เมื่อเทศกาลคริสต์มาสที่มาพร้อมกับแสงไฟสว่างไสวมาถึง บทเพลงที่คุ้นเคยอย่าง Jingle Bells/ Last Christmas หรือ All I Want for Christmas Is You ก็ถูกเล่นซ้ำจนเรียกได้ว่า แทบจะครองทุกพื้นที่ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุข ความอบอุ่น และการเฉลิมฉลอง แต่ในบรรดาเพลงคริสต์มาสยอดนิยม ยังมีบทเพลงที่ลึกซึ้งและอาจไม่คุ้นหูใครหลายคนอย่าง Grown-Up Christmas List โดย เอมี แกรนต์ (Amy Grant) ที่สะท้อนถึงความปรารถนาของผู้ใหญ่ในเทศกาลคริสต์มาส ถือเป็นมุมมองใหม่ที่เหมาะจะฟังในช่วงเวลาที่โลกต้องการความหวังและการเยียวยา

เพราะในปี 2024 มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งสิ่งที่ดีและแย่ แน่นอนว่าเหล่านี้รวมถึงสงครามและความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน, อิสราเอล-ปาเลสไตน์, สงครามในซูดาน, สงครามกลางเมืองเมียนมา และสงครามทรัพยากรในแอฟริกาและตะวันออกกลาง ที่นำมาซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจและความอดอยาก ไปจนถึงความตึงเครียดภายในจนนำไปสู่สงครามกลางเมืองและการอพยพครั้งใหญ่ในอิหร่านและเวเนซุเอลา 

The Momentum จึงอยากหยิบบทเพลง Grown-Up Christmas List มาพูดถึงในวันคริสต์มาสก่อนปีนี้จะสิ้นสุดลง และก่อนการเดินทางสู่อนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น เพื่อหวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีของทุกคน 

“This is my grown-up Christmas list”

(นี่คือบันทึกคำขอในวันคริสต์มาสที่เติบโตขึ้น)

เมื่อของขวัญในหีบห่อเปลี่ยนเป็นคำขอให้โลกมีความสงบสุข

“Well, I’m all grown up now

Can you still help somehow?

I’m not a child, but my heart still can dream”

(ตอนนี้ฉันโตขึ้นแล้ว

แต่คุณยังช่วยฉันได้ไหม

แม้ว่าฉันจะไม่ใช่เด็กแล้ว

แต่หัวใจของฉันก็ยังมีความฝันอยู่)

Grown-Up Christmas List เป็นบทเพลงที่สะท้อนความคิดและความหวังของผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส นำเสนอผ่านมุมมองที่เปลี่ยนไปจากวัยเด็กสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ในวัยเด็กความสุขของเทศกาลคริสต์มาสมักผูกติดกับของขวัญหรือสิ่งของที่จับต้องได้ เรามักเชื่อว่าของขวัญที่ห่อไว้ใต้ต้นคริสต์มาสคือความสุขสูงสุด แต่เมื่อเติบโตขึ้นความปรารถนาเหล่านั้นกลับเปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งกว่า เช่น การยุติสงครามและการเยียวยาความทุกข์ของผู้คน แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของ ‘ความหวัง’ เมื่อเราก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ที่ต้องเผชิญกับความจริงของโลก

“As children we believed the grandest sight to see was something lovely wrapped beneath the tree” (ในวัยเด็ก เราเชื่อว่าสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือของขวัญที่ห่อไว้ใต้ต้นคริสต์มาส)

“But heaven only knows that packages and bows can never heal a hurting human soul” (แต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่า กล่องของขวัญและริบบิ้นไม่อาจเยียวยาวิญญาณที่เจ็บปวดของมนุษย์ได้)

คำขอคริสต์มาสเพื่อโลกที่ดีกว่า

“No more lives torn apart

That wars would never start

And time would heal all hearts

And everyone would have a friend

And right would always win

And love would never end”

(ขออย่าให้มีชีวิตใดถูกทำลาย

ขอให้สงครามไม่เริ่มต้นขึ้น

ขอให้เวลาเยียวยาหัวใจทุกดวง

ขอให้ทุกคนมีเพื่อน

ขอให้ความถูกต้องชนะเสมอ

ขอให้ความรักไม่มีวันสิ้นสุดลง)

บทเพลงนี้ไม่ได้เพียงสะท้อนถึงความหวังส่วนตัวของผู้ร้อง แต่เป็นการแสดงถึงความห่วงใยและความปรารถนาดีต่อโลก โดยนำเสนอข้อความที่สื่อถึงความหวังสากล ซึ่งไม่ขึ้นกับอยู่กับเชื้อชาติ ศาสนา หรือวัฒนธรรม เป็นความปรารถนาที่จะเห็นโลกสงบสุข ปราศจากความทุกข์ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และยังคงมีความหวังว่า ‘เวลา’ จะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง สะท้อนถึงคุณค่าทางจริยธรรมที่เป็นหัวใจสำคัญของมนุษยชาติ เช่น

  • สันติภาพ: “That wars would never start”
  • ความรัก: “And love would never end”
  • ความเป็นธรรม: “And right would always win”

บทเพลงนี้อาจสะท้อนถึงความหวังสุดท้ายที่เราทุกคนอยากเห็น โดยใช้เพลงคริสต์มาสเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นบทเพลงสำหรับเทศกาล แต่เป็นการเรียกร้องให้ผู้คนร่วมกันสร้างสรรค์โลกที่ดีขึ้น 

“Here’s my lifelong wish

My grown-up Christmas list

Not for myself, but for a world in need”

นี่คือคำขอในชีวิตของฉัน เป็นรายการสิ่งที่ฉันต้องการในวันคริสต์มาสที่เติบโตขึ้น
ไม่ใช่เพื่อตัวฉันเอง แต่สำหรับคนบนโลกนี้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

สามารถฟังเพลง Grown-Up Christmas List ได้ทาง

https://youtu.be/RmF2rsDHOZc

Tags: , , , , , ,