หลังจากเข้าพบ กกต. เพื่อชี้แจงและมอบเอกสารชี้แจงตามข้อกล่าวหาเรื่องการโอนหุ้นสื่อ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และนายปิยบุตร กนกแสงกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกระบวนการการเข้าพบเพื่อชี้แจงแก่คณะกรรมการการไต่สวน
โดยนายปิยบุตรกล่าวว่า การกล่าวหาครั้งนี้มีเพียงบันทึกข้อกล่าวหาเพียงสามสี่บรรทัดเท่านั้น ซึ่งเป็นคำร้องที่ก๊อปปี้มาจากสำนักข่าวอิศราทั้งหมด แจ้งแต่เพียงว่า มีการไปตรวจสอบจากบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) มาแล้ว และพบว่านายธนาธรถือหุ้นอยู่ เมื่อนายปิยบุตรถามกลับว่า ตรวจสอบเมื่อไร ลงวันที่เท่าไร และรู้ได้อย่างไรว่านายธนาธรยังถือหุ้นอยู่ เพราะ บอจ.5 ไม่สามารถเป็นหลักฐานได้เลยว่าหุ้นได้โอนไปแล้วหรือไม่ ซึ่งแสดงว่า กกต. เชื่อไปตามที่ผู้ร้องกล่าวทั้งหมด โดยที่ยังไม่ได้สอบถามจากผู้ถูกร้องให้ชี้แจงเลย ซึ่งถือว่าผิดหลักกฎหมายอย่างยิ่ง
นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า ประเด็นหลักที่อยากจะกล่าวถึงก็คือกระบวนการการทำงานของ กกต. ที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องชี้แจงก่อน แต่ตั้งข้อกล่าวหาเลย ซึ่งไม่ถูกต้องเพราะ กกต. ไม่ใช่ผู้ช่วยการแสวงหาข้อเท็จจริงให้กับผู้กล่าวหา แต่ผู้กล่าวหาต้องนำส่งหลักฐานมาพิสูจน์ว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดจริง ตามหลักความเสมอภาคของคู่ความ ไม่ใช่ให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องมานั่งตอบคำถามหรือชี้แจงทีละข้อทั้งๆ ที่ผู้กล่าวหาเพียงแต่กล่าวหาแต่ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ไม่ใช่คุณธนาธรต้องบุกน้ำลุยไฟเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง จนทำให้คิดไปได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิดทางกฎหมาย แต่เป็นแรงจูงใจทางการเมืองมากกว่า พร้อมกันนั้นนายปิยบุตรยังทิ้งท้ายว่า กกต. ไม่ต้องกลัวการกดดันจาก คสช. เพราะอีกไม่นาน คสช. ก็จะหมดอำนาจไปแต่ กกต. ยังอยู่อีกนาน และกกต. เองก็รับเงินเดือนจากเงินภาษีของประชาชน จึงควรทำหน้าที่เพื่อประชาชนและความบริสุทธิ์ถูกต้องยุติธรรมนั้นจะเป็นเกราะคุ้มกัน กกต.เอง
จากนั้น นายธนาธรกล่าวต่อว่า รายละเอียดส่วนใหญ่ที่นำมาชี้แจงในวันนี้จะอ้างอิงตามเอกสารที่ถูกกล่าวหา แต่เมื่อเข้าพบกับคณะกรรมการการไต่สวนแล้วพบว่าพูดคุยกันในรายละเอียดน้อยของคดีมาก จนเกิดความตึงเครียด เพราะปัญหาอยู่ที่เรื่องของหลักการการทำงานของ กกต. มากกว่า และในช่วงคืนวันนี้นายธนาธรจะเปิดหลักฐานทั้ง 26 ชิ้นที่นำส่งให้ กกต.ในวันนี้ให้ประชาชนทั้งประเทศได้ดูทั้งหมด ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’
นอกจากนี้นายธนาธรยังกล่าวอีกว่าสิ่งที่ทำให้เขาเสียใจและหงุดหงิดที่สุดก็คือตลอด 1 ปีตั้งแต่ตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา เขามีคดีความถูกฟ้องไปแล้วถึง 16 คดี ทำให้ทีมกฎหมายของพรรคและตัวเขาเองไม่มีเวลาไปทำงานอย่างอื่นที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณากฎหมายอุ้มสื่อโทรคมนาคมที่เพิ่งผ่านออกมา หรือกฎหมายการกระจายอำนาจที่กลับมารวมศูนย์อีกครั้ง แต่ต้องมาใช้เวลาในการชี้แจงคดีทั้ง 16 คดีนี้ซึ่งไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
โดยส่วนตัวเขามีรายชื่อว่าที่ ส.ส. ของพรรคอื่นๆ กว่า 30 รายชื่อที่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่าถือหุ้นสื่อในแบบที่เขาถูกกล่าวหา หากยังไม่จบประเด็นนี้เขาจะเปิดเผยรายชื่อทั้งหมดแล้วฟ้องคนอื่นบ้างเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นนายธนาธรยังกล่าวว่าเขาจะขอปกป้องชื่อเสียงของตัวเองในการดำเนินการทางกฎหมายตอบโต้ทั้ง กกต. สื่อ และศรีสุวรรณ จรรยา โดยจะรอจนกว่า คสช. หมดอำนาจลง ถึงจะดำเนินการทางกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งมีอายุความ 15 ปี
Tags: เลือกตั้ง 62, หุ้นสื่อ, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล, พรรคอนาคตใหม่