ชุนจิ อิวาอิ หนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีสไตล์การทำงานที่โดดเด่นและความสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร เขารู้จักหยิบอันนั้นมาผสมอันนี้อยู่เสมอ ทั้งยังต่อยอดผลงานออกมาได้น่าประทับใจเรื่อยมา ตัวอย่างเช่น All About Lily Chou-Chou ก็มีส่วนพื้นฐานมาจากนวนิยายทางอินเทอร์เน็ต, Hana and Alice เริ่มต้นด้วยโฆษณาทางโทรทัศน์ หรืออย่างเรื่อง Bandage ที่เขาเป็นโปรดิวเซอร์ก็ได้โครงเรื่องมาจากงานในเวิร์คช็อปการเขียน
ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ของเขามักหมุนรอบตัวละครที่ถูกตัดขาดจากสังคมและความสัมพันธ์ เขาจะค่อยๆ เปิดเรื่องราวของแต่ละชีวิตออกมา ซึ่งบุคคลทั้งหมดล้วนต้องประสบกับความเจ็บปวดและความสูญเสีย แต่สิ่งที่จะตามมาก็คือโลกที่เปิดกว้างขึ้น กว้างพอที่จะให้ความสุขเข้ามา และกว้างพอที่จะให้ความทุกข์วิ่งเข้ามาปะทะเพิ่มเช่นกัน แต่ไม่ว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไหน จะเศร้าหรือจะสุข อิวาอิก็ได้ทิ้งร่องรอยความเรียบง่ายที่รุนแรงไว้ทุกครั้ง ต่อให้หยิบมาดูซ้ำในวันนี้ มันก็ยังมีพลังไม่ต่างจากครั้งแรกที่ได้ดู
Love Letter (1995)
“เธอสบายดีไหม ส่วนฉันสบายดี” ประโยคเรียบง่ายที่สะเทือนความรู้สึกคนดูมากที่สุดในภาพยนตร์ Love Letter เป็นผลงานที่ทั้งอบอุ่นและพาให้หัวใจหม่นเศร้าไปพร้อมๆ กัน อิวาอิสร้างผลงานชิ้นนี้ออกมาอย่างละเมียดละไม มากไปด้วยความรู้สึก และเรื่องราวหวานขมในความทรงจำ ความรักที่ไม่สมหวังนั้นมีอานุภาพรุนแรงเสมอ แต่บ่อยครั้งมันก็เป็นความทรงจำที่ดี จนเราอดที่จะยิ้มให้มันไม่ได้อยู่ร่ำไป นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้
Love Letter เล่าเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่สูญเสียคู่หมั้นไปเพราะเขาประสบอุบัติเหตุตกเขา เธอชื่อ ‘วาตานาเบะ ฮิโรโกะ’ แม้ว่าเวลาจะผ่านมาแล้วสองปี แต่เธอก็ยังรู้สึกราวกับว่าเขายังอยู่ใกล้ๆ ในหัวใจ แล้วในวันที่ฮิโรโกะไปร่วมงานครบรอบวันตายของชายคนรัก ‘ฟูจิอิ อิทสึกิ’ เธอก็ได้ที่อยู่ในวัยเด็กของเขามา และถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าบ้านหลังนั้นไม่มีแล้ว แต่ฮิโรโกะก็เลือกที่จะเขียนจดหมายส่งไป เพื่อเป็นการปลอบประโลมหัวใจตัวเอง
จดหมายควรจะถูกพัดพาให้หายไปโดยที่คงไม่มีใครสักคนเปิดอ่าน แต่แล้วกลับมีจดหมายตอบกลับมาที่ฮิโรโกะ มิหนำซ้ำชื่อผู้ส่งยังเป็นชื่อเดียวกับคู่หมั้นของเธอที่เสียไปแล้วด้วย ซึ่งคนที่เขียนจดหมายมานั้นเป็นฟูจิอิ อิทสึกิ จริงๆ แต่เป็นฟูอิจิที่เป็นผู้หญิง หญิงสาวที่เคยเรียนร่วมห้องกับฟูจิอิ (ชาย) และเธอมีใบหน้าที่เหมือนฮิโรโกะราวกับฝาแฝด เมื่อมาถึงจุดนี้ความเรียบง่ายของเรื่องราวก็เริ่มซับซ้อนขึ้นทีละน้อย และชวนให้เกิดข้อสงสัยจนนำไปสู่คำถามของหญิงสาวทั้งสองคนว่าจริงๆ แล้ว ฟูจิอิ (ชาย) รู้สึกอย่างไรต่อพวกเธอกันแน่ ความรู้สึกและความทรงจำถูกกวนให้กระจายขึ้นมา จดหมายที่ตอบกลับไปมาจะทำให้พวกเธอคลายข้อสงสัยลงได้หรือเปล่า หรือจะทำให้พวกเธอได้พบกับคำตอบที่คาดไม่ถึง ห้วงขณะของอดีตกำลังจะทำให้อนาคตก้าวเดินอีกครั้งด้วยปัจจุบัน…
April Story (1998)
กระดุมเม็ดที่สองของชุดนักเรียนอาจกลายเป็นเครื่องรางสำคัญของหัวใจสำหรับใครบางคน เพราะตามความเชื่อของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น กระดุมเม็ดนี้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้หัวใจมากที่สุด เพราะฉะนั้นเมื่อมันอยู่กับใครก็อาจหมายความว่าคนๆ นั้นคือคนที่ได้ครอบครองหัวใจเขา
April Story เป็นเรื่องราวของการแอบรัก และรักอย่างสุดหัวใจจนคนๆ หนึ่งกล้าจะเผชิญหน้ากับโลกกว้าง ซึ่งคนๆ นั้นก็คือ ‘นิเรโกะ อุซุกิ’ หญิงสาวจากชนบทที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง ไม่เคยห่างบ้าน ไม่เก่งในเรื่องสานสัมพันธ์กับใคร แต่เธอก็เดินทางจากฮอกไกโดมาเรียนต่อไกลถึงโตเกียว ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด แต่ชีวิตของเธอก็ยังเดียวดายและเงียบเหงา อุซุกิเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมุซาชิ และไม่เพียงเท่านั้นเธอยังพาตัวเองไปที่ร้านหนังสือชื่อมุซาชิด้วย
ในที่สุดความปรารถนาของเธอก็แย้มบานออกมาให้เราได้เห็น สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในหัวใจปรากฎให้พบพร้อมรอยยิ้มในวันฝนโปรย หลังจากที่เทียวไปเทียวมาร้านหนังสืออยู่หลายหน อุซุกิก็ได้เจอ ‘เขา’ เสียที เขาคือคนที่เธอทุ่มเทตามหามาโดยตลอด เขาคือคนที่เธอตกหลุมรักมานานหลายปี เขาคือคนที่เธอเอาหัวใจไปวางไว้ข้างๆ เขาที่เธอได้สบตาอีกครั้งในกลางเดือนเมษายน เดือนที่อากาศควรจะร้อนมากที่สุด แต่ดูเหมือนฟ้าจะชุ่มฉ่ำพอๆ กับหัวใจอุซุกิ ฝนจึงโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย อุซุกิออกจากร้านหนังสือไปในตอนที่ฝนเทลงมา ในมือถือร่มที่เขาให้ยืม และเธอสัญญาว่าจะเอากลับมาคืนในเร็ววัน สัญญาที่อยากจะกลับมาด้วยความเต็มใจตลอดไป
All About Lily Chou-Chou (2001)
ครั้งหนึ่งอิวาอิมีงานที่ต้องไปถ่ายทำที่ฮ่องกงร่วมกับผู้กำกับคนอื่นๆ ตอนไปที่นั่น อิวาอิมีโอกาสไปชมคอนเสิร์ตของเฟย์ หว่อง และเขาก็รู้สึกว่าความคลั่งไคล้ที่ทุกคนมีต่อเธอนั้นช่างน่าทึ่ง เขาจึงนำความรู้สึกบางส่วนนั้นมาพัฒนาต่อ และไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขายังเปิดเว็บไซต์ Lilyholic เพื่อโพสต์เรื่องราวต่างๆ ของตัวละครลงไป และให้ชาวเน็ตมาพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย จนในที่สุดเขาก็ได้บทภาพยนตร์ที่น่าพอใจ
All About Lily Chou-Chou มีตัวละครหลักเป็นเด็กผู้ชายสองคน นั่นคือ ยูอิจิ และโฮชิโนะ พวกเขารู้จักกันตอนช่วงเทอมแรกของวัยมัธยมต้น แล้วก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันในระยะเวลาหนึ่ง เที่ยวเล่นด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน และแบ่งปันเรื่องราวให้กันฟัง โดยเฉพาะเพลงของศิลปินคนหนึ่งที่ชื่อ ลิลี่ ชูชู
ยูอิจิชอบเพลงของเธอมาก เขาถึงขนาดเปิดเว็บไซต์อันเป็นที่สิงสถิตของเหล่าแฟนๆ โดยใช้นามแฝงว่าฟิเลีย บนโลกอินเทอร์เน็ตนั้นเปรียบเสมือนหลุมหลบภัยของยูอิจิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโฮชิโนะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขากลายเป็นหัวโจกของเด็กเกเร ซึ่งไม่มีใครสามารถหยุดการกระทำร้ายๆ ของเขาได้เลย และยูอิจิก็พลอยกลายเป็นเบี้ยล่างของเขาไปด้วยเหมือนกัน แต่ยูอิจิก็ยังเหลือเพื่อนที่คอยพูดคุยด้วยได้อยู่อีกคน นั่นคือบลูแค็ต ยูสเซอร์ในเว็บไซต์
โลกแห่งความจริงนั้นไม่งดงามเลยสักนิด ยิ่งเวลาผ่าน ความทุกข์ทรมานยิ่งทวีคูณ บรรดาเด็กมัธยมต้นในเรื่องควรจะมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต แต่มันกลับทุบตีพวกเขาให้อับจนหนทาง ผลักดันให้ทั้งหมดหลงทางเข้าไปสู่โลกอีกใบ โลกที่ทั้งเย็นชาและไร้หัวใจ สิ่งเดียวที่หยิบยื่นมาให้ได้ก็คงมีแต่ความตายเท่านั้น
Hana and Alice (2004)
เดิมที Hana & Alice เป็นผลงานหนังสั้นที่อิวาอิทำเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปีของช็อกโกแลต Kit Kat เท่านั้น แต่ผลปรากฎว่าผู้คนตอบรับดีมาก จนต่อมาอิวาอิจึงนำเนื้อหามาขยายเพิ่มเติมเป็นภาพยนตร์ขนาดยาว ซึ่งก็สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ มาได้อย่างครบครัน แถมหลังจากภาพยนตร์ออกฉายไปแล้ว 11 ปี อิวาอิก็ยังนำมาเพิ่มเติมประเด็นได้อีก โดยในครั้งหลังนั้นเขาทำออกมาในเวอร์ชันอนิเมะเรื่อง The Case of Hana & Alice (2015) โดยใส่เนื้อหาให้เป็นเรื่องที่เกิดก่อนในเวอร์ชันภาพยนตร์ ซึ่งผลตอบรับก็ยังคงดีไม่น้อยหน้ากัน
ฮานะกับอลิซ เป็นสองสาวเพื่อนซี้ที่มักไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ พวกเธออยู่บ้านใกล้กัน เรียนที่เดียวกัน และอยู่ชมรมเดียวกัน และด้วยวัยที่กำลังเบ่งบาน ฮานะก็ตกหลุมรักชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาชื่อมิยาโมโตะ ฮานะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้าใกล้เขา เธอทำถึงขั้นสะกดรอยตามอยู่บ่อยๆ แล้วเรื่องวุ่นๆ มันก็มาเกิดในตอนที่มิยาโมโตะประสบอุบัติเหตุ เขาเดินชมประตูจนหมดสติ เมื่อฟื้นมาอีกทีเขาก็สูญเสียความทรงจำบางส่วนไป ฮานะจึงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการโกหกเขาว่า “เราเป็นแฟนกัน”
เรื่องมันควรจะดำเนินไปง่ายๆ แบบนั้น ถ้าฮานะไปลากอลิซเข้าไปผสมโรงด้วยการบอกกับมิยาโมโตะว่า อลิซเป็นแฟนเก่าของเขา ซึ่งมิยาโมโตะก็เชื่อไปตามนั้น แถมหัวใจยังหวั่นไหวไปกับแฟนเก่า (ปลอมๆ) ด้วย มันเลยกลายเป็นรักสามเส้าที่เล่นตลกกับความจริงและความทรงจำที่สร้างขึ้น บางอย่างอาจโกหกและบังคับกันได้ แต่เรื่องความรู้สึกมันยากเกินไปที่จะบังคับให้ใครคนหนึ่งทำตาม สิ่งที่ย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาจึงเป็นถ้อยคำที่พูดออกไปทั้งหมด การเล่นกับความรู้สึกไม่ใช่เรื่องสนุก เพราะสุดท้ายแล้วเราอาจไม่เหลือความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันเลยก็ได้ ดังเช่นที่ฮานะและอลิซกำลังเผชิญอยู่!
A Bride for Rip Van Winkle (2016)
ในเรื่องสั้น Rip Van Winkle ของวอชิงตัน ไอร์วิง ชายที่ชื่อริป แวน วิงเคิล หลบหนีภรรยาของตัวเองเข้าไปในป่า ริปหลับไปและตื่นขึ้นมาอีกครั้งในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เมื่อกลับลงมายังหมู่บ้าน เขาก็พบว่าเวลาได้ผ่านไปแล้วถึง 20 ปี ซึ่งอิวาอิหยิบจับประเด็นบางอย่างของริปมาใส่ในเนื้อหาได้อย่างเป็นตัวเองมากทีเดียว
เรื่องราวส่วนแรกของภาพยนตร์จะพาเราไปรู้จักกับนานามิ ครูสอนหนังสือที่ไขว่คว้าความรักจากโลกออนไลน์ ซึ่งเธอก็พบสิ่งนั้นจริงๆ เท็ตสึยะเป็นหนุ่มที่เธอออกเดทด้วย และทั้งคู่ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน ในงานแต่งงานที่ควรจะอบอุ่นฟุ้งเฟ้อไปด้วยความรัก แต่นานามิกลับต้องจ้างคนกลุ่มหนึ่งมาแสดงเป็นครอบครัวของเธอ ชีวิตบางส่วนของเธอขาดหายไป และเธอต้องการให้ความรักครั้งนี้เป็นการเติมเต็มความเว้าแหว่งนั้น
แต่คล้ายว่าชีวิตคู่ก็ตามมาด้วยปัญหา ความโดดเดี่ยวที่เคยมีไม่ได้หายไป มันแค่กลายร่างเป็นอีกสิ่งอื่นที่มีความเจ็บปวดพอๆ กัน ดังนั้น นานามิจึงแก้มันด้วยการลองใช้บริการของบริษัทที่รับทำทุกอย่าง ในโลกอันไม่สมประกอบนี้ เราจะหาซื้ออะไรก็ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งความรักหรือความสัมพันธ์ มันจึงพัดพามะชิโระให้มาพบกับเธอ ไม่มีใครแน่ใจได้ว่านี่จะเป็นทางออกได้จริงหรือเปล่า หรือมันแค่จะเป็นการซ้ำเติมให้ชีวิตบุบสลายอีกครั้งและอีกครั้ง
Tags: ภาพยนตร์, ญี่ปุ่น, ชุนจิ อิวาอิ, Love Letter