ย้อนกลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 สำหรับเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่ล้มเหลวกับการประคับประคองธุรกิจของตัวเองในย่าน Lower Manhattan ไปจนถึง Brooklyn พวกเขาคงไม่คิดว่าในอีกหลายทศวรรษถัดมา โรงงานของตัวเองที่จำต้องปิดร้างจะกลายมาเป็นแรงบันดาลใจไกลถึงโลกศิลปะและไลฟ์สไตล์การตบแต่งบ้านร่วมสมัย

แน่ล่ะ ไม่เฉพาะเจ้าของกิจการ แต่ใครในยุคนั้นจะจินตนาการออกกันว่าบรรยากาศดิบๆ ของโรงงานอุตสาหกรรม กลิ่นฉุนและความมันเยิ้มของน้ำมันเครื่องยนต์ เสียงการทำงานของเครื่องจักร ท่อและแผ่นเหล็กเกรอะสนิม ฯลฯ เหล่านี้จะถูกแปรรูปให้กลายมาเป็นสไตล์การตบแต่งสุดชิคที่คนรุ่นใหม่ใฝ่ฝันจะมีในพื้นที่ของตัวเองสักครั้ง

ลอฟท์ (Loft) คือชื่อเรียกของสไตล์การตบแต่งที่กลายมาเป็นความนิยมของยุคสมัยใหม่ จากก้าวแรกของศิลปินในนิวยอร์กที่พยายามหาสตูดิโอทำงานราคาย่อมเยาและไม่จำเป็นต้องใส่ใจดูแลมาก ลอฟท์เจิดจรัสในโลกศิลปะ มันไปได้ดีกับพิธีกรรรมของป๊อปคัลเจอร์แห่งยุค 60s เพลงของวง The Velvet Underground & Nico ภาพยนตร์ศิลปะของ Andy Warhol หรือสถานที่แสดงสดของ Jackson Pollock  ก่อนไปเตะตาเหล่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้พากันรีโนเวทโกดังร้างให้เป็นที่อยู่อาศัยเพื่อปล่อยขายในราคาย่อมเยา

จาก Hard Loft สู่ Soft Loft

ห้องพักที่เป็นโถงกว้างไร้ฉากกางกั้น กำแพงอิฐ เสาและคานอันเปลือยเปล่า บันไดที่เป็นโครงเหล็ก พื้นไม้ เฟอร์​นิเจอร์ลอยตัว และหน้าต่างบานใหญ่ที่แสงแดดลอดผ่านเข้ามากระทบต้นมอนสเตอร่าและแคคตัส ฯลฯ อย่างไม่อาจปฏิเสธว่าฉากในอพาร์ทเมนต์ของตัวละครเอกในซีรีส์ดังอย่าง Sex and the City รวมถึงภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องอื่นๆ ที่ถ่ายทำในแมนฮัตตัน สร้างภาพในอุดมคติให้แก่วัยรุ่นผู้อยากมีอพาร์ทเมนต์ในเมืองเท่ๆ แตกต่างจากบ้านของพ่อแม่ที่พวกเขาเติบโตมา ยุค 90s ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเทรนด์การตกแต่งที่อยู่อาศัย ลอฟต์แผ่ลามจากโลกศิลปะไปสู่ที่พักราคาถูก และในที่สุดมันก็กลายมาเป็นสุนทรียะการตกแต่งที่มากับวิถีอันชิคเก๋

Soft Loft คือชื่อที่บัญญัติใหม่ของการตบแต่งอาคารหรือที่พักสไตล์ลอฟท์ ขณะที่ Hard Loft คือการ transform โรงงาน โกดังร้าง หรืออาคารเก่าโดยไม่ต้องประดิดประดอยอะไรมาก Soft Loft กลับเป็นความเรียบดิบที่เกิดจากการประดิษฐ์ เน้นการใช้งานหรือพักผ่อนได้จริง เฉียบเท่ หากก็อบอุ่น และที่สำคัญคือมีความเป็นมิตรและน่าอยู่

เราอาจนิยาม Soft Loft ว่าเป็นการออกแบบใหม่โดยหยิบสไตล์ลอฟท์มาเป็นหัวใจในการตบแต่ง แน่นอนความที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ สัมผัสของความดิบเท่แบบดั้งเดิมของลอฟท์ต้องพร่องลง กระนั้นนี่ก็เป็นทางเลือกอันชาญฉลาดของใครหลายคนที่ไม่ต้องการมานั่งปวดหัวกับหลังคาหรือท่อน้ำที่รั่ว พื้นที่เขรอะเกินจะขัด และความบุบสลายไปตามกาลเวลาของวัสดุที่ประกอบขึ้นมาเป็นบ้าน

ยังไม่นับรวม story ที่ติดมากับสถานที่อีก เพราะในขณะที่ Hard Loft เมื่ออยู่ในบริบทของพิพิธภัณฑ์ สตูดิโอศิลปะ หรือคาเฟ่ เรื่องเล่าหรือประวัติศาสตร์ที่ติดมากับอาคารหรือพื้นผิวของผนัง คือจุดขายอันยอดเยี่ยมที่จะดึงดูดให้ทุกคนมาเยือน เช่นคาเฟ่หลายแห่งในตลาดน้อยที่เกิดจากการปรับปรุงโถงภายในของโรงกลึงเก่า หรือร้านกาแฟที่เชียงใหม่ที่บูรณะโรงบ่มยาสูบจนได้รางวัลอนุรักษ์ระดับภูมิภาคมาแล้ว เป็นต้น แต่เมื่อประวัติศาสตร์เดียวกันมาอยู่ในผนังห้องนอนของคุณ แน่นอน มันไม่ดึงดูดให้เราหลับตานอนได้สนิท

อย่างไรก็ตาม Soft Loft ก็ยังคงเป็นคำถามในสายตาของผู้ใหญ่หลายท่านในบ้านเรา ค่าที่ว่าบ้านสร้างใหม่ดีๆ แล้วจะตบแต่งให้ดูเหมือนโรงงานไปทำไม ต่อจากนี้น่าจะพอเป็นคำตอบ

ลอฟท์อยู่ได้ และดีด้วย

เพดานจะสูงไปไหน? – หลายคนอาจตั้งคำถามเรื่องนี้ ยิ่งเพดานสูงก็ยิ่งทำความสะอาดยาก แต่นั่นล่ะ ถึงเราจะอยู่ห้องที่มีฝ้าเพดานปกติ ในหนึ่งปีเราจะทำความสะอาดสักกี่ครั้งเชียว ในทางกลับกัน การมีเพดานสูงก็ทำให้ห้องมีความปลอดโปร่ง โล่งกว้าง ระบายอากาศได้ดี บ้านบางหลังยังเลือกใช้ประโยชน์จากเพดานสูงต่อเป็นห้องชั้นลอยเล็กไว้สำหรับเก็บของ หรือเป็นห้องนอนเสริมอีกด้วย

บันไดที่เป็นเอกลักษณ์ – อีกหนึ่งคาแรกเตอร์ของลอฟท์คือบันไดเหล็ก ซึ่งคนรุ่นก่อนหน้าเราอาจจะมองว่ามันไม่เหมาะที่จะอยู่ภายในบ้าน กระนั้นการมีบันไดที่เป็นโครงสร้างเหล็กก็ช่วยในการประหยัดพื้นที่และทำให้ห้องดูโอ่โถงขึ้นมาก ขณะเดียวกันบันไดสไตล์ลอฟท์ที่ส่วนใหญ่จะมีขั้นบันไดเป็นไม้เหมือนบันไดบ้านทั่วไปอยู่แล้ว เพียงแค่มันมีรูปลักษณ์เป็นโครงเหล็กเท่านั้น

เหมือนสร้างบ้านไม่เสร็จ – ว่าไปแล้วลอฟท์ก็คล้ายเทรนด์ที่มาทำลายไวยากรณ์เดิมๆ ของการตบแต่งที่อยู่อาศัยเพราะจากที่เราคิดถึงการทาสีที่ถูกใจ หาวอลเปเปอร์มาประดับ ปูกระเบื้อง หรือคิดถึงชนิดของฝ้าที่จะนำมาใช้ปกปิดสายไฟหรือท่อน้ำ ลอฟท์ไม่ได้มองว่าสิ่งเหล่านี้จำเป็น เพราะหัวใจของมันคือการแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างหลักของอาคาร ผนังอิฐ, ปูนเปลือย (อาจจะขัดให้มันหน่อยเพื่อความเรียบร้อย) ขณะเดียวกันการปล่อยโชว์ท่อสายไฟ ท่อน้ำ หรือท่อแอร์ ก็สะดวกแก่การซ่อมบำรุง ซึ่งเมื่อนำมาจัดระเบียบดีๆ สิ่งที่เรามองว่าดูรกรุงรังก็กลับกลายเป็นสุนทรียะที่เข้ากันได้ดีกับบ้านไม่น้อย

ร้อน! – ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้านแบบไหน อากาศร้อนคือปัญหาสามัญของเมืองไทย แต่นั่นล่ะความที่การตบแต่งแบบลอฟท์จะมีหน้าต่างบานใหญ่ที่รับแสงแดดมากเป็นพิเศษ หลายคนก็อาจมองว่าลอฟต์ร้อนกว่าชาวบ้าน แต่ในทางกลับกัน การมีหน้าต่างใหญ่ก็เป็นที่พิสมัยของผู้อยู่อาศัยหลายคนโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านครีเอทีฟ ซึ่งไม่ชอบความอุดอู้ และรู้สึกผ่อนคลายจากแสงและลมธรรมชาติ ซึ่งวันไหนอากาศร้อนจัด เราก็แค่ปิดหน้าต่าง ปิดม่าน หรือเปิดเครื่องปรับอากาศ เช่นเดียวกับที่บ้านแบบไหนๆ ในบ้านเราเขาก็ทำกัน แค่นั้นก็หลบร้อนได้แล้ว

ลอฟท์สร้างได้ด้วยตัวเอง

นอกเหนือไปจากเรื่องดีไซน์หรือการออกแบบสถานที่ให้ออกมาหน้าตาถูกต้องตามฉบับลอฟท์แล้ว บ้านหรือที่อยู่อาศัย ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทุกคนสามารถลงมือปรับแต่งพื้นที่หรือห้องต่างๆ ได้ตลอดเวลาเช่นกัน หากความชื่นชอบในสไตล์ลอฟท์นั้นอาจพาคุณก้าวไปสู่อีกขั้น คืออยากลงมือปรับห้องหรือสเปซนั้นด้วยตัวคุณเอง ‘ผนังปูนเปลือย’ เป็นสิ่งที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้ เพราะมันจะทำให้ความเป็นลอฟท์ในสเปซนั้นเพิ่มขึ้นมาได้โดยง่าย

TOA Loft คือปูนฉาบขัดมันสำเร็จรูป ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ได้ง่ายๆ เป็นสูตรน้ำ ปลอดภัย ไร้กลิ่นฉุน พร้อมกับตัวเคลือบสูตรพิเศษในเซ็ต ที่จะช่วยปกป้องผนังลอฟท์ให้มีความทนทานเสมือนการเคลือบแก้ว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเช็ดล้างง่าย และยังไม่อมฝุ่นอีกด้วย

TOA Loft มีด้วยกันทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเทาอ่อน เทากลาง เทาเข้ม เหลือง และแดง โดยวิธีทำในการทาผนังปูนเปลือย ด้วย TOA Loft มีขั้นตอนทั้งหมดเพียงสองขั้นตอน คือ 1. ปาด และ  2.เคลือบ ที่สามารถทำตามคู่มือได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง เพียงเท่านี้ก็สามารถเพิ่มความเป็นลอฟท์ที่ดิบๆ ชิคๆให้กับที่อยู่อาศัยได้แล้ว

 

Tags: , , , ,