วัฒนธรรมการจิบน้ำชายามบ่ายดูจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนไทยอีกต่อไป ระยะหลัง โรงแรมและร้านชาต่างสร้างสรรค์ชุดน้ำชายามบ่ายกันอย่างสุดฝีมือ

ส่วนหนึ่งการจิบน้ำชายามบ่ายดูจะเป็นทางเลือกที่ดีเวลานัดเพื่อนฝูงมานั่งคุย หรือจะนัดทางการสำหรับประชุมนอกสถานที่ เพราะภายใต้ชุดน้ำชายามบ่าย มีทั้งของคาวและของหวานขนาดพอดีคำ ไม่ถึงขนาดเป็นมื้อหนัก และสามารถนั่งทานกันได้หลายคน

ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ เรานึกถึงชุดน้ำชายามบ่ายของ อัพ แอนด์ อะบัฟ บาร์ (Up & Above Bar) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ที่มาในธีม ‘ซากุระ’ ซึ่งถ่ายทอดความงดงามของดอกซากุระสีชมพูอ่อนหวานผ่านของคาวและของหวานหลายชนิด

ชุดน้ำชาซากุระจัดต่อเนื่องมา 5 ปีที่แล้ว (เริ่มปีแรกคือปี 2557) โดยแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชุดน้ำชามาจากดอกซากุระที่จะเบ่งบานไปทั่วญี่ปุ่นในช่วงเวลาเดียวกัน  โดยเชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastian Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวขนมหวานชาวดัตช์ ได้นำสีชมพูอ่อนหวานของกลีบดอกซากุระและดอกซากุระจริงๆ มาใช้ในการทำขนมสำหรับชุดน้ำชานี้ด้วย นอกจากนี้ยังเลือกใช้โทนสีฟ้ามาตัดกับสีชมพู จากสีของท้องฟ้าอันสดใสในช่วงดอกซากุระเบ่งบานในประเทศญี่ปุ่น

สำหรับปีนี้หน้าตาของชุดน้ำชาซากุระจะเสิร์ฟมาในกล่องไม้สีขาวดูหรูหรา หน้าตาโดยรวมของชุดน้ำชาซากุระนี้ค่อนข้างสวยงาม โดยของคาวจะแยกไว้ในลิ้นชักข้างล่าง ส่วนของหวานจะวางเรียงอยู่ด้านบน เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะเริ่มจากชิ้นไหนก่อน

แต่ถ้าเริ่มจากของคาวก่อนก็ดีไม่น้อย แนะนำคำแรกเป็นทาร์ทาร์หอยเชลล์ย่างกับเห็ดใส่น้ำส้มสายชูบัลซามิกที่เคี้ยวหนึบช่วยสร้างความสดชื่นและเปิดรสสัมผัสไปสู่คำอื่นที่ดี ตามด้วยปลาทูน่าตาตากิกับสลัดสาหร่ายวากาเมะโรยด้วยพริกไทยดำ เราจะได้กลิ่นความสดของปลาทูน่าและความหอมของพริกไทยดำ รสชาติจะออกเผ็ดเล็กน้อย ต่อมาลองเป็นแซนด์วิชขนมปังไรย์ไส้ปูอัดกับอะโวคาโด ความลงตัวของทั้งสามอย่าง อาจจะทำให้เราเผลออยากสั่งมาเพิ่มอีกเป็นได้ 

อิ่มของคาวไปพอประมาณแล้ว ก็ถึงเวลาลิ้มลองของหวาน และอย่างที่บอกไว้แต่แรกว่าความพิเศษคือเชฟเซบาสเตียนได้นำดอกซากุระมาใช้เป็นส่วนประกอบและให้เราทานได้จริง เริ่มที่คัสตาร์ดกลิ่นซากุระ ความนุ่มของเนื้อคัสตาร์ดสีชมพูช่างเข้ากับวุ้นใสวุ้นรูปทรงหยดน้ำ ภายในประดับด้วยดอกซากุระจริง ซึ่งเป็นดอกซากุระดองเกลือนำเข้าจากญี่ปุ่น

แยมโรลรสยูซุกลิ่นดอกซากุระ เมนูนี้ก็ไม่เบา เพราะยูซุจะให้ความสดชื่น หรือจะลิ้มลองเค้กราสเบอร์รี่ ที่มีดอกซากุระวางอยู่บนหน้าเค้กก็ได้อยู่ เพราะเค้กมีความนุ่มและหวานกำลังดี ขณะที่โมจิไส้ถั่วแดงก็ดีงามไม่แพ้กัน 

ขึ้นชื่อว่าเป็นชุดน้ำชายามบ่ายจะขาดมาการองไปได้อย่างไร มารากองพิมพ์ลายดอกซากุระในชุดนี้มีไส้ช็อกโกแลตทรัฟเฟิล ที่ทางเชฟได้นำยูซุมาผสมทำเป็นครีมสอดไส้เพื่อตัดรสหวาน และอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เห็นจะเป็นสโคนที่อบสดใหม่ทุกวัน แต่งหน้าด้วยดอกซากุระ ยิ่งทานคู่กับชามาคิยาจ แฟรส์ (Mariage Frères) หนึ่งในชาที่ดีที่สุดของโลกจากฝรั่งเศส รับรองว่าไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว

ส่วนเครื่องดื่มประจำหน้าร้อนนี้ก็คงเน้นไปที่สร้างความสดชื่นและคงคอนเซ็ปต์ของเทศกาลดอกซากุระ ทุกรายการล้วนมีสีชมพูหวาน เริ่มที่ซากุระ 75 (Sakura 75) เครื่องดื่มที่มีดีกรีความแรงจากบีฟีตเจอร์จิน (Beefeater London Gin) กับแชมเปญพอลโรเจอร์ (Pol Roger Champagne) ผสมน้ำเชื่อมกลิ่นซากุระ และน้ำมะนาว ตกแต่งด้วยผลเชอร์รี่สด

หรือจะลองแนวคลาสสิกอย่างซากุระ โอเรียนทอล โทนิค (Sakura Oriental Tonic) เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบเป็นเหล้าจินญี่ปุ่นสุดคลาสสิกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยให้ได้รสชาติจากดอกซากุระที่ปลายลิ้น ส่วนก็ใช้ของดีนำเข้าจากเมดิเตอร์เรเนียน (Fever Tree Mediterranean) น้ำเชื่อมกลิ่นกุหลาบ พร้อมกับตกแต่งด้วยอบเชยแห้ง ถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นในหน้าร้อนได้อย่างดี

นอกจากนั้นยังมีซากุระ รอยัล (Sakura Royale) ค็อกเทลยอดนิยมที่มีส่วนผสมของแชมเปญ หรือซากุระ มาตินี (Sakura Martini) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสาเก เหล้าเชอร์รี่ และจิน

แต่ถ้าใครไม่ใช่สายแอลกอฮอล์ ก็แนะนำเป็นซากุระ คลาวด์ (Sakura Cloud) หน้าตาของแก้วนี้เหมือนกับมีก้อนเมฆสีขาวลอยอยู่ที่ปากแก้ว มีส่วนผสมเป็นน้ำสัปปะรดและน้ำส้มยูซุ แต่งหน้าด้วยโฟมไข่ขาวผสมน้ำเชื่อมกลิ่นซากุระและดอกไม้สีชมพูสวยหวาน รสชาติจะออกเปรี้ยมอมหวาน

ตัวต่อมาเป็นซิมพลี ซากุระ (Simply Sakura) เน้นความเรียบง่าย ส่วนประกอบไม่ซับซ้อน มีแค่เนื้อเชอร์รี่กับน้ำส้มยูซุ และเติมโซดาลงไปหน่อยเพื่อความซ่า รสชาติของตัวนี้จะได้ความเปรี้ยวจากน้ำส้มยูซุ และมีเนื้อเชอร์รี่ให้เคี้ยวเพลินๆ  และสุดท้ายเป็น เดอะ บลอสซั่ม (The Blossoms) ที่ใช้เนื้อเชอร์รี่อีกเช่นกัน เพิ่มความเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว และความหวานเผ็ดจากน้ำเชื่อมพริกไทย นับเป็นแก้วที่มีรสชาติแปลกดีไม่น้อย

Fact Box

  • ชุดน้ำชายามบ่าย ‘ซากุระ’ ถือเป็นชุดน้ำชาชุดพิเศษที่ให้บริการเพียงสามเดือนจนถึง 30 มิถุนายน 2561 ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ซึ่งก็จะอิงตามสีสันของฤดูกาลในประเทศญี่ปุ่น
  • มีให้บริการเป็นประจำทุกวันเวลา 14.00 น. - 17.00 น. ระหว่างวันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2561 เท่านั้น ราคาชุดละ 1,190++ บาท ราคารวมเครื่องดื่มชาหรือกาแฟสำหรับสองท่าน นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรับประทานชุดน้ำชายามบ่ายคู่กับ สปาร์คกลิ้งสาเก (250 มิลลิลิตร) หรือไวน์โพรเซคโค (2 แก้ว) ได้ในราคาชุดละ 1,690++ บาทหรือรับประทานชุดน้ำชายามบ่ายนี้กับแชมเปญ (2 แก้ว) ราคาชุดละ 2,750++ บาท
  • เมนูเครื่องดื่มสีชมพูต้อนรับเทศกาลดอกซากุระบานที่ประเทศญี่ปุ่น มีให้บริการทุกวัน ที่อัพ แอนด์ อะบัฟ บาร์ เช่นกัน และมีไปจนถึงถึง 30 มิถุนายน 2561 เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 7.00 น. – ตี 1 เครื่องดื่มค็อกเทลราคาแก้วละ 350++ บาท ส่วนเครื่องดื่มม็อกเทล ราคาแก้วละ 250++ บาท
  • เชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวขนมหวาน (Executive Pastry Chef) ชาวดัตช์ มีประสบการณ์ด้านการทำขนมและช็อกโกแลตในโรงแรมหลายแห่ง ทั้งที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจย้ายมาที่ประเทศไทยในปี 2553  
  • สำหรับผู้ที่สน ใจชุดน้ำชายามบ่าย ‘ซากุระ’ และเครื่องดื่มสีชมพูมีให้บริการที่อัพ แอนด์ อะบัฟ บาร์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสำรองที่นั่ง โทร. 0-2687-9000 หรือ [email protected]
Tags: , , , , ,