ไม่ต้องรอให้ถึงเช้าวันจันทร์ แค่เย็นวันอาทิตย์คลืบคลานมาถึง หลายคนก็เริ่มกุมขมับแล้ว Monday Blues หรืออาการซึมเศร้าในวันจันทร์ เป็นภาวะที่พบเจอได้ในคนวัยทำงานทั่วไป ผลสำรวจจากเว็บไซต์ YouGov ในปี 2021 จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของชาวอเมริกันกว่า 4,241 คน เกี่ยวกับ ‘วันที่ชอบที่สุด’ ของพวกเขา พบว่า วันเสาร์เป็นวันที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบที่สุด (35%) ขณะที่วันจันทร์เป็นวันที่พวกเขาเกลียดที่สุด (58%) เนื่องจากต้องเผชิญกับความเครียดและความวิตกกังวลที่อาจเกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ของการทำงาน
ถึงแม้บทความเชิงจิตวิทยามากมายพยายามออกมาบอกว่า อาการ Monday Blues นั้นเป็นเรื่องอุปาทานหมู่มากกว่าวิกฤตสุขภาพจิต ทว่ามีสถิติและงานวิจัยหลายชิ้นกล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างความเครียดกับวันจันทร์อย่างมีนัยสำคัญ
ในการศึกษาและวิเคราะห์งานเขียนเชิงวิชาการเกี่ยวกับอัตราการฆ่าตัวตาย (ทบทวนวรรณกรรม) Suicide risk over the course of the day, week, and life ที่เผยแพร่ในปี 2021 พบว่า การฆ่าตัวตายมักเพิ่มสูงขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ (วันจันทร์) และลดลงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัย Monday peak is unique to suicide? Comparison of weekly distribution by causes of death using national representative cohort database ในปี 2023 จากการวิเคราะห์ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 1,622,213 ราย (รวมถึงผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย 80,492 ราย) พบว่า 16% ของผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นในวันจันทร์ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า วันจันทร์เป็นวันที่คนเสียชีวิตจากการใช้สารเสพติดมากที่สุด
ถึงแม้ตัวเลขการเสียชีวิตที่เชื่อมโยงจากสาเหตุความเครียดในวันจันทร์จะแตกต่างจากวันอื่นๆ เพียงเล็กน้อย ทว่างานวิจัยล่าสุดเหมือนชี้ช่องให้เราเห็นอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ ดูเหมือนว่านอกจากอาการ Monday Blues จะไม่ใช่แค่ทฤษฎีสมคบคิด ระดับความเครียดที่เกิดขึ้นในวันจันทร์ยังส่งผลกระทบระยะยาวไปถึงสุขภาพทางกายที่อันตรายกว่าที่คิดอีกด้วย
ในงานวิจัย Are anxious Mondays associated with HPA-axis dysregulation? A longitudinal study of older adults in England ที่เผยแพร่ในปี 2025 เกี่ยวกับการศึกษาเรื่องระดับความเครียดในวันจันทร์ส่งผลในเชิงชีวภาพระยะยาวหรือไม่ โดยเก็บตัวอย่างเส้นผมที่สะสมคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียดมาตรวจสอบ พบว่า ผู้ที่รู้สึกเครียดและวิตกกังวลในวันจันทร์จะมีระดับฮอร์โมนความเครียดในระยะยาวสูงขึ้นถึง 23% ซึ่งพบได้ทั้งในคนวัยทำงานและผู้สูงอายุที่เกษียณไปแล้ว
ที่สำคัญไปกว่านั้นในรายงานยังระบุอีกว่า ในบรรดาผู้สูงอายุที่มีระดับความเครียดสูงในวันจันทร์ มีแนวโน้มเป็นโรคหัวใจวายเฉียบพลันเพิ่มขึ้นถึง 19% ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่าง โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease: CVD) กับสมองส่วนไฮโปทาลามัสหรือแกน HPA (Hypothalamic-Pituitary-Adrenal Axis) ที่ทำหน้าที่ควบคุมการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด
สิ่งที่จะทำให้แกน HPA ผิดปกติไปจากเดิมได้มีหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น การทำงานของต่อมหมวกไตที่ผิดปกติ ทว่าปัจจัยที่พบได้บ่อยนั้นเกิดจากความเครียดสะสมเรื้อรัง ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล อดนอน ทำงานหนัก ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และปัญหาด้านสุขภาพ
โดยจะเห็นได้ว่า สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดปัจจัยความเครียดจนส่งผลกระทบต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ ส่วนใหญ่มาจากการโหมงานหนักและเผชิญกับความเครียดมาเป็นเวลานาน จนการจัดการกับฮอร์โมนความเครียดเกิดความผิดปกติ ในระดับที่ต่อให้เลิกทำงานไปแล้วหลายปี ร่างกายก็ยังคงต่อสู้กับความเครียดอยู่ในช่วงเวลาเดิมๆ
อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการเวลายังคงเป็นกลไกแก้ไขปัญหานี้ได้ในระยะยาว ถ้าแบ่งเวลาให้เป็นควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองให้ดี เชื่อว่าเราจะสามารถบาลานซ์ไม่ให้เกิดความเครียดสะสมจากงานได้ ในขณะที่สุขภาพร่างกายยังคงอยู่ในระดับดีเยี่ยม จากการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่าปล่อยให้ความเครียดในวันนี้ ฆ่าเราในวันข้างหน้า
ที่มา:
– https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/16138750/
– https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/34795196/
– https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/37166224/
– https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/40482685/
– https://www.sciencedaily.com/releases/2025/07/250706230309.htm
Tags: Excitement, Monday Blues, Acute Heart Attack, โรคหัวใจวายเฉียบพลัน, ความเครียดสะสม, ความเครียด, ผู้สูงอายุ, Knowledge, Wisdom, Stress