วันนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2566) ที่รัฐสภา รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวเปิดเผยหลักฐานเพิ่มเติม สืบเนื่องจากการอภิปรายทั่วไปเปิดโปงกรณี ‘ไทยดำ-จีนเทา’ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 หลัง อุปกิต ปาจรียางกูร หรือที่รังสิมันต์ระบุว่าเป็น ‘ส.ว.ทรงเอ’ ไหวตัว ออกมาชี้แจงหลักฐานว่าตนไม่มีส่วนยุ่งเกี่ยว ก่อนยื่นฟ้องโรมในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมเรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 รังสิมันต์ได้อภิปรายในที่ประชุมว่า อุปกิตเคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการของบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป จำกัด (Allure Group) บริษัทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการฟอกเงินของ ทุน มิน ลัต (Tun Min Latt) นักธุรกิจชาวเมียนมา โดยดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2542 แม้ว่าตามสัญญาที่เซ็นร่วมกับกรมโรงแรมและการท่องเที่ยวของเมียนมาระบุไว้ว่า Allure Resort จะดำเนินการเป็นธุรกิจโรงแรม แต่เป็นที่รู้กันว่ากิจการแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองท่าขี้เหล็ก ชายแดนเมียนมาที่ติดกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายนั้น แท้จริงแล้วเป็นคาสิโนที่เปิดขึ้นเพื่อดึงดูดนักธุรกิจชาวไทยให้มาเล่นการพนันโดยเฉพาะ

ต่อมา เมื่อทุน มิน ลัต ถูกจับพร้อมกับลูกเขยและเลขานุการส่วนตัวของอุปกิตเอง เขารีบออกมาชี้แจงว่าได้ขายหุ้นและลาออกจากตำแหน่งกรรมการของ Allure Group และ Myanmar Allure แล้วตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนรับตำแหน่ง ส.ว. นอกจากนี้ยังขายกิจการ Allure Resort ไปแล้วด้วย โดยได้ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านรังสิมันต์และพรรคก้าวไกลจึงได้จัดการแถลงข่าวในวันนี้ขึ้น เพื่อย้ำเตือนถึงประเด็นการฟอกเงินผ่านการซื้อไฟฟ้าส่วนภูมิภาคของไทยไปขายในเมืองท่าขี้เหล็ก อภิปรายหลักฐานเพิ่มเติม และโต้แย้งคำอ้างของอุปกิตที่ว่าได้ขายหุ้นขายโรงแรมไปแล้วก่อนขึ้นดำรงตำแหน่ง ส.ว. ว่าจริงเท็จอย่างไร

รังสิมันต์ยังได้กล่าวถึงหนึ่งในเอกสารที่อุปกิตยื่นประกอบบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. คือเอกสารสัญญาซื้อขายอาคารและกิจการโรงแรม ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 เนื้อหาสัญญาระบุว่าอุปกิตซึ่งเป็นผู้ขาย ทำสัญญากับ ชาคริส กาจกำจรเดช ซึ่งเป็นผู้ซื้อว่าตกลงซื้อขายอาคาร กิจการ และสิทธิการใช้ประโยชน์บนที่ดินโรงแรม ในราคา 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมแนบสำเนาหนังสือรับรองจากธนาคาร B.I.C. (CAMBODIA) BANK PLC. รับรองบัญชีธนาคารดังกล่าวว่ามีเงินจำนวนเดียวกันถูกฝากเข้าบัญชีส่วนตัวของอุปกิต

ข้อสังเกตที่ไม่ชอบมาพากลของรังสิมันต์ที่มีต่อเอกสารฉบับนี้ คือโดยปกติหากจะทำการขายธุรกิจโรงแรมให้เจ้าของกิจการใหม่เข้ามาดำเนินการแทน อุปกิตก็ควรจะขายหุ้นของตัวเองที่ถือสิทธิและหน้าที่ในโรงแรมให้กับชาคริส และต้องทำสัญญาขึ้นในนามของบริษัท แต่สัญญาฉบับดังกล่าวกลับมีลักษณะเป็นสัญญาในนามบุคคลธรรมดา 2 คน ไม่ใช่นิติบุคคล และไม่ได้เป็นสัญญาเพื่อซื้อขายหุ้นของบริษัท แต่เป็นการซื้อตึกโรงแรม กิจการโรงแรม และสิทธิใช้ประโยชน์บนที่ดินโรงแรม นั่นหมายความว่าสิทธิในโรงแรม Allure Resort จะต้องตกเป็นของบุคคลธรรมดาเพียงคนเดียวคือชาคริส ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ หากย้อนดูเนื้อหาหนังสือรับรองของ B.I.C. (CAMBODIA) BANK PLC. แม้จะมีการรับรองว่ามีเงินฝากเข้ามาจริงๆ แต่ไม่ได้ระบุที่มาของเงินว่ามาจากชาคริสจริงหรือไม่ อีกทั้งหลังการสืบสวนสอบสวนคดียาเสพติดและการฟอกเงินที่เกี่ยวข้อง ชาคริสได้ให้การว่าตนไม่ได้มีการทำสัญญาซื้อขายกับอุปกิตจริง แม้จะเคยมีการพูดคุยกัน แต่ตนไม่มีเงินมากพอจะซื้อกิจการดังกล่าว อีกทั้งตนยังคงได้รับส่วนแบ่งตามจำนวนที่ถือหุ้น 15% เป็นเงินจำนวน 39,750,000 บาท หลังอุปกิตขายกิจการให้กับ พันณรงค์ ขุนพิทักษ์ 1 ใน 3 เจ้าพ่อพนันออนไลน์รายใหญ่ของไทย ในราคาประมาณ 300 ล้านบาท

“เนื้อหาคำให้การของชาคริสครั้งนี้ เป็นการบอกว่าสัญญาซื้อขายโรงแรมกับชาคริสที่อุปกิตนำมายื่นต่อ ป.ป.ช. นั้น เป็นสัญญาปลอม ถามว่าชาคริสให้การเท็จต่อตำรวจหรือไม่ ผมคิดว่าถ้ามีการซื้อขายเกิดขึ้นจริง ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาโกหกว่าไม่ได้ซื้อ” รังสิมันต์กล่าว พร้อมชี้ชวนให้ประชาชนร่วมกันตั้งคำถามถึงที่มาของรายได้ที่เข้าบัญชีกัมพูชาของอุปกิตกว่า 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และย้ำว่าการกระทำเช่นนี้แสดงถึงเจตนาที่จะปกปิดที่มาที่แท้จริงของทรัพย์สิน มีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการปราบปรามทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 และในมาตรา 114 ประกอบมาตรา 81 ซึ่งกำหนดให้ ป.ป.ช. เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยด้วย หากผิดจริง อุปกิตจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ว. ถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุด 10 ปี

โดยรังสิมันต์กล่าวปิดท้ายแถลงว่าตนจะยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ภายในสัปดาห์นี้ พร้อมตั้งคำถามไปถึงหน่วยงานตำรวจ 3 ข้อ คือ

1. ขอถามไปยังผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม ในฐานะพนักงานสอบสวนระดับสูงสุด ว่าหลังจากตนเปิดหลักฐานไปหมดแล้ว ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับอุปกิต

2. ถ้าข้อเท็จจริงชี้ว่าทรัพย์สินต่างๆ ของอุปกิตได้มาจากการฟอกเงิน หรือกระบวนการผิดกฎหมายรูปแบบอื่นๆ จะต้องมีการยึดอายัดทรัพย์สินเหล่านั้นตามหลักปฏิบัติ ตำรวจจะกล้ายึดอาคารและที่ดิน ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่

3. ข้อสุดท้าย ถามไปยัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจว่าทำไมตำรวจที่รับผิดชอบคดีจับกุมทุน มิน ลัต จึงถูกย้าย เป็นเพราะพลเอกประยุทธ์เองก็รู้ตัวใช่หรือไม่ว่าตนอาจหนีความรับผิดชอบไม่ได้

ภาพ: พรรคก้าวไกล

Tags: , , ,