เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาติไทยพัฒนา เปิดตัว ท็อป-วราวุธ ศิลปอาชา ในฐานะ ‘แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี’ เป็นครั้งแรก หลังจากพรรคมีมติให้เขาทำหน้าที่นี้ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ใกล้กับอนุสาวรีย์ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ผู้เป็นพ่อ

แม้จะเป็นพรรคเล็ก มีอำนาจต่อรองไม่มาก แต่วันนั้น ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ถึงกับยกประวัติศาสตร์มาว่าครั้งหนึ่ง หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็เป็นนายกฯ ได้ ทั้งที่พรรคมีเสียงเพียง 18 เสียงเท่านั้น

อีกไม่นานก่อนเลือกตั้ง พรรคชาติไทยพัฒนายังคงเป็นพรรคที่มีกระแสไม่มากนัก กระนั้นเอง วราวุธยังเชื่อว่า การเลือกตั้งรอบนี้เขาจะเป็นพรรคขนาดกลางที่มีอำนาจต่อรองในการเข้าไปทำงานต่อ ตามหลักการคณิตศาสตร์ทางการเมือง ที่แน่นอนว่าพรรคขนาดเล็กย่อมอยากเข้าใกล้ศูนย์กลางอำนาจเพื่อทำหน้าที่รัฐบาล ด้วยจุดเด่นที่วราวุธบอกว่า ตัวเองเป็น ‘นักปฏิบัติ’ ไม่ใช่ ‘นักพูด’

The Momentum สนทนากับวราวุธ เพื่อถามถึงจุดขายของพรรคชาติไทยพัฒนาในการเลือกตั้งรอบนี้ การปลูกข้าวเพื่อขายคาร์บอนเครดิต ซึ่งตัวเขาภูมิใจอย่างยิ่ง Political Spectrum ของพรรค ไปจนถึงจุดยืนของตัวเขาต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

 

Tags: , ,