“สันติภาพจะไม่เกิดขึ้นหากปราศจากความยุติธรรม” เป็นประโยคเก่าแก่ที่เคยปรากฏระหว่างการชุมนุมประท้วงในอดีต และมักถูกนำมาใช้แทบทุกครั้งเวลาผู้คนร้องหาความยุติธรรม รวมถึงเหตุการณ์ประท้วงครั้งล่าสุดในสหรัฐอเมริกา หลังจากจอร์จ ฟลอยด์ได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐมินเนอาโพลิสอย่างไม่เป็นธรรมจนต้องเสียชีวิต

มันเป็นประโยคของมัลคอล์ม เอ็กซ์ (Malcolm X) หนุ่มผิวดำผู้มีบทบาทในช่วงการตื่นตัว ลุกฮือของคนผิวสีในสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียกร้องสิทธิและความเสมอภาคในสังคม

มัลคอล์ม เอ็กซ์ หรือมัลคอล์ม ลิตเติล เกิดเมื่อปี 1925 ในโอมาฮา รัฐเนบราสกา พ่อแม่ของเขา-เอิร์ลและลูอิส (Earl & Louise Little) มีบทบาททางการเมืองเกี่ยวกับสิทธิของคนผิวดำในองค์กร Universal Negro Improvement Association (UNIA) ตอนมัลคอล์มอายุได้ห้าขวบ พ่อนักเทศน์แบปติสต์ของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ แต่สมาชิกทุกคนในครอบครัวต่างเชื่อว่า มันเป็นการกระทำของกลุ่มคนเหยียดผิว แม่ของมัลคอล์มต้องป่วยด้วยอาการทางจิตอยู่นานหลายปี ก่อนถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดในคลินิก

มัลคอล์มเติบโตขึ้นในครอบครัวอุปถัมภ์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองดีทรอยต์ จนเมื่อย่างเข้าวัยรุ่นเขาก็ย้ายออก มุ่งหน้าไปยังบอสตัน ก้าวเข้าสู่เส้นทางมิจฉาชีพ กระทั่งในปี 1946 เขาก็ถูกจับด้วยข้อหาค้ายาเสพติดและลักทรัพย์ ถูกตัดสินโทษจำคุก 10 ปี

ระหว่างต้องโทษในเรือนจำเขาเริ่มศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง ขะมักเขม้นอ่านหนังสือ โดยเฉพาะวิชาประวัติศาสตร์และปรัชญา นอกจากนั้นเขายังได้รู้จักกับ ‘ชาติอิสลาม’ (Nation of Islam) กลุ่มลัทธิที่เคลื่อนไหวทางศาสนาและการเมือง เผยแผ่ความเหนือชั้นของคนผิวดำ ทำให้เขาปลงใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกในปี 1948

นามสกุลลิตเติลของตนเอง เขาก็ปฏิเสธที่จะใช้เพราะมันถูกตีความเป็นชื่อของทาสตามหลักการของลัทธิ ภายหลังพ้นโทษออกจากคุกในปี 1952 มัลคอล์มกลายเป็นคนใกล้ชิดของผู้นำกลุ่ม-เอลิยาห์ มูฮัมหมัด (Elijah Muhammad) และได้รับนามสกุลใหม่คือ ‘เอ็กซ์’ อันเป็นสัญลักษณ์สำหรับชื่อสกุลแบบแอฟริกันที่แท้จริง ที่บรรดาทาสหลายคนน้อมรับ จากมัลคอล์ม ลิตเติล นับแต่นั้นมาเขากลายเป็น มัลคอล์ม เอ็กซ์

จากความไว้เนื้อเชื่อใจทำให้มัลคอล์มไต่เต้าขึ้นตำแหน่งสูงขององค์กรอย่างรวดเร็ว เขาได้รับการแต่งตั้งเป็น ‘รัฐมนตรี’ ของสำนักฮาร์เล็ม (นครนิวยอร์ก) ซึ่งเป็นชุมชนชาติอิสลามสำคัญแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา มัลคอล์มเดินหน้าทำภารกิจต่างๆ จนเป็นที่รู้จักของสังคมภายนอก

แม้ว่ากลุ่มชาติอิสลามจะมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวด้านสิทธิและความเสมอภาคของคนผิวดำ แต่แนวทางการปฏิบัตินั้นแตกต่างกับการต่อสู้ของนักสิทธิฯ อย่างมาร์ติน ลูเธอร์ คิง (Martin Luther King) ตรงที่กลุ่มชาติอิสลามใช้ความรุนแรงมากกว่าความสันติ และด้วยถ้อยคำการปราศรัยที่ดุเดือด เผ็ดร้อน อย่างในปี 1964 กับการปราศรัย ‘The Ballot or the Bullet’ (บัตรลงคะแนนหรือกระสุนปืน) มัลคอล์มต้องการจะสื่อว่า ในสถานการณ์จำเป็นแอฟโร-อเมริกันควรมีสิทธิ์ใช้ความรุนแรงในการต่อสู้

ช่วงทศวรรษ 1960s สมาชิกของกลุ่มชาติอิสลามมีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 50,000 คน ส่วนใหญ่มาจากชนชั้นล่างของเมืองอุตสาหกรรม สมาชิกบางส่วนก็เป็นกลุ่มคนที่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน สมาชิกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของชาติอิสลามในช่วงเวลานั้นคือ มูฮัมหมัด อาลี (Muhammad Ali) นักมวยรุ่นเฮฟวีเวทในตำนาน

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ระหว่างมัลคอล์มกับผู้นำกลุ่มชาติอิสลามก็เริ่มแย่ลง เอลิยาห์ มูฮัมหมัดไม่ชอบใจที่มัลคอล์มแสดงตัวตนโดดเด่นเกินไปในที่สาธารณะ ฝ่ายมัลคอล์มเองนั้นเริ่มหันออกห่างจากผู้นำทางจิตวิญญาณและการเมืองของเขา ที่ถูกกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์สวาทกับผู้เยาว์โดยไม่ได้แต่งงาน กระทั่งปี 1964 มัลคอล์ม เอ็กซ์จึงผละออกจากกลุ่มชาติอิสลามในที่สุด

ไม่นานจากนั้นเขาก็เดินทางไปแสวงบุญที่เมกกะ และเปลี่ยนมานับถืออิสลามนิกายสุหนี่ สละคำสอนทางศาสนาของเอลิยาห์ มูฮัมหมัดเสียสิ้น ในปีเดียวกันเขายังก่อตั้ง OAAU (Organization of Afro-American Unity) เพื่อติดตามแนวร่วมระหว่างประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันก็พยายามหาทางเข้าร่วมกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชนของมาร์ติน ลูเธอร์ คิง

กลุ่มชาติอิสลามมีความรู้สึกว่ามัลคอล์ม เอ็กซ์ทรยศพวกเขา ระดับผู้นำหลายคนในกลุ่มเคยข่มขู่ต่อสาธารณชนว่าจะเอาชีวิตเขาหลายครั้ง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1965 มีการลอบวางเพลิงที่บ้านของมัลคอล์ม แต่เขาและครอบครัวหลบหนีออกไปได้ทัน ถึงกระนั้นเขาก็ยังไปปรากฏตัวตามที่ต่างๆ เหมือนไม่เกรงกลัว กระทั่งสัปดาห์ต่อมา-วันที่ 21 กุมภาพันธ์-ระหว่างขึ้นกล่าวปราศรัย มัลคอล์ม เอ็กซ์ก็ถูกสมาชิกของชาติอิสลามยิงเสียชีวิต

ภายหลังมัลคอล์ม เอ็กซ์ถูกลอบสังหาร องค์กร OOAU ของเขาก็ลดบทบาทจนสูญหายไป แต่แนวความคิดเกี่ยวกับการป้องกันตนเองของคนผิวดำได้รับการสืบต่อโดย Black Panther Party (for Self-Defense) พรรคชาตินิยมผิวดำที่ก่อตั้งกลุ่มขึ้นในปี 1966 แต่พรรคก็เสื่อมโทรมลงภายในเวลาไม่นาน โดยปราศจากการแทรกแซงของตำรวจและหน่วยสืบราชการลับ รวมถึงกลุ่มชาติอิสลามที่ต้องยุติบทบาทไป เหตุเพราะมีหลักฐานเป็นข้อสงสัยชี้ชัดว่า ผู้นำกลุ่มพัวพันกับการฆาตกรรมมัลคอล์ม เอ็กซ์

“ไม่มีใครหยิบยื่นเสรีภาพให้คุณ” มัลคอล์ม เอ็กซ์เคยกล่าวบนเวทีปราศรัย “ไม่มีใครหยิบยื่นความเสมอภาคหรือความยุติธรรมให้คุณ” เสรีภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรมไม่ใช่ของขวัญ หากแต่เป็นเหยื่อที่ทุกคนต้องล่า

ป้ายขนาดใหญ่ที่มีอักษร X สื่อถึงมัลคอล์ม เอ็กซ์ เคยถูกชูขึ้นเหนือขบวนประท้วงในเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี ตอนปลายฤดูร้อนปี 2014 ผู้คนทั้งผิวขาวและผิวดำพากันลงเดินถนน เรียกร้องความยุติธรรม หลังจากตำรวจผิวขาวนายหนึ่งยิงไมเคิล บราวน์ (Michael Brown) ชายแอฟโร-อเมริกันที่ปราศจากอาวุธ เสียชีวิต

“ไร้ความยุติธรรม ไร้สันติภาพ” สโลแกนของมัลคอล์ม เอ็กซ์ถูกนำมาใช้ครั้งล่าสุด ในการชุมนุมประท้วงความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในมินเนอาโพลิส

มัลคอล์ม เอ็กซ์ ไม่ใช่นักทฤษฎี แต่เขาเป็นนักต่อสู้ เป็นนักปฏิวัติ ชื่อและเรื่องราวของเขายังคงวนเวียนควบคู่กับกระแสโลกตลอดไป ตราบเท่าที่ความเหลื่อมล้ำในสังคมยังคงอยู่ และไม่มีความเปลี่ยนแปลง

อ้างอิง:   

https://www.deutschlandfunk.de/malcolm-x-biografie-die-ikone-lebt-fort.1310.de.html?dram:article_id=311784

https://www.bpb.de/politik/hintergrund-aktuell/201549/1965-ermordung-von-malcolm-x

https://www.zeit.de/kultur/2020-06/malcolm-x-usa-anti-rassismus-demonstration-buergerrechtler-aktivist/komplettansicht

Tags: ,