สัญญาใจ ความเชื่อมั่น และความรัก อนาคตของ ‘EXO’ ราชาแห่ง K-POP หลังสมาชิกยื่นฟ้อง SM ถึงความอยุติธรรม

วันนี้ (1 มิถุนายน 2566) เวลา 08.00 น. ตามเวลาประเทศไทย สื่อข่าวเกาหลีหลายสำนักรายงานตรงกันถึงสถานการณ์ของ แบคฮยอน (Baekhyun) เฉิน (Chen) และซิ่วหมิน (Xiumin) หรือสมาชิกยูนิตสามจิ๋ว EXO-CBX แห่งวง EXO ที่ยื่นฟ้องยุติ ‘สัญญาที่ไม่เป็นธรรม’ ต่อค่ายต้นสังกัด SM Entertainment

ลี แจฮัก (Lee-Jae Hak) ทนายความจากสำนักงานกฎหมายลิน (Lin Law Firm) ตัวแทนดำเนินการทางกฎหมายของ 3 เมมเบอร์เอ็กโซ เปิดเผยรายละเอียดเบื้องต้นถึงสาเหตุการยื่นฟ้องค่ายต้นสังกัดดังต่อไปนี้

ประการแรก ศิลปินไม่ได้รับความโปร่งใสในการจ่ายค่าจ้าง โดยส่งคำร้องยื่นไปยังต้นสังกัดถึง 7 ครั้ง ผ่านตัวแทนทางกฎหมายเกี่ยวกับรายละเอียด ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด

“ศิลปินมีสิทธิอย่างชอบธรรมในการร้องขอรายละเอียดค่าจ้างเพื่อความแม่นยำและโปร่งใสสำหรับอดีตที่ผ่านมา และ SM ก็ต้องทำตามคำร้องดังกล่าวทำตามสัญญาลับและกฎหมายคุ้มครองศิลปิน (Popular Culture and Arts Industry Development Act)” ข้อความบางส่วนในแถลงการณ์

ประการที่สอง ต้นสังกัดพยายามบังคับให้ทั้ง 3 คน ต่อสัญญาอย่างต่ำ 17-18 ปี ซึ่งในอดีต SM เคยให้ศิลปินหลายคนเซ็นสัญญาระยะยาวมากกว่า 12-13 ปี โดยค่ายมองว่าเป็นระยะเวลาที่ไม่เพียงพอ และต้องการยืดอายุสัญญาข้างต้น

“SM ยังคงดำเนินพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง (…) สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง 3 ศิลปินรู้สึกว่า ค่ายกำลังบีบบังคับให้เซ็น ‘สัญญาทาส’ โดยใช้อำนาจที่สั่งสมมาตลอดเวลา 20 ปี ซึ่งรวมไปถึงตอนที่ยังไม่ได้เป็นเทรนนีอีกด้วย

“ศิลปินจึงอยากบอกถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับพวกเขา ที่ไม่สามารถพูดได้มาตลอด เพราะมีบทบาทและหน้าที่ค้ำคอ” ทนายความเปิดเผย โดยกล่าวว่า ไม่ได้มีแค่แบคฮยอน เฉิน และซิ่วหมินเท่านั้นที่ตกอยู่ในสัญญาไม่เป็นธรรมดังกล่าว แต่ยังรวมไปถึงศิลปินคนอื่นๆ ในค่าย SM อีกด้วย

จากข้อความขอโทษของ ‘แบคฮยอน เฉิน ซิ่วหมิน’ สู่การให้กำลังใจจาก ‘เอ็กโซแอล’ (EXO-L) ต่อเมมเบอร์

“เราขอโทษที่ทำให้แฟนๆ ทุกคนกังวลอย่างมากต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ และพวกเราขอโทษอย่างสุดซึ้งอีกครั้ง

“เนื่องจากความแตกต่างทางสถานะระหว่างพวกเรากับ SM พวกเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้สิทธิ์การฟ้องร้องทางกฎหมาย แต่เราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อยุติข้อพิพาทครั้งนี้ ด้วยการหาทางออกที่ชาญฉลาดที่สุด ดังนั้น แฟนๆ ไม่ต้องกังวลนะ

“พวกเราอยากจะพูดถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นที่ไม่สามารถพูดได้ในอดีตที่ผ่านมา เพราะความกลัวในเวลานั้น

“เราหวังอย่างยิ่งว่า คุณ (เอ็กโซแอล) จะคอยให้ความสนใจและเอาใจช่วยพวกเรา และขอบคุณอีกครั้งที่แฟนๆ สนับสนุนพวกเรามาอย่างยาวนาน”

ข้อความของ 3 เมมเบอร์เอ็กโซถูกส่งต่อไปยังแถลงการณ์ถึง เอ็กโซแอล หรือเอลี่ รวมถึงเป็นที่รู้จักกันในภาษาไทย คือ ‘แอ๋ว’

ในขณะเดียวกัน กลุ่มแฟนคลับในโลกออนไลน์ก็ออกโรงสนับสนุนการฟ้องร้องของสมาชิกอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นบ้านแฟนเบสของแบคฮยอน ‘แบคฮยอนทาวน์’ (BaekhyunTown) หรือกลุ่มเอ็กโซแอลก็ตาม

“เหมือนกับที่แบคฮยอนแข็งแกร่งและยืนหยัดอยู่เสมอ พวกเรา แบคฮยอนทาวน์ และแฟนๆ ของแบคฮยอนจะเป็นกำลังใจให้แบคฮยอน ดังที่พวกเราเคยอยู่ด้วยกันตั้งแต่ปี 2012 พวกเราจะสนับสนุนคุณต่อไปในอนาคต อย่าลืมว่าพวกเรายังรักและสนับสนุนคุณอยู่” ข้อความทวีตให้กำลังใจของแบคฮยอนทาวน์

“ฉันยังเชื่อในเอ็กโซและสนับสนุนสิ่งที่แบคฮยอน ซิ่วหมิน และเฉินทำ มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เขาไม่โอเคกับความไม่เป็นธรรม เขาจึงทำในสิ่งที่เขาต้องทำ ฉันรู้ว่าสมาชิกทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเขาและอาชีพการงานในอนาคต” เอ็กโซแอลต่างชาติแอ็กเคานต์ @oshcuddles ทวีตข้อความ

“พวกคุณรู้ไหมว่า EXO-CBX ต้องกล้าหาญขนาดไหน ซิ่วหมินกำลังจะมีละครใหม่ แบคฮยอนกำลังจะมีเวิลด์ทัวร์ เฉินกำลังจะมีอัลบั้มญี่ปุ่น และทัวร์คอนเสิร์ตในญี่ปุ่น” แอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ @xiumeooow เผยให้เห็นว่า การฟ้องร้องของ 3 เมมเบอร์เอ็กโซอาจจะทำให้หน้าที่การงานที่กำลังไปได้สวย ต้องติดชะงักลง แต่พวกเขายังเลือกที่จะทำ

นอกจากนั้น ยังมีแท็กให้กำลังใจสมาชิกมากมาย เช่น #난_엑소말만_믿어 (ฉันเชื่อในเอ็กโซเท่านั้น) #위아원_엑소_사랑하자 (พวกเราคือหนึ่งเดียว เอ็กโซ มารักกันเถอะ (สโลแกนของวง)) #우린_계속_이자리에 (เราจะอยู่ตรงนี้ (กับเอ็กโซ) ต่อไป)

ปฏิกิริยาของเอสเอ็มต่อกระแสข่าวในครั้งนี้

ไม่นานนัก เวลา 11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ค่ายต้นสังกัด SM ออกมาแถลงการณ์ถึงการฟ้องร้องของ 3 เมมเบอร์เอ็กโซดังนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีกระแสว่า ‘Big Planet Made’ ค่ายของ MC Mong เป็นตัวการสนับสนุนให้สมาชิกเอ็กโซยื่นฟ้องร้องในครั้งนี้ แต่ทาง MC Mong ออกมาปฏิเสธ และกล่าวว่า การพบกันของพวกเขาเกี่ยวข้องในฐานะเพื่อนเท่านั้น

“เราพบแล้วว่า กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังคือใครที่เข้าหาศิลปินและกระจายเฟคนิวส์ โดยบอกกับศิลปินของเราว่า ‘มันดีแล้วที่จะยกเลิกสัญญากับเราและเซ็นสัญญากับพวกเขา’ ในขณะที่ SM กำลังมุ่งมั่นพัฒนาค่ายของเราไปข้างหน้า

“พวกเขาจงใจกระทำผิดต่อกฎหมายด้วยการกระจายข้อมูลเท็จ และข่าวลือที่มุ่งใส่ร้ายเพื่อล่อลวงศิลปินของพวกเราให้ยุติสัญญา และเซ็นสัญญากับพวกเขา

“การกระทำนี้ได้รับการชักจูงจาก ‘แรงสนับสนุนภายนอก’ ที่ผิดกฎหมาย และสร้างความบาดหมางระหว่างศิลปินกับพวกเรา และอาจทำให้การมีอยู่ของวงสั่นคลอน

“เป้าหมายของเราคือการปกป้องเอ็กโซ และเอ็กโซแอล ผู้มีความรักอย่างไม่สิ้นสุดและสนับสนุนศิลปินของพวกเขา

“เราจะไม่นิ่งดูดายและจับจ้องไปถึงแรงสนับสนุนภายนอก ที่ไม่ได้สนใจอนาคตของศิลปิน รวมถึงประเด็นทางกฎหมาย พวกเขาขับเคลื่อนด้วยแรงจูงใจด้วยความโลภและเงิน” หนึ่งในแถลงการณ์ของค่าย ซึ่งตามรายงานของ Daily Sports กล่าวว่า SM ได้ตรวจสอบว่าค่าย Big Planet Made เข้าหาสมาชิก EXO และชักจูงให้เซ็นสัญญากับพวกเขา

นอกจากนั้น SM ยังเปิดเผยว่า สมาชิกเอ็กโซทั้ง 7 คน ต่อสัญญากับพวกเขาในเดือนธันวาคม 2022 และมีการเจรจาถึง 8 ครั้งด้วยกัน โดยการต่อสัญญาแต่ละครั้งมักแตกต่างกันไป เพราะสมาชิกแต่ละคนมีช่วงเวลาในการเข้ากรมที่แตกต่างกัน

บทวิเคราะห์: การฟ้องร้องครั้งนี้จะนำมาสู่สถานการณ์ในอนาคตของ EXO อย่างไร?

แม้สื่อเกาหลีบางส่วนรายงานว่า การฟ้องร้องครั้งนี้อาจนำมาสู่ผลกระทบต่อการคัมแบ็กของวงที่กำลังจะถึง อ้างอิงจากการสปอยล์ของเหล่าศิลปินในวง ไม่ว่าจะเป็นข้อความจากสมาชิกถึงเอ็กโซแอลในแอปพลิเคชัน Lysn คำพูดของสมาชิกในงานแฟนมีต 11 ปี ในเดือนเมษายน หรือแม้แต่การอัปเดตของสมาชิกบางส่วนในโซเซียลมีเดียเอง

“มีการประกาศว่าการปล่อยอัลบั้มใหม่ของเอ็กโซจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ แต่สถานการณ์ข้อพิพาทของ 3 สมาชิก ทำให้การคัมแบ็กครั้งนี้อาจเป็นไปอย่างยากลำบาก” ส่วนหนึ่งของข้อความของสื่อข่าว

แม้ว่าในตอนแรก SM ยังยืนยันว่า การถ่ายทำมิวสิกวิดีโออัลบั้มใหม่ของเอ็กโซในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะคดีความดังกล่าว นี่เป็นความเคลื่อนไหวแรกของ SM ที่กล่าวถึงการคัมแบ็กของเอ็กโซ 2023 อย่างเป็นทางการ แต่ต้นสังกัดเผยในภายหลัง เวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทยว่า สมาชิกทั้ง 7 คนสามารถกลับมาถ่ายทำ MV ได้อีกครั้งแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเชื่ออยู่ว่า การเดิมพันของสมาชิกเอ็กโซครั้งนี้อาจมีความหมายมาก โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของเมมเบอร์เอ็กโซคนสำคัญ เซฮุน มักเน่หรือน้องเล็กของวง ส่งข้อความในแอปพลิเคชัน Lysn หาแฟนๆ 1 ชั่วโมงก่อนข่าวฟ้องร้อง

“สู้ๆ นะ พวกเราทำได้ (..) จะมีบางสิ่งมากมายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดังนั้น ผมหวังว่าทุกคนจะมีวันที่ดีนะ (อีโมจิรูปฉลอง)”

รวมถึงความเคลื่อนไหวของแบคฮยอนต่อแฟนๆ ก่อนจะเกิดเรื่อง

“แฟนคลับ: แบคฮยอนอา มันอาจกะทันหันไปหน่อย แต่เรายังไม่เคยเห็นใครถามถึงการกลับมาของ EXO-CBX เลย นานมาแล้วนะเนี่ย มันคงดีนะถ้าเราได้เห็น CBX กลับมาอีกครั้ง

“แบคฮยอน: โปรดรออีกนิดนะครับ 555” แบคฮยอนตอบกลับข้อความของเอ็กโซแอลในทวิตวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา

การเคลื่อนไหวของเซฮุนและแบคฮยอน ทำให้เอ็กโซแอลต่างมองว่า สมาชิกเอ็กโซน่าจะหารือกันอย่างดีก่อนจะลงมือดำเนินการ อีกทั้งแนวโน้มอนาคตของเอ็กโซในฐานะวง อาจดำเนินการกับ SM เช่นเดียวกับ 3 สมาชิกในข้างต้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่รู้ดีในหมู่กลุ่มแฟนคลับเอ็กโซแอล เอ็กโซต้องเผชิญกับ ‘การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม’ จากค่ายต้นสังกัดมาตลอด เพราะหลายคนมองว่า หากได้รับการต่อยอดที่ดี เอ็กโซอาจจะได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในระดับโลกมากกว่านี้

เค้าลางทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากการโปรโมตการคัมแบ็กในอัลบั้ม ‘Obsession’ ที่น้อยลง หากเทียบการคัมแบ็กในอัลบั้ม ‘The War’ ด้วยเพลงไตเติล ‘Ko Ko Bop’ ที่แซวกันว่ามีมากกว่า 100 การแสดงในระหว่างการโปรโมต

อีกทั้งยังไม่มีการปฏิบัติอย่างเหมาะสมในการคัมแบ็กล่าสุดภายใต้อัลบั้ม ‘Don’t Fight the Feeling’ เพราะไม่มีการโปรโมตในรายการเพลง และองค์ประกอบเรียบง่ายกว่าที่เคยเป็น หากเทียบกับการโปรโมตในอดีต

รวมไปถึงกิจกรรมเดี่ยวของสมาชิกคนอื่นๆ เช่น ดีโอ (D.O.) เมนโวคอลของวง หลังจากไม่มีการโปรโมตในรายการเพลง และไม่ได้ขึ้นแสดงเพลงของตนเองในคอนเสิร์ตออนไลน์ของค่ายในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

หรือหากจะรวมการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อเอ็กโซในปี 2023 คือ การไม่ออกมาประกาศถึง ‘แพลนการคัมแบ็กอย่างชัดเจน’ ของปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมมเบอร์หลายคนออกมาแสดงจุดยืนถึงความผิดหวังกับแฟนๆ อยู่บ่อยครั้งว่า แผนงานไม่เป็นใจดังที่คาดหวังไว้ และเมมเบอร์ต้องออกมาประกาศกับเอ็กโซแอลโดยตรง แทนที่จะเป็นหน้าที่ของค่าย

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ทำให้เอ็กโซแอลยังเชื่อมั่นว่า เอ็กโซจะไม่ไปไหน แม้ว่าจะมีเรื่องราวหนักหนาตลอด 11 ปีเต็ม เพราะสมาชิกยังมี ‘สัญญาใจร่วมกัน’ ที่เปิดเผยในรายการ ‘Radio Star’ หลังจาก ซูโฮ (Suho) ลีดเดอร์ของวงเปิดเผยว่า เมมเบอร์จะตัดสินใจอยู่ร่วมกันตลอดเวลา ซึ่งเห็นได้ชัดผ่าน ‘การออกจากค่าย ไม่ออกจากวง’ ของ จาง อี้ชิง (Zhang Yixing) ที่ยังคงเรียกตนเองว่า ‘เลย์ EXO’ อยู่

“สมาชิกของเราตัดสินใจจะอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่กับ SM หรือเปิดต้นสังกัดเป็นของเราเองก็ตาม” ซูโฮกล่าวไว้ในปี 2019 ในรายการเรดิโอสตาร์ (Radio Star)

ดังนั้น การตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นก้าวแรกที่สำคัญของวงในการเรียกร้องต่อความอยุติธรรมที่เคยได้รับมาตลอด ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า เอ็กโซมีข้อต่อรองที่น่าสนใจให้ SM ‘ยื้อ’ เพื่ออยู่ต่อ ในฐานะหนึ่งในบอยแบนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การันตีด้วยรางวัลแดซังมากมาย และยอดขายที่ดีเยี่ยมนับตั้งแต่ยุค ‘Growl’ ในอัลบั้ม ‘XOXO (Kiss & Hug)’ เช่น การคัมแบ็กครั้งล่าสุดในอัลบั้ม ‘Don’t Fight the Feeling’ เอ็กโซมียอดขายสูงสุดถึง 1,338,429 อัลบั้มแค่ในเฉพาะเกาหลี ซึ่งมียอดขายสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ได้รับการโปรโมตอย่างเหมาะสมก็ตาม

รวมถึงความนิยมทั้งในฐานะศิลปินเดี่ยว และงานอื่นๆของสมาชิก เช่น แบคฮยอน ซึ่งได้รับฉายา ‘One-Top Soloist’ หลังจากทุบสถิติทำยอดขายอัลบั้ม ‘Delight’ ได้ 1 ล้านอัลบั้มในรอบ 19 ปี และกำลังจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวในปี 2023 หรือดีโอ ในฐานะนักแสดง โด คยองซู (Do Kyungsoo) ก็มีภาพยนตร์ในปีนี้ถึง 2 เรื่อง คือ ‘The Moon’ ซึ่งมีกำหนดฉายเดือนสิงหาคมที่กำลังจะถึง และ ‘Secret: Untold Melody’

นี่เป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์เบื้องต้นจากท่าทีของ SM และหลักฐานอันเป็นประจักษ์ ซึ่งหากพูดในเชิงธุรกิจ อาจกล่าวได้ว่า เป็นการกระทำที่ ‘ไม่ฉลาด’ อย่างมาก หาก SM จะปล่อยให้ EXO วงที่ได้รับการขนานนามจากสื่อว่า ‘ราชาแห่งเคป็อป’ ออกจากค่าย ทั้งที่เป็นผู้ปลุกปั้นเด็กหนุ่มทั้ง 9 คน มาถึงจุดสูงสุดทั้งในวงการเคป็อปและอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลกด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายคนเทียบสถานการณ์ดังกล่าวกับวงบอยแบนด์รุ่นพี่อย่าง ‘TVXQ’ เมื่อบทสรุปเรื่องราวของผู้ชายทั้ง 5 คน เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับวงอื่นเองก็ตาม แต่เอ็กโซแอลก็ยังมีความหวัง ความรัก และความเชื่อมั่นต่อเหล่าสมาชิกเหมือนวันแรก ท่ามกลางอุปสรรคมากมายที่ถาโถมเข้ามา และพร้อมจะเดินหน้าไปกับเอ็กโซ ไม่ว่าผู้ชายทั้ง 9 คนตัดสินใจอย่างไรก็ตาม

ดังเนื้อเพลง ‘Just as Usual’ ที่เอ็กโซตั้งใจมอบให้เอ็กโซแอลในอัลบั้ม Don’t Fight the Feeling ในปี 2021