วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2565) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวในงานเสวนา ‘เลือกตั้งครั้งต่อไป ประเทศไทยเอาไงต่อ?’ ว่าเขาและพรรคเพื่อไทยเห็นว่ากฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ หรือประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 สามารถมีได้ แต่จำเป็นต้องแก้ไขในประเด็นเรื่อง ‘เนื้อหา’ และ ‘วิธีบังคับใช้’ ให้โปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น ทว่าด้วยบริบทของสังคมไทยปัจจุบันอาจจะยังไม่สามารถแก้ไขประเด็นทั้งสองได้สำเร็จ และอาจเพิ่มความขัดแย้งในสังคมจนไม่สามารถขับเคลื่อนประเด็นสำคัญอื่นๆ เช่น ประเด็นเศรษฐกิจได้
“สาเหตุที่มาตรา 112 เป็นประเด็นใหญ่ของประชาชนในวงกว้าง เกิดจากทั้งเรื่องเนื้อหาและวิธีการบังคับใช้ เช่น การกำหนดอัตราโทษ หรือการไปแจ้งความดำเนินคดีกับใครหรือที่จังหวัดไหนก็ได้ อีกทั้งเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ยังพบว่ามีปัญหาเพิ่มในบางประการ เช่น การใช้ดุลพินิจในการประกันตัวผู้ถูกกล่าวหา หรือกระบวนการพิจารณาที่ข้อเท็จจริงพบว่าไม่ได้พิจารณาอย่างเปิดเผย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยและน่ากังวล
“หากกฎหมายมาตรานี้ยังคงดำเนินไปแบบปัจจุบันก็อาจไม่เป็นผลดีต่อใคร แม้กระทั่งกับสถาบันพระมหากษัตริย์เอง ส่วนตัวผมมองว่าควรพิจารณาแก้ไขเรื่องวิธีการบังคับใช้มาตรา 112 เป็นประเด็นแรกเสียก่อน เพราะปัจจุบัน กฎหมายนี้หาได้คุ้มครองแต่ประมุขของรัฐไม่ แต่ได้ถูกขยายผลกลายเป็นพื้นที่ความขัดแย้งสูงสุดในสังคมไทยเสียเอง”
ณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ประชาชนในสังคมไทยแบ่งแยกเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายที่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 ก็ให้เหตุผลว่าการใช้อำนาจผ่านกฎหมายมาตรานี้ขัดกับหลักนิติธรรม ทว่าอีกกลุ่มหนึ่งก็มองฝ่ายที่ต้องการแก้ไขกฎหมายฯ ว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความขัดแย้งดังกล่าวไม่มีพื้นที่ ‘ตรงกลาง’
“ดังนั้นในบริบทสังคมเช่นนี้ การประกาศว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นนโยบายหลักของพรรคการเมือง ประกาศว่าเป็นจุดยืนสำคัญอาจจะไม่เป็นผลดีกับใครเลย ที่สำคัญ เครื่องหมายทางการค้าของพรรคเพื่อไทย คือเราจะประกาศนโยบายที่เรามองว่าสามารถทำได้จริง แต่ตอนนี้เรามองว่าประเด็นเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 อาจจะยังไปไม่ถึงจุดที่ทำสำเร็จ และอาจทำให้เกิดความขัดแย้งจนกระทั่งไม่สามารถผลักดันกฎหมายอื่นๆ ที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจด้วย”
ท้ายที่สุด แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้ยึดการแก้ไขมาตรา 112 เป็นนโยบาย ทว่าณัฐวุฒิกล่าวว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลก็จะ ‘ดูแล’ เรื่องการบังคับใช้มาตรา 112 ไม่ให้กฎหมายดังกล่าวเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจะกำกับการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานในการพิจารณาคดีดังกล่าวอย่างเข้มงวด
Tags: ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, ม.112, เพื่อไทย