หากพูดถึงบุคคลแห่งการเปลี่ยนแปลงในปี 2025 ชื่อของ ไบรอัน ตัน คงเป็นหนึ่งในชื่อที่หลายคนนึกถึง ทั้งในบทบาทช่างแต่งหน้า บิวตี้บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ก่อตั้ง Miss Fabulous Thailand เวทีประกวดนางงามที่ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นควีนได้ ทั้งยังเป็นผู้จัดรายการ The Billionaire รายการเรียลลิตีรวมดาวที่ตอนนี้ดำเนินไปถึง 3 ซีซัน ทำเอาผู้ชมต่างป่วนประสาท ไม่รู้ว่าอันไหนเรื่องจริง อันไหนการแสดง
แต่เมื่อไม่นานมานี้ไบรอัน ตัน เปลี่ยนชื่อเป็น ‘ไบรโอนี่’ ให้เข้ากับลุคใหม่ที่สวยหวานขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นทรงผมใหม่ จริตจะก้านใหม่ในแบบของเธอเอง อาจถือได้ว่า ปี 2025 นี้เป็นการเปิดศักราชใหม่ของไบรโอนี่
สำหรับไบรโอนี่แล้ว ปีนี้เป็นปีที่เธอกล้าเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ กล้าออกไปใช้ชีวิตตอนกลางคืน กล้าทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน และได้เป็นตัวเองในแบบฉบับใหม่ที่ตนชอบ
ส่งท้ายปีนี้ The Momentum จึงชวนไบรโอนี่มานั่งคุยกันถึงชีวิตตัวเองในปี 2025 รีแคปช่วงเวลาที่อาจถือได้ว่าเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของชีวิตของเธอ
2025 จากไบรอัน ตัน สู่ไบรโอนี่
หากใครได้ติดตาม Instagram ของไบรอัน ตันคงจะพอเห็นสิ่งที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง เพราะปีนี้เป็นปีที่ไบรอันตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ ตั้งแต่ไปต่อผมสีบลอนด์สลวย ไปจนถึงเสริมหน้าอกเพิ่มความปัง
“ปีนี้เป็นปีที่เหมือนขึ้นรถไฟเหาะเลย เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมาก ภายใน 1 ปีเราสามารถทรานส์เป็นผู้หญิงได้ แล้วก็รู้สึกว่าคนติดตามสตอรีชีวิตเรา เขาเห็นตั้งแต่เราเป็นทุกข์ ตั้งแต่เรามีความสุขกับครอบครัว จนกระทั่งเรามีชีวิตใหม่เขาก็เห็น”
การก้าวข้ามความกลัวและเริ่มต้นสิ่งใหม่
ไบรโอนี่ในวัย 35 ปี เป็นผู้หญิงที่เริ่มรู้จักตนเองมากขึ้น ทว่าก็มีบางสิ่งที่ยังไม่ถนัด และยังต้องเรียนรู้อะไรอีกหลายอย่าง อย่างที่เรามักเรียกติดปากกันว่า ‘ผู้หญิงฝึกหัด’
“การทำหน้าอก เป็นสิ่งที่เราไม่รู้เลย เราต้องถามคนเยอะมาก บางคนก็บอกว่า หนูแก้มา 3 ครั้งแล้ว ว้าย ตายแล้ว นมเขาแก้กันบ่อยเหมือนกันเนอะ เราไม่รู้ว่าการทำหน้าอกคนมีปัญหากันเยอะมาก เลยทำให้เรารู้สึกว่า เราต้องเลือกหมอที่ดีนะ”
‘ความกลัว’ เป็นสิ่งที่คอยตามติดเมื่อเรากำลังตัดสินใจลงมือทำอะไรสักอย่าง เฉกเช่นเดียวกับไบรโอนี่ก็หนีไม่พ้นความกลัวลึกๆ ภายในใจ กลัวว่าเมื่อเปลี่ยนหน้ากระดาษไปแล้วจะไม่เป็นไปตามแบบที่ตนหวังไว้ แต่ภายใต้ความกลัวนั้นกลับเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นว่า จะเป็นตัวเองในแบบฉบับที่ดีขึ้น
“แต่เราไม่กลัวเรื่องการเปลี่ยนแปลงเลยนะ เรารู้สึกว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงของเราจะต้องดีขึ้น เพราะถ้ามันไม่ดีขึ้นเราไม่ทำ พอรู้สึกว่าเปลี่ยนแล้วมันดีขึ้น เราก็อยากจะเปลี่ยนเร็วๆ เพราะเราก็อายุไม่น้อยแล้ว ต้องรีบสวย จะมาสวยตอนแก่เกินก็ไม่ได้”
โชคดีที่ไบรโอนี่มีกัลยาณมิตรที่คอยให้คำแนะนำ ทั้งกิริยาท่าทาง การวางตัวและการแต่งกาย เพื่อนรอบตัวต่างคอยแนะนำไบรโอนี่ในฐานะผู้หญิงฝึกหัด ให้เรียนรู้การวางตัวในเวอร์ชันใหม่
“คนเป็นเมนเทอร์ให้ไบรโอนี่เยอะมาก ทั้งเรื่องผม เรื่องชุด รองเท้า เรื่องผู้หญิงเราถามหมดเลย เรารู้สึกว่าเราต้องการเป็นเวอร์ชันที่ดี”
แสดงว่าคนรอบข้างมีส่วนสำคัญมาก?
“ใช่ค่ะ”
ไบรโอนี่ย้อนไปถึงการทำหน้าอก ก่อนจะตัดสินใจทำ ต้องปรึกษาคนรอบตัวเยอะมาก เนื่องจากการทำหน้าอกถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อความงามแล้ว สุขภาพและความปลอดภัยก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง การพูดคุยกับคนรอบตัวก็ทำให้ไบรโอนี่เบาใจไปได้เปราะหนึ่ง อย่างไรก็ดีไบรโอนี่เสริมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเป็นไปด้วยความปลอดภัย
“เราต้องปรึกษาคนรอบข้าง แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราต้องเชื่อคือคุณหมอ ถ้าเวลาเราจะทำอะไรสักอย่างแล้วให้ผู้เชี่ยวชาญทำ ความกลัวก็น้อยลง”
แม้ว่าเธอจะดูก๋ากั่น เดินสับๆ ไปตามทางที่ตัวเองเลือก แต่ไบรโอนี่ก็มีสิ่งที่ยังต้องคุยกับตัวเองอยู่เหมือนกัน เราถามไบรโอนี่ถึงสิ่งที่อยากทำในชีวิต แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เธอตอบออกมาทันทีโดยไม่ลังเล
“การเปลี่ยนเพศ
“คาดว่าปีหน้าอยากจะใช้คำว่า ‘การเปลี่ยนเพศ’ มันไม่ใช่ ‘การแปลงเพศ’ เราจะติดคำว่าแปลงเพศ
“แต่ตอนนี้ก็ยังต้องคุยกับตัวเองเยอะๆ กับความรู้สึก ไลฟ์สไตล์ ให้ชัวร์ 100% ตอนนี้เริ่มเทกฮอร์โมนมาได้ 2 สัปดาห์แล้ว มันเปลี่ยนจริงๆ นะ อะไรหลายอย่างเริ่มซอฟต์ลง
“ก่อนหน้านี้พี่ไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอถามว่า เคยเทกฮอร์โมนหรือยัง และย้ำให้กลับไปตัดสินใจให้แน่ก่อน หมอสามารถผ่าให้ได้เลยพรุ่งนี้ แต่ถ้าผ่าแล้วมันเปลี่ยนกลับไม่ได้นะ ดังนั้นเราต้องมั่นใจ 100% มิเช่นนั้นมันจะมีความรู้สึกเสียดาย ซึ่งมันเอากลับมาไม่ได้”
การตัดสินใจบางอย่างอาจต้องใช้ความกล้าทั้งหมดในชีวิต แต่บางทีอาจเปิดประตูให้เราไปเจอกับสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตที่ดีกว่าเดิม
“อยากจะให้กำลังใจกับคนที่อาจรู้สึกว่าตัวเองไม่มั่นใจ มันก็ไม่ง่ายนะในการที่จะดูมั่นใจในตัวเองตลอดเวลา แต่เราต้องตัดสินใจ ถ้าเรามัวแต่ไม่มั่นใจอยู่ เราจะไม่ได้ทำอะไรเลย”
2025 ปีแห่งการเรียนรู้
ไบรโอนี่เปรียบตัวเองในอดีตเหมือนกับนกน้อยที่ยอมขังตัวเองไว้ในกรงทอง ไม่ออกไปเจอโลกกว้าง แต่ในปีนี้เธอตัดสินใจออกไปเจอสังคมกลางคืน ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้ไบรโอนี่ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง
“ในปีนี้ก็ได้เจอสังคมเยอะมาก จากการไม่อยู่ห้องตอนกลางคืน ขอไม่ใช้คำว่าเที่ยวแล้วกัน เราอยู่ห้องก็ไม่มีใคร เราออกไปใช้ชีวิต ไปดูผู้คน บางครั้งก็ได้ฝึกภาษา สำเนียงฝรั่งก็ฟังออกมากขึ้น”
แสดงว่าก่อนหน้านี้ไม่เที่ยวกลางคืน?
“ก่อนหน้านี้คือนกน้อยในกรงทอง เป็นนกที่ยอมโดนขังด้วยนะ เราขังตัวเอง ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่รู้ว่าสังคมกลางคืนมันมีถึงขั้นไหน จริงๆ สังคมกลางคืนมีอะไรเยอะมาก ซึ่งเราต้องระวังตัวสุดๆ มันก็มีทั้งฝั่งดีกับฝั่งที่อาจจะไม่ดีเท่าไร”
การตัดสินใจผลักประตูกรงสีทองออกมาทำให้ไบรโอนี่รู้ว่า โลกที่เธอไม่เคยคุ้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
“มีช่วงที่เราไปสุขุมวิท 11 อยากจะบอกว่า สุขุมวิท 11 ไม่ได้เป็นซอยที่ประสบการณ์ไม่ดีขนาดนั้น ซึ่งมันว้าวมากตอนที่เราได้เจอ ‘โห มีแบบนี้ด้วยเหรอ’ เพื่อนของเพื่อนก็แนะนำให้รู้จักคนใหม่ๆ ดีเจระดับโลก เจ้าของบริษัทแชมเปญ ซึ่งเราใช้ชีวิตเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งเลย
“เมื่อก่อนเราไม่กล้าออกไปเที่ยวข้างนอกตอนกลางคืนในเมืองไทย แต่เหมือนมาลงล็อกกับไลฟ์สไตล์กลางคืนที่สุขุมวิท 11 เพราะมีสังคมที่เหมือนใน Netflix เลย ถ้ามีกล้องก็คือทำซีรีส์ได้ยาวมากเลย บางคนแบบ โอ้โห เต็มที่กันมาก สมมติเราใส่ชุดนี้ไปนั่งดื่มคือเรื่องปกติ เราเลยรู้สึกว่าสนุกมากเลยที่นั่น ทุกคนก็จัดใหญ่จัดเต็มเหมือนกัน
“การไปกลางคืนมันได้เรียนรู้คน จะมีสักกี่ครั้งที่เราได้นั่งคุยกับแฟนคลับที่ไม่รู้จัก บางคนตัดสินใจรวบรวมความกล้าเข้ามาทักเรา บางคนร้องไห้ก็มี นึกออกใช่ไหม แต่มันยังมีความรู้สึกว่า มันยังเป็นเซฟโซนสำหรับเรา เราสามารถจะทำอะไรก็ได้ แต่เราไม่ได้ทำอะไรแย่อยู่แล้วเพราะเราเป็นคนน่ารัก (หัวเราะ)”
สิ่งที่ได้ไปต่อในปี 2026 – ‘Love’
ก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้ เราถามคำถามเล็กๆ ที่เก็บความสงสัยไว้ตั้งแต่เริ่มสัมภาษณ์ ‘สเปกยังเหมือนเดิมไหม’ เธอหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะตอบคำถาม
“เหมือนเดิม ถึงจะยากหน่อย แต่คิดว่าน่าจะมีสักวันหนึ่ง ขอสักคนหนึ่งได้ไหมในโลกใบนี้ แค่คนเดียวเอง สเปกเรามีหลายข้ออยู่ แต่เดี๋ยวเอาออกบางข้อได้ ขอให้เป็นคนที่รักเรา
“ก็ยังเป็นคนที่เชื่อในความรักมาโดยตลอด เพราะเรารู้สึกว่า ชีวิตไดรฟ์ด้วยความรัก ไม่มีความรักอยู่ไม่ได้”
