เรียบง่าย เติบโต เป็นตัวของตัวเอง
หาก 2 อัลบั้มก่อนหน้านี้อย่าง Empathy และ Expectation คือเส้นทางชีวิตที่รายล้อมด้วย ‘กรอบความเป็นไอดอล’ ของ ดีโอ (D.O.) เมนโวคอลคนสำคัญจากวง EXO ซึ่งคนทั่วไปรู้จักเขาในฐานะผู้ชายเคร่งขรึม นิ่งเงียบ และจริงจัง
ประโยคข้างต้นคือคำนิยามสำหรับ Blossom อัลบั้มล่าสุด ที่แสดงให้เห็นถึง ‘การเติบโต’ และ ‘ผลิบาน’ ไปอีกขั้นของ โด คยองซู (Do Kyungsoo) ผู้ชายมากความสามารถที่เป็นทั้งนักร้องเดี่ยว นักแสดงเจ้าบทบาท และเมมเบอร์จากบอยแบนด์ที่ได้รับฉายาว่าเป็นราชาแห่งเคป็อป และ Nation’s Pick แห่งเกาหลีใต้ตลอดกาล
หลังจากบอกลาต้นสังกัดเก่าที่เคยอยู่ร่วมชายคาเป็นระยะเวลา 11 ปีเต็ม และเริ่มต้นใหม่ใน คอมพานีซูซู (Company Soosoo) ต้นสังกัดที่เขาเป็นส่วนหนึ่งในการปลุกปั้น พร้อมให้ ‘สัญญาใจ’ ว่า เขาคือสมาชิกของ EXO ที่ขาดหายไม่ได้สำหรับสมาชิกและกลุ่มแฟนด้อม EXO-L สะท้อนผ่านการเข้าร่วมแฟนมีตครบรอบการเดบิวต์ 12 ปี ครั้งล่าสุดใน 2024 EXO FAN MEETING: ONE ในวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา
วันนี้ โด คยองซู หรือดีโอ EXO กลับมาอีกครั้งกับมุมมองสุดแปลกใหม่ หลากหลาย แต่กลับให้ความรู้สึก ‘คุ้นเคย’ เป็นอย่างดีผ่านผลงานเพลงล่าสุด รวมถึงเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่หลายคนรอคอยอย่าง 2024 DOH KYUNG SOO ASIA FAN CONCERT TOUR <BLOOM> แฟนคอนเสิร์ตในเอเชียครั้งแรกในรอบ 12 ปี ซึ่งหนึ่งในจุดหมายสำคัญยังมีประเทศไทย โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม 2024 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานีอีกด้วย
Blossom from Do Kyungsoo: เติบโตไปพร้อมกันอย่างเจ็บปวดและยากลำบาก เพื่อเบ่งบานในวันข้างหน้า
“ทุกคนย่อมค่อยๆ เติบโตทีละก้าว
เติบโตแม้กระทั่งรู้สึกเจ็บปวด เติบโตแม้จะรู้สึกว่ามันยากลำบาก”
ปกติแล้ว Blossom มีความหมายถึงหมู่มวลดอกไม้ หรือการผลิบาน แต่ในอัลบั้มชุดล่าสุดของคยองซูกลับมีนัยสำคัญในเรื่อง ‘การเติบโต’(หรือคำว่า 성장 ในภาษาเกาหลี) โดยเขาอธิบายเหตุผลเบื้องหลังผ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร Harper’s BAZAAR เกาหลีว่า หากเทียบกับผลงานที่ผ่านมา อัลบั้มชุดแรกอย่าง Empathy (공감) คือเหตุผลในการทำงาน ซึ่งหมายถึงอารมณ์ความรู้สึกในการเห็นหรือฟังสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตสำหรับเขา ขณะที่อัลบั้มชุดที่ 2 อย่าง Expectation (기대) มีนัยสำคัญถึงผู้คนที่มอบความรู้สึกท่วมท้นให้กับเขา เปรียบเสมือนบทเพลงในอัลบั้มชุดนี้ที่เต็มไปด้วยห้วงอารมณ์อันหลากหลาย
แต่สำหรับอัลบั้มชุดที่ 3 การเติบโตคือสิ่งที่คยองซูกำลังเผชิญในขณะนี้ โดยไม่ได้หยุดอยู่แค่ในห้วงเวลาปัจจุบัน แต่ยังรวมถึงอนาคตนับต่อจากนี้ เขาจึงต้องการถ่ายทอดให้เห็นถึงสภาวะดังกล่าว พร้อมทั้งอยากให้ผู้ฟัง ‘เติบโตไปพร้อมกัน’ และรับแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตจากการฟังเพลงทั้งหมด
ทว่าในมุมของผู้ชายคนนี้ นิยามของคำว่าเติบโตไม่ได้มีด้านสวยงามเสมอไป แต่มันกลับแฝงด้วยความเจ็บปวดและยากลำบาก ที่ใครหลายคนไม่ได้สนใจเท่า ‘ความสำเร็จเบื้องหน้า’ ซึ่งไม่ต่างจากชีวิตของเขาในวงการบันเทิงร่วม 12 ปี ที่ต้องผ่านบทพิสูจน์ตนเองและฝ่าฝันอุปสรรคมากมาย จนสามารถยืนบน ‘ยอดพีระมิด’ ของการเป็นทั้งไอดอลและนักแสดงอย่างไร้ข้อกังขา
อย่างไรก็ตาม เมนโวคอลเสียงดีจาก EXO ขยายความต่อว่า เขาเป็นคนหนึ่งที่ชอบอะไรสงบเรียบง่าย ไม่ฉูดฉาด หรือเล่นใหญ่เกินไป ดังนั้นอัลบั้มชุดนี้จะเน้นบทเพลงที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย ค่อนข้างยากที่จะตีความ แต่ไร้กาลเวลา สามารถเข้าใจหรือฟังได้ตลอดกาล
“ผมชอบเนื้อเพลงหรือคำที่กินใจ และทำให้ผมรู้สึกว่า อ่า นี่สินะ” เขาอธิบาย
สำหรับในอัลบั้ม Blossom ประกอบด้วย 6 บทเพลง โดยมีเพลงไตเติลอย่าง Mars และเพลง Pre-Release คือ Popcorn ตามมาด้วยอีก 4 บทเพลง B-Side ได้แก่ Simple Joys, Good Night, My Dear, About Time
1
Mars
“ถ้าผมได้เจอคุณในครั้งต่อไป
หวังว่าเราจะไม่แตกต่างเสียจนเกินไป
ผมอยากอยู่ใกล้คุณมากกว่านั่งเฝ้ากังวล
หรือบางทีผมอาจติดอยู่บนดาวอังคาร”
Mars เป็นเพลงไตเติลสไตล์ป็อป มีลายเซ็นความเป็นคยองซูด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกฟังง่ายสบายเหมือนอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ โดยเนื้อหาหลักพูดถึงความรักของผู้ชายและผู้หญิงที่แตกต่างกันสุดขั้วเหมือนอยู่ดาวคนละดวง
ในฐานะ EXO-L คนหนึ่ง หลังจากได้ฟังเพลงนี้ ผู้เขียนสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า นี่คือการเติบโตที่แสนเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยของผู้ชายที่ชื่อโด คยองซู อีกทั้งยังเข้าใจได้ทันทีว่า ความสงบเรียบง่ายในความหมายของเขาเป็นอย่างไร
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะรูปภาพ ทีเซอร์ และมิวสิกวิดีโอของ Mars ให้ความรู้สึกเหมือน Rose เพลงไตเติลใน Empathy อัลบั้มชุดแรกไม่น้อย ทั้งเรื่องราวการเล่นกับ ‘ดอกไม้’ หรือ ‘จักรยานคู่ใจ’ พร้อมด้วยบรรยากาศความสดใสที่แทรกซึมไปด้วยความอบอุ่นบางอย่าง
ทว่า Mars ก้าวไปอีกขั้น ทั้งในบทเพลงที่โตขึ้น และการแปรเปลี่ยนภาพจำหนุ่มน้อยนิ่งเงียบที่ดูบริสุทธิ์ในวันนั้น ให้กลายเป็นผู้ชายธรรมดาที่มีมุมขี้เล่นและทะเล้นในฐานะโด คยองซู ซึ่งเป็นภาพจำแสนคุ้นเคยของ EXO-L มากกว่าภาพลักษณ์ของไอดอลที่ถูกสร้างขึ้น พร้อมด้วยสตอรีไลน์ที่น่าสนใจ ทำเอาใครหลายคนสร้างทฤษฎี เชื่อมโยงเนื้อหาในมิวสิกวิดีโอกับ ‘จักรวาลพลังพิเศษ’ ของ EXO อยู่ไม่น้อย
2
Popcorn
“เหมือนกับวันแรกของเรา
ผมยังรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่พบคุณ
จนหัวใจเกือบลืมเต้นไปเลย
ผมตื่นเต้นราวกับป็อปคอร์นที่พุ่งออกมา”
Popcorn เป็นเพลงแนวป็อปอะคูลสติกที่ยังคงเอกลักษณ์ฟังง่ายสบายหูเหมือนเดิม โดยมีเนื้อหาพูดถึงการตกหลุมรักใครสักคน และเปรียบเทียบอาการใจเต้นกับ ‘ป็อปคอร์น’
นอกจากบทเพลงที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นสนุกสนาน โปรดักชันจัดเต็ม โดยเฉพาะวิชวลเอฟเฟกต์ที่มาจาก Dexter Studio ซึ่งเคยร่วมงานกับคยองซูในภาพยนตร์ The Moon (2023)
เซอร์ไพรส์อีกอย่างหนึ่งของ Popcorn คือ ‘ท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์’ ที่สลัดภาพลักษณ์เงียบขรึมของ ดีโอ EXO บนหน้าสื่อออกอย่างหมดจด ทำเอาผู้เขียนนึกถึง ‘ท่าเต้นยุง’ สุดไวรัลของ อี กวางซู (Lee Kwang-soo) นักแสดงชื่อดังและอดีตสมาชิกรายการ Running Man ผู้เป็นพี่ชายคนสนิทของคยองซูในชีวิตจริง
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดสำหรับ EXO-L แต่อย่างใด เพราะทุกคนรู้ว่า คยองซูเป็นสมาชิกที่ได้คำนิยามว่า แสบ ขี้เล่นและสดใสคนหนึ่งในวง ซึ่งการันตีโดย แบคฮยอน (Baekhyun) เมนโวคอลร่วมวง และ CEO ป้ายแดงจากไอแอนด์บีแพค (INB100) ที่โพสต์ข้อความเอ่ยชมสมาชิกบนแอปพลิเคชัน X
“คยองซูเจ๋งมาก 55555 ไม่สิ เอ็มวีตลกมาก นี่สิ! นี่คือคยองซูที่ผมอยากเห็น”
ในอีกมุมมองของผู้เขียน Popcorn จึงเปรียบเสมือนการปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงของคยองซูออกมา เช่นเดียวกับป็อปคอร์นที่สุก และระเบิดโบยบินออกมาอย่างเป็นอิสระ ไร้การควบคุมแต่อย่างใด
3
Simple Joys
“แม้แต่ความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ทำให้ผมมีความสุขอะไรเช่นนี้
วันเวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน
ผมแทบไม่เคยรับรู้โดยไร้ความสบายใจเลย”
Simple Joys เป็นเพลงแนวโฟล์ก สอดแทรกจุดเด่นด้วยเครื่องดนตรีอย่างฟลุต (Flute) และพูดถึงการเติบโตและก้าวข้ามอุปสรรค ด้วยความสุขเล็กน้อยในแต่ละวัน ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางทุ่งหญ้าและดอกไม้ที่ไหวปลิว
อันที่จริง ผู้เขียนชอบเพลงนี้เป็นอันดับต้นในอัลบั้มเป็นการส่วนตัว เพราะ ‘ความน้อยแต่มาก’ ท่ามกลางเคป็อปที่เน้นความหวือหวา แต่ Simple Joys กลับให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายสมอง ประกอบกับน้ำเสียงของคยองซูทำให้ทุกอย่างดูลงตัว ราวกับว่า เพลงนี้แต่งมาเพื่อเขาคนเดียว
4
Good Night
“ค่อยๆ หลับตาลง
หยุดกังวลในเรื่องของวันพรุ่งนี้
หากอะไรจะเกิดขึ้น จะขอให้ฉันในวันพรุ่งนี้จัดการเสีย
ยังหยุดเดินไม่ได้ แม้จะหลงทางในยามใกล้รุ่ง”
เห็นได้ชัดว่า 3 เพลงก่อนหน้านี้ให้ความรู้สึกสนุกสนาน เบาสบาย ขณะที่ Good Night แปรเปลี่ยนอารมณ์ดังกล่าวไปสู่ความจริงจังมากขึ้น ด้วยการปลอบโยนการใช้ชีวิตจากความเครียดและความกังวลในการใช้ชีวิตวันต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการเติบโตในอัลบั้ม และเป็นจุดประสงค์ของคยองซูในการให้กำลังผู้ฟัง
5
My Dear
“ได้โปรดมาหาผมเถอะ ยังไม่สายเกินไปที่จะอยู่ข้างกัน
เพื่อที่ผมจะเติมเต็มสัญญาที่เคยมอบให้
ผมอยากจับมือของคุณและบอกว่า
จากวันนี้จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
ผมจะเป็นของคุณ หนึ่งเดียวของคุณ”
หาก My Love ในอัลบั้ม Empathy และ I Do จากอัลบั้ม Expectation คือเพลงรักโรแมนติกชนิด ‘หวานเจี๊ยบ’ จนไม่ต้องเติมน้ำตาล My Dear คือคู่แข่งตัวเต็งในด้าน ‘ความคลั่งรัก’ ที่แสดงออกผ่านคำสารภาพอันจริงใจพร้อมสัญญาว่า จะไม่ปล่อยมืออีกฝ่ายแม้แต่วันสุดท้ายของชีวิต
นอกจากน้ำเสียงแสนหวานที่เปลี่ยนอารมณ์จาก 4 เพลงที่ผ่านมา บทเพลงนี้ยังถูกกล่อมเกลาให้อ่อนโยนขึ้นด้วยกีตาร์อะคูสติก และให้ความรู้สึกเหมือนกับดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่มีตอนจบสวยงาม
ที่มา: Company Soosoo
6
About Time
“ทำไมผมถึงสำนึกได้ เมื่อเสียบางอย่างล้ำค่าไปแล้ว
ในตอนสุดท้าย ผมได้แต่คิดถึงในสิ่งที่คุณเคยทำ
เมื่อเราปล่อยมือออกจากกันแล้ว
คุณในวันวานคือผมวันนี้
ได้โปรดกลับมาหาผมอีกครั้ง”
ปิดท้ายด้วย About Time เพลงบัลลาดสุดเศร้าและขมที่สุดในอัลบั้มชุดนี้ บทเพลงถ่ายทอดความเสียใจของผู้ชายคนหนึ่งต่อการเลิกรากับคนรัก เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ใส่ใจเธอเท่าที่ควร สุดท้าย เขาได้แค่คร่ำครวญเรื่องราวดีๆ ในอดีตเสียแทน
มากกว่าการถ่ายทอดอารมณ์สะเทือนใจของบทเพลง คยองซูเผยศักยภาพอันเป็นที่ประจักษ์ผ่านเสียงร้องและเทคนิคเฉพาะ ทั้งจากการร่ำเรียนกับ ยู ยองจิน (Yoo Young-jin) โปรดิวเซอร์บรมครูของ SM Entertainment และประสบการณ์ 12 ปี จากการเป็นเมนโวคอลของ EXO ที่การันตีคุณภาพในการแสดงสด โดยเฉพาะการร้องมาโดยตลอด
ทว่าที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า คยองซูไม่มีโอกาส ‘ฉายแสง’ เท่าที่ควรในงานเดี่ยว ทั้งในสายตาคนนอกหรือ EXO-L ก็ตาม ทั้งหมดนี้สะท้อนผ่านปฏิกิริยาหลากเสียง เมื่อเขาร้องเพลง Rewrite the Stars คู่กับ ซูฮยอน (Suhyun) จาก AKMU ในช่วงเดือนกันยายน 2023
‘เก่งมาก อยากให้น้องได้ร้องเพลงมากกว่านี้’
‘โด คยองซูร้องเพลงเก่งจริงๆ เขาร้องเพลงได้ดีสุดๆ น้ำเสียงเขาไม่มีอะไรขัดหูเลย ฉันหยุดดูไม่ได้’
‘คยองซูมีทักษะที่เจ๋งจริงๆ ไม่ว่าจะร้องเพลงหรือทำอย่างอื่น แต่เขาไม่เคยโอ้อวดหรือแสดงออกมาเลย ในอีกแง่ ก็เป็นเรื่องที่ดีที่ทุกคนทึ่งเพราะความสามารถของเขา’
เหล่านี้คือคอมเมนต์บนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับผ่านบทสัมภาษณ์ล่าสุดว่า เขาไม่มีโอกาสอยู่บนเวทีคนเดียวเท่าที่ควร จึงรู้สึกประหม่ามาก เมื่อต้องจัดแฟนคอนครั้งแรก แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ท้ายที่สุด แม้ว่าอัลบั้มชุดนี้จะเต็มไปด้วยข้อขัดข้องบางอย่าง โดยเฉพาะการโปรโมตที่ถือว่า ‘ติสต์’ อยู่พอสมควร และสามารถ ‘ต่อยอด’ ให้เป็นที่นิยมในวงกว้างได้มากกว่านี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Blossom คือเครื่องยืนยันศักยภาพที่ไม่มีวันสิ้นสุดของผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าจะในบทบาท ดีโอ EXO หรือโด คยองซูก็ตาม
อ้างอิง
https://twitter.com/GMMSHOW_th/status/1783330284743852106
https://twitter.com/dyonigiri/status/1787713863674376280
https://twitter.com/EXOnaverTrans/status/1784050358635188637
https://twitter.com/dokkyungs/status/1781290785004228908
Tags: คอนเสิร์ต, Company Soosoo, EXO, เอ็กโซ, ดีโอ, EXO-L, Expectation, Empathy, K-Pop, คยองซู, เกาหลีใต้, Blossom, เกาหลี, โดคยองซู