งที่รู้สึกใกล้ตัวเราสุดๆ คือ ภาพของไก่ตัวหนึ่งนั่งอยู่หน้าจอที่มีไก่อีกตัวกำลังไลฟ์ขายเครื่องแต่งกาย พร้อมแต่งตัวสวยงาม ชวนให้นึกถึงสุภาษิตไทย “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” และนึกไปถึงเวลาที่เราดูเหล่าพ่อค้าแม่ขายในโลกออนไลน์ ไลฟ์ทีไรเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวพวกเขา หรือเสื้อผ้าในรูปภาพเหล่านั้นก็สวยเสียจนบังคับให้มือไม่กด F และสั่งซื้อไม่ได้ แต่เมื่อสินค้ามาส่งและลองใส่ดู ผลปรากฏว่า เสื้อผ้าสวยเก๋ที่เห็นผ่านหน้าจอก็อาจไม่เหมาะสมกับเรานัก แต่เงินที่เสียไปนี่สิคือเรื่องจริง 

และอีกหนึ่งภาพวาดที่กระตุกความรู้สึกอยู่ไม่น้อย คนเลี้ยงสัตว์น่าจะชินดีเมื่อมีชามอาหารมาวางไว้เมื่อไร สุนัขหรือแมวของเราจะตั้งตารอให้อาหารมาเติมเต็มบนชามที่ว่างเปล่าทุกที คราวนี้ศิลปินได้เปลี่ยนชามเป็นหน้าจอที่มีแอปพลิเคชันพร้อมกับการแจ้งเตือน ขณะที่เจ้าตูบในภาพก็ตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ ดูไปก็คุ้นๆ เหมือนเวลาที่เรารอคอยให้ใครสักคนมามีปฏิสัมพันธ์กับเราบนโลกออนไลน์ไม่มีผิด

อีกหนึ่งผลงานที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุดคงเป็น ผลงานภาพของสลอธนอนอยู่บนเตียง มันสะท้อนความในใจลึกๆ ที่มีบ้างที่อยากนอนเรื่อยเปื่อยบนเตียงไม่ลุกไปไหนสัก 2-3 ชั่วโมง และศิลปินก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ารัก แม้ประเด็นที่ใส่เข้ามาจะไม่ได้เสียดสีสังคมรุนแรงเท่าไรนัก แต่มันก็เต็มไปด้วยการสังเกตสังกาและชวนให้ย้อนกลับมามองตัวเองรวมถึงคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีทีเดียว 

Fact Box

  • นิทรรศการมีตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2562 ณ Joyman Gallery เปิดให้เข้าชมวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. -  20.30 น. ไม่เสียค่าใช้จ่ายเข้าชม
    สอบถามรายละเอียดนิทรรศการและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 086-374-3408 หรืออีเมล [email protected]
Tags: , , ,