เขาใช้โพรงดินมืดๆ เป็นที่พักพิง ใช้เปลือกไม้เป็นเครื่องนุ่งห่ม – ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โชอิชิ โยโกอิ (Shoichi Yokoi) หนีภารกิจทหารเข้าไปหลบอยู่ในป่าลึกของเกาะกวม เกือบ 3 ทศวรรษให้หลังมีคนไปพบนายทหารผู้นี้เข้า และชาวญี่ปุ่นยกย่องเขาเป็นวีรบุรุษ แต่ตัวเขาเองนั้นกลับรู้สึกละอายใจที่รอดชีวิตมาได้ สภาพของชายนักรบผู้รอดชีวิตจากสงครามดูแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เนื้อตัวมอมแมม ผมเผ้ากระเซิง หนวดเครารุงรัง ราวกับหลุดพ้นออกมาจากขุมนรก ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ในดงป่าบนเกาะกวม โยโกอิต้องกินหอยทาก กบ นก และหนูเป็นอาหาร ซึ่งเขาต้องออกไปล่าตอนย่ำรุ่ง ช่วงกลางวันเขามุดตัวอยู่ในโพรงดินเล็กๆ ขนาด 2 x 4 เมตร ที่เขาใช้เวลาขุดนานนับเดือน และเพื่อไม่ให้บ้าคลั่ง เขาต้องฮัมเพลงกล่อมตัวเองเป็นบางเวลา โยโกอิไม่เคยพบเห็นหน้ามนุษย์มานานมากแล้ว เพื่อนๆ และครอบครัวของเขาเชื่อว่าเขาเสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่ปี 1944 แต่แล้วในวันที่ 24 มกราคม 1972 จู่ก็มีสัญญาณการมีชีวิตอยู่ของคนที่ใครๆ เชื่อว่าตายแล้ว เมื่อปรากฏข่าวที่เกาะกวมว่า มีชาวประมงสองคนไปพบเจอโชอิชิ โยโกอิ และพาตัวเขาออกจากป่า “恥ずかしながら生きながらえて、帰ってきました。- ผมรู้สึกละอายใจอย่างมากที่รอดชีวิตกลับมาได้” เป็นประโยคคำกล่าวที่ทำให้โยโกอิมีชื่อเสียง และกลายเป็นที่ชื่นชมของชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ […]