“If you are born with egg-producing equipment, even if faulty, it’s proof you are a woman.”
(ถ้าคุณเกิดมาพร้อมอวัยวะที่ ‘ผลิตไข่’ แม้มันจะบกพร่อง ก็พิสูจน์ได้ว่าคุณคือผู้หญิง)
เพียงประโยคเดียวจาก เจ. เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling) ผู้เขียน Harry Potter ก็ทำให้โลกออนไลน์ลุกเป็นไฟในไม่กี่ชั่วโมง และเกิดเป็นชนวนให้เกิดเสียงวิจารณ์ไปทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ภาษาที่เธอใช้ในการจำกัดคำนิยามความเป็นผู้หญิงว่าเป็นเพียงเครื่องมือสืบพันธุ์ (Objectifying) และยังกีดกันผู้ที่มีข้อจำกัดทางร่างกายให้รู้สึกด้อยค่า (Ableist)
คำว่า Egg-producing Equipment และ Even if faulty ไม่เพียงแต่ลดทอนผู้หญิงให้เหลือเพียงชิ้นส่วนทางชีววิทยาและตีตราผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยากว่า ‘บกพร่อง’ ราวกับเป็นเครื่องจักรที่เสีย แต่ยังกีดกันคนบางกลุ่มออกจากความเป็น ‘ผู้หญิง’
ถ้าความเป็นผู้หญิงวัดกันที่ ‘เครื่องผลิตไข่’ แล้วผู้หญิงที่มีบุตรยาก คนข้ามเพศ หรือแม้แต่ผู้หญิงที่เลือกไม่อยากมีลูกจะถูกตัดสิทธิความเป็นผู้หญิงไปด้วยหรือไม่
ความคิดแบบ Essentialism เมื่อเพศถูกล็อกด้วยชีววิทยา
Essentialism คือแนวคิดที่มองว่าเพศเป็นสิ่งตายตัวที่ถูกกำหนดโดยธรรมชาติและชีววิทยา ภายใต้กรอบนี้ ‘ผู้หญิง’ หมายถึงผู้ที่เกิดมาพร้อมอวัยวะสืบพันธุ์แบบหญิงและสามารถให้กำเนิดลูกได้ การมีมดลูกหรือรังไข่จึงถูกมองเป็น ‘ตัววัด’ ความเป็นผู้หญิง
กรณีของโรว์ลิง คือภาพร่วมสมัยที่ชัดเจนของความคิดนี้ เธอไม่ได้แค่พูดถึง ‘อวัยวะผลิตไข่’ แต่ยังสื่อว่า ความเป็นผู้หญิงผูกติดกับการมีอวัยวะเหล่านี้อยู่ในร่างกาย
ในประเทศไทย แนวคิดนี้ฝังแน่นในวัฒนธรรมและภาษาพูด หลายคนยังเชื่อว่า ผู้หญิงเกิดมาก็ต้องแต่งงาน มีลูก หรือแม้แต่ในงานพิธีมงคลสมรส เรามักได้ยินคำอวยพรให้มีลูกไวๆ ส่วนผู้หญิงที่ไม่มีลูกก็มักถูกมองว่า ‘ขาดอะไรบางอย่าง’
เมื่อชีววิทยากลายเป็นเกณฑ์วัดเพียงอย่างเดียว ความคิดนี้จึงกำลังกีดกันคนจำนวนมากออกจากความเป็น ‘ผู้หญิง’ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีบุตรยาก คนข้ามเพศ หรือแม้แต่ผู้หญิงที่เลือกจะไม่มีลูกตั้งแต่แรก
การตีตราผู้หญิงที่มีบุตรยากหรือไม่มีลูก
คำว่า Even if faulty ใน X ของโรว์ลิง คือภาพชัดของการใช้ภาษาที่ตีตรา (Stigmatizing Language) การบอกว่าอวัยวะสืบพันธุ์ ‘บกพร่อง’ สื่อเป็นนัยว่าผู้หญิงคนนั้น ‘ไม่สมบูรณ์’ และลดคุณค่าของผู้หญิงให้เหลือเพียงความสามารถในการสืบพันธุ์
ในสังคมไทย คำพูดลักษณะนี้ไม่ได้อยู่แค่บนโลกออนไลน์ เรามักได้ยินคำว่า ‘กรรมของคนไม่มีลูก’ อยู่บ่อยครั้ง คำเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยาก หรือแม้แต่ผู้หญิงที่เลือกจะไม่มีลูก ถูกมองว่า ‘ขาด’ หรือ ‘ผิดปกติ’ หลายคนต้องเผชิญคำถามซ้ำๆ จากญาติหรือคนรู้จักในทุกเทศกาลว่า “เมื่อไรจะมีลูก” ทั้งที่ความเป็นมนุษย์และคุณค่าของคนไม่ควรถูกวัดจากการมีลูก
เพศแม่สมัยใหม่
จะเห็นได้ว่าโลกสมัยใหม่เต็มไปด้วยรูปแบบครอบครัวและ ‘ความเป็นแม่’ ที่หลากหลาย ทั้งแม่ข้ามเพศที่เลี้ยงลูกด้วยความรักไม่แพ้ใคร พ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ ครอบครัวอุปถัมภ์ที่มอบความอบอุ่นให้เด็กโดยไม่ต้องมีสายเลือด
อย่างกรณี อาริยา มิลินธนาภา หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘แม่จิน’ เป็นผู้หญิงข้ามเพศที่ได้อุปการะลูกชาย 2 คนตั้งแต่อายุยังน้อย โดยไม่ยึดติดกับกรอบความเป็นแม่แบบดั้งเดิม เธอยืนยันว่า เพศสภาพไม่ได้ใช้ในการเลี้ยงลูก แม่ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิง
แม้จะเป็นผู้หญิงข้ามเพศ แต่จินก็เคยให้นมลูกด้วยตัวเอง เพราะไม่ว่าชายหรือหญิงก็มีต่อมน้ำนม เธอเชื่อว่า “ในความเป็นแม่ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิง” และต้องการให้ลูกๆ เติบโตขึ้นโดยไม่รู้สึกติดค้างหรือมีภาระต่อเธอ
ในมุมของสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ (Reproductive Rights) การมีลูกควรเป็น ‘สิทธิ’ ไม่ใช่ ‘หน้าที่’ ซึ่งไม่มีใครควรถูกคาดหวังหรือกดดันให้มีลูกเพียง เพื่อจะถูกมองว่ามีคุณค่าในฐานะผู้หญิงหรือในฐานะแม่
เพศและสิทธิที่มากกว่าชีววิทยา
เมื่อพูดถึงเพศและความเป็นแม่ในโลกยุคใหม่ เราไม่ควรมองแค่ที่ร่างกายหรืออวัยวะทางชีววิทยาเท่านั้น เพราะเพศคือเรื่องของอัตลักษณ์ สิทธิ และความเท่าเทียม
ส่วนความเป็นแม่ไม่ได้หมายถึงแค่การให้กำเนิด แต่คือความรัก ความรับผิดชอบ และการดูแลอย่างไม่มีเงื่อนไข
การกำหนดความหมายของผู้หญิงหรือแม่แค่จากชีววิทยา ไม่เพียงแต่จำกัดสิทธิของแต่ละคน แต่ยังสร้างกำแพงกีดกันความหลากหลายทางเพศ และลดทอนสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน เช่น สิทธิในการควบคุมร่างกายตัวเอง สิทธิในการมีครอบครัว และสิทธิในการได้รับความเคารพจากสังคม
เพราะที่สุดแล้ว ความเป็นมนุษย์และคุณค่าของแต่ละคนไม่ควรถูกจำกัดด้วยกรอบใดๆ ไม่ว่าจะเป็นชีววิทยา ประเพณี หรือความคาดหวังของสังคม
อ้างอิง:
https://www.bbc.com/worklife/article/20210330-the-harmful-ableist-language-you-unknowingly-use
https://www.morethanabody.org/objectification-leggings-blame/
https://thepotential.org/family/ariya/
https://www.the101.world/why-we-should-have-children/
https://www.verywellmind.com/what-is-gender-essentialism-theory-5203465
https://x.com/jk_rowling/status/1953532438950347137?s=46
Tags: ความเป็นแม่, Harry Potter, เพศหญิง, ลูก, K. Rowling, เครื่องผลิตลูก