ไม่ได้มีแต่คนอเมริกันเท่านั้นที่คิดว่าประเทศของตนยิ่งใหญ่ หากยังมีคนฝรั่งเศสด้วยที่คิดแบบเดียวกันว่าประเทศของพวกเขายิ่งใหญ่หาใดเทียม เพราะอย่างน้อยฝรั่งเศสในอดีตก็นับเป็นประเทศมหาอำนาจแห่งยุโรปและของโลก โดยเฉพาะคนเก่าเฒ่าแก่ที่ยังคิดแบบนั้นอยู่

มันคือความภาคภูมิใจที่เคยหล่อหลอมให้ชาวฝรั่งเศสเกิดทัศนคติบางอย่าง เช่นว่า ทำไมพวกเขาต้องพูดภาษาอื่นใดที่ไม่ใช่ภาษาของตน โชคดีที่ทุกวันนี้ทัศนคติดังกล่าวเปลี่ยนไปแล้ว ชาวฝรั่งเศสซึ่งโดยพื้นฐานชอบความสุขสบายและมักแสวงหาช่องทางที่ตนเองต่อต้านน้อยที่สุด ส่วนใหญ่จึงตัดสินใจเลือกสแปนิชเป็นภาษาที่สองในชั้นเรียน เพราะมันง่ายที่สุดแล้วสำหรับพวกเขาที่จะเรียน

ความเป็นฝรั่งเศสที่เห็นกันเด่นชัดกว่าชาติพันธุ์อื่นคือ วัฒนธรรมการทักทายด้วยการหอมแก้ม และการทักทายด้วยการหอมแก้มก็มีกฎเกณฑ์เสียด้วย… การหอมแก้มหนึ่งครั้งเป็นการทักทายคนที่เพิ่งรู้จักกันหรือคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเท่าไรนัก แต่ปกติแล้วมักหอมแก้มกันสองครั้ง ซ้ายหนึ่งครั้งขวาหนึ่งครั้ง สำหรับคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทจะหอมแก้มกันสามครั้งเพื่อแสดงความรักต่อกัน

และความเป็นฝรั่งเศสที่ปลูกฝังกันมายาวนานคือ จิตสำนึกในเรื่องความยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวกับความต้องการของแต่ละคน และความอยุติธรรมทุกอย่างเป็นเรื่องของรัฐที่ต้องได้รับการจัดการโดยรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง อันนำมาซึ่งความปรารถนาในการแสดงออกเพื่อเรียกร้อง ตั้งแต่การบ่น ก่นด่า ไปจนถึงลงเดินถนนประท้วง

ในฝรั่งเศสมีการประท้วงกันบ่อยครั้งกว่าที่ไหนๆ ในยุโรป ชาวฝรั่งเศสประท้วงกันแทบทุกประเด็นที่ไม่พอใจ ส่วนใหญ่มักเกี่ยวกับนโยบายของภาครัฐ ไม่ว่าการขึ้นภาษี ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ค่าแรงไม่เป็นธรรม หรือล่าสุดเกี่ยวกับมาตรการกึ่งบังคับเรื่องการฉีดวัคซีน

ชาวปารีสเคยก้าวลงถนนประท้วงมาตั้งแต่ปี 1789 ในช่วงเวลานั้นพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เคยออกนโยบายช่วยเหลือคนรวยให้ได้รับการยกเว้นภาษี ก่อเหตุบานปลายกระทั่งเกิดการลุกฮือปฏิวัติ และโค่นล้มราชวงศ์ในท้ายที่สุด

เมื่อปลายปี 2018 มีประเด็นต่อต้านเรื่องภาษีเชื้อเพลิงในกรุงปารีส กลุ่มผู้ประท้วง ‘เสื้อกั๊กเหลือง’ ออกมาชุมนุมและก่อเหตุจลาจลในย่านใจกลางเมือง พังร้านค้าในย่านช็องป์-เซลีเซส์ รวมทั้งจุดไฟเผารถยนต์ ในเหตุการณ์นั้นมีใครบางคนพ่นสีสเปรย์บนผนังเขียนว่า ‘มาครง = หลุยส์ที่ 16’ เปรียบเทียบอดีตนายธนาคารอย่างเอ็มมานูแอล มาครง กับอดีตกษัตริย์ที่มีคนใกล้ชิดเป็นคนรวย

และเหตุการณ์วุ่นวายในกรุงปารีสปี 2018-2019 กลุ่มผู้ประท้วงก็ได้รับชัยชนะ เมื่อประธานาธิบดีมาครงยอมถอย เหมือนกับหลายครั้งที่ผ่านมาในอดีต จนเรียกได้ว่า ช่วงเวลาการก่อตั้งประวัติศาสตร์การเมืองของฝรั่งเศสคือการปฏิวัติ

แต่ที่ไม่ประสบความสำเร็จก็มีบ่อยครั้งเช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับสหภาพแรงงาน ประเด็นนี้ชาวเยอรมันมีคำตอบให้และชัดเจนว่า สหภาพแรงงานในฝรั่งเศสเสียงดังก็จริง แต่ไม่มีพลังจัดการ นั่นเพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีสัดส่วนแรงงานสหภาพต่ำที่สุดในกลุ่มยุโรปตะวันตก

ใครที่เรียนภาษาฝรั่งเศสจะรู้ว่า รูปประโยคมักใช้คำกริยาอย่างฟุ่มเฟือย แตกต่างจากภาษาอังกฤษหรือเยอรมัน คำตอบเรื่องนี้อยู่ที่ผู้คนและภูมิประเทศ ทางใต้ของฝรั่งเศสมีแสงแดดอุ่น ชวนให้คนออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน นั่งกินไอศกรีม ดื่มกาแฟที่ร้านริมถนน สนทนากับเพื่อนฝูงคนรู้จัก ฯลฯ

ในเรื่องการดื่ม-กิน เหนือและใต้ของฝรั่งเศสก็ยังมีความแตกต่างแยกย่อย เหตุเพราะทางใต้อยู่ใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อากาศปลอดโปร่งและอุ่นกว่า อาหารการกินก็จะเบากว่าด้วย ทางเหนือนิยมกินอาหารมีเครื่องเทศ ทางใต้นิยมกินพืชผัก ทางเหนือนิยมดื่มเบียร์และชนัปส์ ส่วนทางใต้นิยมดื่มไวน์

‘อยู่อย่างพระเจ้าในฝรั่งเศส’ เป็นวลีที่ชาวยุโรปรู้จัก มันอาจหมายถึงความไร้ทุกข์กังวลที่เกี่ยวโยงกับการปฏิวัติฝรั่งเศสในสารานุกรมโวหารของบางประเทศ แต่ความเข้าใจของคนในยุคสมัยใหม่อาจมองว่า ฝรั่งเศสดูจะเป็นชาติเดียวที่ค่อนข้างพิถีพิถันกับเรื่องของการกินการอยู่

ชาวฝรั่งเศสเริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้า ที่ประกอบด้วยครัวซองต์ ขนมปังบาแกตต์ เนย แยม และกาแฟนมในถ้วยที่คล้ายชาม เพื่อสะดวกต่อการจุ่มครัวซองต์ทาเนยลงไปได้ และบนโต๊ะอาหารเช้าจะไม่มีเนยแข็ง เบคอน หรือไข่เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน

ครัวซองต์และบาแกตต์เปรียบเทียบได้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกปีจะมีการแข่งขันคัดเลือกเชฟเบเกอรียอดฝีมือด้านนี้ และมีกฎเกณฑ์การทำเช่นเดียวกับที่ชาวเยอรมันมีกฎเกณฑ์สำหรับเบียร์

ชีสหรือเนยแข็งของฝรั่งเศสก็ต้องได้รับการจัดประเภทอย่างเข้มงวดไม่แพ้ไวน์ ในแต่ละภูมิภาคของฝรั่งเศสต่างมีชีสต้นตำรับของตนเอง ทั่วทั้งฝรั่งเศสมีชีสอยู่ราว 400 ชนิดที่ทำจากนมวัว นมแกะ และนมแพะ และชีสแต่ละชนิดถูกจัดเป็นหมวดหมู่ 4 กลุ่ม ได้แก่

Fermier: กลุ่มนี้จะแปรรูปนมในฟาร์มที่ผลิตเป็นชีสโดยตรงในฟาร์มที่ผลิต ผ่านกระบวนการผลิตด้วยมือ

Artisanal: กลุ่มนี้เป็นชีสที่ผลิตด้วยเครื่อง นอกจากใช้นมจากฟาร์มของตนเองแล้ว ยังสามารถใช้นมจากที่อื่นก็ได้

Coopérative: ชีสสหกรณ์ ใช้วัตถุดิบนมจากฟาร์มของสมาชิก

Industriel: ชีสจากโรงงาน ที่ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่จะเลือกเมื่อเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น

นอกจากนั้นยังมีชีส 45 ชนิด เนย 3 ชนิด และครีม 2 ชนิดที่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนพื้นที่สงวน (เช่น ชีสกาม็องแบร์ จะต้องเป็นชีสที่ผลิตในเมืองกาม็องแบร์ของแคว้นนอร์มังดีเท่านั้น) ชวนให้ดูวุ่นวายและหลายสิ่งอย่าง

ครั้งหนึ่งชาร์ลส์ เดอ โกลย์ (Charles de Gaulle) อดีตประธานาธิบดีของฝรั่งเศสยังเคยกล่าวติดตลกว่า

“ผมจะปกครองประเทศที่มีชีสมากกว่าจำนวนวันในหนึ่งปีได้อย่างไร”

เสรีภาพที่ชาวฝรั่งเศสมีมากมาย นอกจากบางครั้งจะล้ำเส้นกฎหมายแล้ว บางคราวยังเลยขอบเขตของศีลธรรมด้วย คีย์เวิร์ดอย่าง ‘Cinq à septs’ หรือ ‘หนึ่งทุ่มห้านาที’ ในฝรั่งเศสหมายถึงการนัดหมายหลังเวลาเลิกงาน ก่อนกลับบ้านไปเจอลูกเมีย/ผัวนั้นเป็นเรื่องปกติ และถ้าช่วงเวลานั้นถูกใช้ไปกับพฤติกรรมนอกใจของเมีย/ผัว ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของชาวฝรั่งเศสเช่นกัน

ผลสำรวจของสถาบันวิจัยความเห็น Ifop ในฝรั่งเศสพบว่า ผู้ชายฝรั่งเศสมากกว่า 2 ใน 5 คน (55 เปอร์เซ็นต์) และผู้หญิงฝรั่งเศสราว 1 ใน 3 (32 เปอร์เซ็นต์) มีพฤติกรรมนอกใจคู่สมรสของตน

ส่วนพฤติกรรมการทำงานของชาวฝรั่งเศส ชาวเยอรมันเคยนำไปเปรียบเทียบความแตกต่างกับตนเองว่า คนฝรั่งเศสสามารถทำงานล่วงเวลาได้ถึงสองทุ่ม ในขณะที่คนเยอรมันเก็บของกลับบ้านระหว่างหกโมงครึ่งถึงหนึ่งทุ่ม ตอนเช้าคนฝรั่งเศสเข้างานเก้าโมง แวะทักทายเพื่อนร่วมงาน พูดคุยถึงเรื่องต่างๆ เมื่อคืน แล้วร่วมวงกินอาหารเช้า แต่คนเยอรมันมาถึงที่ทำงาน ถอดเสื้อคลุมออก แล้วเริ่มทำงานเลย

ตอนพักเที่ยงคนฝรั่งเศสใช้เวลากินมื้อเที่ยงนานหน่อย เพราะต้องเมาธ์มอยหรือแลกเปลี่ยนข่าวสาร กลับเข้าทำงานอีกครั้งก็บ่ายโมง ส่วนคนเยอรมันใช้เวลาพักเที่ยงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้พิสูจน์กันเรื่องผลงาน

และที่แตกต่างอย่างสุดขั้วระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมันก็คือ ในทุกสิ่งอย่างที่ทำ ฝรั่งเศสใช้ฟังก์ชันของหัวใจ แต่เยอรมันใช้ฟังก์ชันของสมอง

อ้างอิง:

https://www.bpb.de/internationales/europa/frankreich/153265/streiken

https://taz.de/Tradition-des-Widerstands-in-Frankreich/!5557622/

https://www.boeser-wolf.schule.de/frankreich/frankreich-deutschland/reportage/unterschiede.html

https://www.deutschlandfunkkultur.de/mentalitaeten-in-der-corona-krise-franzoesische-rage-oder.1005.de.html?dram:article_id=494974

https://blog.sonnenklar.tv/typisch-franzoesisch/

https://www.tt.com/artikel/11671571/klischee-check-die-sieben-groessten-vorurteile-ueber-franzosen

Fact Box

ฝรั่งเศสมีพื้นที่ประเทศ 632,733.9 ตารางกิโลเมตร จากการสำรวจเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2021 มีประชากรราว 67,422,000 คน เฉลี่ย 106 คนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร นับตั้งแต่ปี 1981 กฎหมายแรงงานของฝรั่งเศสจำกัดชั่วโมงทำงานที่ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สำหรับพนักงานเต็มเวลา แต่จากการสำรวจในปี 2007 พบว่าเวลาทำงานจริงอยู่ที่ 41 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำให้เห็นแนวโน้มชัดเจนว่ามีการทำงานล่วงเวลาเพิ่มขึ้น และการสไตรก์ก็เป็นส่วนหนึ่งของประเพณี สิทธิในการนัดหยุดงานเพื่อประท้วงได้รับการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของแต่ละบุคคล แตกต่างกับการประท้วงทางการเมืองที่ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

Tags: , , , ,