อาชีพการแสดงของ มีอา ก็อธ (Mia Goth) เพิ่งมีอายุเพียงสิบปี แต่เป็นสิบปีที่เต็มไปด้วยการร่วมงานกับคนทำหนังอย่าง ลาร์ ฟอน ทรีเยร์ (Lars von Trier), ลูกา กวาดาญีโน (Luca Guadagnino), แคลร์ เดนส์ (Claire Danes), ติ เวสต์ (Ti West) และล่าสุดกับ แบรนดอน โครเนนเบิร์ก (Brandon Cronenberg)
และหากพินิจเส้นทางการแสดงที่ผ่านมาของเธอในวัย 19 ปี มีอา ก็อธ ประเดิมการแสดงหนังยาวเรื่องแรกด้วย Nymphomaniac: Vol. II (2013) หนังฉาว เฮี้ยน และสุดโป๊ ว่าด้วยการสำรวจความใคร่ของมนุษย์ หรือในบทบาทนักเต้นสาวในดงเลือดแห่ง Suspiria (2018) ไปจนถึงเรื่อง X (2022) เมื่อเธอเป็นหนึ่งในกลุ่มนักแสดงหนังโป๊ที่ชีวิตจับพลัดจับผลูต้องมาหนีตาย และ Infinity Pool (2023) หนังเรต R กับสารพัดประดามีความเซอร์จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในหนัง Horror ที่ทำเอาคนดูแทบเสียสติ
แล้วจะไม่ให้สมญานามมีอา ก็อธว่าเป็น ‘ราชินีหนังหวีด’ ได้ยังไงไหว
“ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าฉันอยากโตมาเป็นนักแสดงไหม สมัยเด็กฉันโตมากับคุณยายอยู่พักหนึ่งที่บราซิล (มาเรีย กลาดีส์) แกเป็นนักแสดงอยู่ที่นั่น เลยได้เห็นกับตาตัวเองเลยว่าอาชีพนี้มันขึ้นสุดลงสุดจริงๆ
“ภาพช่วงเวลาที่ยายลำบากลำบนเลยติดตาฉันไปทั้งชีวิตเลยมั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันพยายามทำอยู่ในเวลานี้เลยเหมือนเป็นการทำให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัยที่สุด และในฐานะนักแสดง อาชีพนี้มันเหมือนสิ่งที่ปักอยู่ในตัวคุณ พร้อมจะถูกกระชากออกไปตลอดเวลา ทุกครั้งที่ฉันถ่ายทำหนังจบไปสักเรื่อง ฉันรู้สึกยังกับว่าจะไม่ได้ทำงานนี้แล้วอีกเลย”
ดังที่กล่าวไปแล้วว่าเส้นทางการแสดงของก็อธนั้นโดดเด่นหาใครเสมอเหมือน และอาจนับเป็นหนึ่งในนักแสดงรุ่นใหม่ที่สร้างพื้นที่และภาพจำให้ตัวเองผ่านงานแสดงได้เจิดจรัสสุดๆ
ก่อนหน้านี้เธอแจ้งเกิดจากการเป็นนางแบบนิตยสารและมีงานประปราย แล้วจึงไปปรากฏตัวในหนังโคตรเฮี้ยนโคตรฉาวของฟอน ทรีเยร์ ด้วยการประกบคู่กับนักแสดงมหากาฬอย่าง ชาร์ล็อต แกงส์บูร์ก (Charlotte Gainsbourg) กับ วิลเลม ดาโฟ (Willem Dafoe) จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเส้นทางการแสดงของก็อธจะสูงลิ่วขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอไม่เพียงแต่เลือกแสดงในฌ็องเฮอร์เรอร์เป็นหลักเท่านั้น แต่ยังดูจะเลือกร่วมงานกับคนทำหนังที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยิ่งด้วย
“ฉันว่าคนเราก็โหยหาจะได้รู้สึกอะไรสักอย่างจะตายไป และยิ่งกับหนังเฮอร์เรอร์นี่ยิ่งแล้วใหญ่
“เหตุผลที่มันเป็นฌ็องหนังที่ได้รับความนิยมสูงลิ่วตลอดมา คือการกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างของคนดูเสมอ มันคือเกมการต่อสู้ในโลกสมัยใหม่ที่เราอาศัยอยู่ ยกตัวอย่างนะ มันว่าด้วยเรื่องการมีประสบการณ์ร่วมค่ะ มันเป็นสิ่งที่ทำให้คนมารวมตัวกันเพื่อสนุกสนานกับอะไรบางอย่าง ได้ร่วมประสบการณ์กับใครอีกคน แล้วยิ่งกับชีวิตประจำวันของเรา เราโหยหาสิ่งเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคุณตื่นมาตอนเช้า คุณก็หมกอยู่กับโทรศัพท์แล้ว อยู่ในรถ อยู่ที่ออฟฟิศ และง่ายดายเหลือเกินที่คุณจะร่วงหล่นลงสู่ความด้านชาบางอย่าง และนี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมหนังเฮอร์เรอร์มันจึงเป็นที่นิยมเหลือเกิน”
อย่างไรก็ตาม แม้เธอจะรู้ตัวว่ากำลังแสดงในหนังเฮอร์เรอร์หวีดสยอง หากแต่เวลาแสดงนั้น เธอก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาให้มัน ‘หวีดสยอง’ ขนาดนั้น เพราะสำหรับเธอ ฌ็องหนังขยับขยาย กว้างขวางได้เรื่อยๆ การจำกัดจำเขี่ยตัวเองให้แสดงแต่ในรูปแบบที่หนังกำหนดจึงมีแต่จะทำให้ศักยภาพตัวเองพัฒนาไปได้ไม่ถึงไหน
“ฌ็องหนังมันกว้างขวางมาก มันก็ผสมปนเปกันไปหมดได้ด้วยเหมือนกัน นี่แหละที่ทำให้ฉันหาบทดีๆ มาแสดงได้ในที่สุด ซึ่งก็มอบโอกาสให้ฉันได้ค้นหาอะไรต่อมิอะไรในฐานะนักแสดง ได้สำรวจตัวเอง ฉันชอบอะไรที่ท้าทายนะ ชอบที่ตัวละครและผู้กำกับมันผลักดันฉันไปยังที่ทางใหม่ๆ ด้วย”
หากมองจากภาพกว้าง ตัวละครของก็อธมักมีลักษณะแปลกประหลาดบางอย่าง นับตั้งแต่เด็กสาวกับการพยายามสานสัมพันธ์หญิงอายุมากกว่าที่เธอก็ไม่ได้สนิทสนมหรือรู้จักดีนัก, นักโทษหญิงที่ถูกส่งตัวไปยังอวกาศและต้องเผชิญเหตุการณ์น่าพรั่นพรึงมากมาย, เด็กสาวจอมจุ้นจ้านที่ทำให้ชีวิตคนอื่นวุ่นวายไปด้วย หรือสาวนักเต้นที่อยู่ๆ ก็พบว่าตัวเองถูกรายล้อมไปด้วยเลือดและความตายสยดสยอง
“ฉันมักหลงใหลในตัวละครที่พยายามก้าวข้ามอะไรบางอย่างอยู่ละมั้ง ตัวละครที่ฉันโปรดมากๆ มักมีชีวิตที่เละเทะหรือเป็นมนุษย์ที่บิดเบี้ยว ไม่ก็เป็นผู้หญิงที่ไม่สมบูรณ์พร้อม เพราะฉันรู้สึกว่าตัวเองหาจุดร่วมกับตัวละครเหล่านี้ได้ละมั้ง”
และที่เปิดประสบการณ์ใหม่เอี่ยมให้ก็อธคือการได้ร่วมโปรดิวซ์และเขียนบทให้ Pearl (2022) หนังของไท เวสต์ ว่าด้วย เพิร์ล (ก็อธ) หญิงสาวคนหนึ่งในปี 1918 ที่ทำทุกทางเพื่อหนีจากความน่าเบื่อหน่ายเจียนตายในไร่น้อยของพ่อแม่เธอ นำไปสู่เรื่องราวชวนเหวอและสารพัดฉากเลือดโชก (เช่นเคย)
“ตอนเขียนบทเรื่องนี้ ฉันตื่นเช้าม๊ากมาก ตั้งเวลาโทรศัพท์ไว้ แล้วเขียนอะไรก็ตามที่อยู่ในหัวออกมาจนหมด เหมือนความเรียงกระแสสำนึกมากกว่าจะเป็นสคริปต์หนังเสียอีก เพราะฉันคิดว่าการเขียนแบบสคริปต์มันทำให้ระบุไอเดียตัวเองออกไปยากอยู่
“ฉันเขียนเสมือนว่าตัวเองคือเพิร์ล เพิร์ลคือตัวฉัน ตัวละครก็คือฉัน ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนมันก็เหมือนว่าฉันกำลังสำรวจแง่มุมใหม่ๆ ของตัวเองออกมาอยู่เลยล่ะ”
ปีนี้เรื่อยไปจนถึงปีหน้า ก็อธก็ยังวนเวียนอยู่กับการแสดงหนังเฮอร์เรอร์ กับ Infinity Pool (2023) ที่กวาดคะแนนวิจารณ์ระเบิดระเบ้อด้วยเส้นเรื่องที่เฮี้ยนและการแสดงที่ดูจะเฮี้ยนยิ่งกว่าของเธอกับ อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด (Alexander Skarsgard) จนนักวิจารณ์หลายคนออกปากเสียดายที่เวทีรางวัลหลายแห่งดูเมินหนังเฮอร์เรอร์จนพลาดโอกาสจะส่งเธอเข้าชิงหลายๆ รางวัล และกับ MaXXXine หนังของนายไท เวสต์อีกเช่นเคย ซึ่งแม้จะยังไม่มีกำหนดฉาย แต่ก็ให้มั่นใจกันได้ว่าเซอร์แตกและแหกกระเจิงไม่แพ้เรื่องก่อนๆ ที่เขาทำงานร่วมกับก็อธแน่นอน
Tags: film, Screen and Sound, Mia Goth, มีอา ก็อธ