เมื่อวานนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2024) ประชากรในกรุงปารีสลงประชามติเห็นชอบให้เก็บค่าจอดรถ SUV (Sports Utility Vehicles) 3 เท่า โดยให้เหตุผลว่า เป็นก้าวแรกในการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศและภาวะโลกรวน (Climate Change) ท่ามกลางการจับตามองของประเทศในยุโรป
ทั้งนี้ ผลประชามติดังกล่าวมีผู้เห็นชอบ 54.6% และกฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2024 โดยมีรายละเอียดสำคัญว่า ค่าจอดรถ SUV หรือรถกระบะประเภท 4×4 อยู่ที่ 18 ยูโร (ประมาณ 690 บาท) ในบริเวณพื้นที่หลักของกรุงปารีส
ขณะที่พื้นที่อื่นๆ บริเวณรอบนอกกรุงปารีสจะคิดราคาที่ 12 ยูโร (ประมาณ 461 บาท) และค่าจอดรถอาจพุ่งสูงที่ 75-255 ยูโร (ประมาณ 2,884-9,808 บาท) ในกรณีที่จอดรถถึง 6 ชั่วโมง
นอกจากนี้ การขึ้นค่าจอดรถยังรวมถึงกรณีอื่นๆ ได้แก่ รถที่น้ำหนักมากกว่า 1.6 ตัน ใช้เครื่องยนต์ประเภทสันดาป (Combustion Engine) หรือไฮบริด (Hybrid Vehicles) รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicles)
อย่างไรก็ตาม มาตรการขึ้นค่าจอดรถนี้จะไม่รวมพื้นที่พักอาศัยของประชากรในกรุงปารีส และรถ SUV ขนาดเล็ก เช่น เรโนลต์แคปตูร์ (Renault Captur) หรือเปอโยต์ 2008 (Peugeot 2008) รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส
แคมเปญดังกล่าวเกิดขึ้นจากการสนับสนุนของ แอนน์ ไฮดาลโก (Anne Hidalgo) นายกเทศมนตรีหญิงแห่งกรุงปารีสจากพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส (Socialist Party) เธอเป็นผู้ขึ้นชื่อในการรณรงค์ประเด็นสิ่งแวดล้อมของฝรั่งเศส นับตั้งแต่นโยบายการสั่งห้ามเครื่องยนต์ดีเซล การสร้างทางปั่นจักรยาน 84 กิโลเมตรในปี 2022 รวมถึงการผลักดันให้ประชากรใช้จักรยานซึ่งเพิ่มขึ้นสูงถึง 71% หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปี 2023
ก่อนหน้านี้ ไฮดาลโกเคยรณรงค์ลดจำนวนรถ SUV ด้วยการขึ้นค่าจอดรถ โดยระบุว่า เป็นการสร้างความยุติธรรมให้กับสังคมในรูปแบบหนึ่ง และมีกลุ่มเป้าหมายเจาะจงไปที่เศรษฐีผู้มีอันจะกินที่ใช้รถราคาแพง แต่ปล่อยมลพิษและไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ตามรายงานของเลอมงด์ (Le Monde) และสื่อฝรั่งเศส รถ SUV มีสัดส่วนยอดขายที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมถึงฝรั่งเศสประมาณ 47% แต่ข้อวิจารณ์ที่ตามมา คือการก่อมลพิษสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 20% ด้วยขนาดที่ใหญ่และน้ำหนักเยอะ
“ชาวปารีสตัดสินใจแล้ว เมืองอื่นๆ ควรเดินตามรอยปารีส” ไฮดาลโกแสดงความคิดเห็นต่อผลประชามติ แม้ว่ามีผู้มาใช้สิทธิเพียง 5.7% ของประชากรผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดก็ตาม ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขที่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมคาดการณ์ไว้
“คุณจำเป็นต้องใช้รถ SUV ในปารีสหรือ? ฉันพาลูกมาลงคะแนนด้วยจักรยาน เราหาทางออกได้แล้ว” จูเลียต บรูเลย์ (Juliette Bruley) ประชากรชาวปารีสผู้มีสิทธิออกเสียง แสดงความคิดเห็นกับรอยเตอร์ (Reuters) ในคูหาย่านมงต์มาตร์ (Montmartre)
ด้าน ดาวิด เบลลิอารด์ (David Belliard) รองนายกเทศมนตรีกรุงปารีส ระบุว่า นโยบายการขึ้นค่าจอดรถจะกระทบผู้ใช้รถยนต์ถึง 10% ในกรุงปารีส แต่เทศบาลอาจทำรายได้ถึง 35 ล้านยูโรต่อปี (ประมาณ 1,300 ล้านบาท)
เช่นเดียวกับ คริสตอฟ เบชู (Christophe Béchu) รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมฝรั่งเศสแสดงความคิดเห็นผ่านอาร์เตแอล (RTL) เครือข่ายวิทยุฝรั่งเศสว่า มาตรการดังกล่าวคือค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อม และทำให้ประชาชนเปลี่ยนใจไปเลือกใช้ยานยนต์ที่มีน้ำหนักเบากว่า
อย่างไรก็ตาม 40 millions d’automobilistes กลุ่มผู้ใช้ยานยนต์ในฝรั่งเศสไม่เห็นด้วยกับนโยบายข้างต้น โดยระบุว่า นโยบายดังกล่าวเป็นการฟอกเขียว ประชาชนมีสิทธิเลือกประเภทรถยนต์ตามที่พวกเขาต้องการใช้ และการขึ้นค่าจอดรถเป็นนโยบายไม่ยุติธรรม แต่ถูกเสนอโดยผู้ต่อต้านการใช้รถและนิยมความเป็นเมืองอย่างสุดโต่ง
อ้างอิง
Tags: สิ่งแวดล้อม, มลพิษทางอากาศ, France, ประชามติ, ปารีส, ฝรั่งเศส