กทม. ส่งสัญญาณรื้อโครงการ ปรับปรุงสวนลุมฯ 1,800 ล้าน ยุค ‘อัศวิน’ อาจลดงบฯ เหลือแค่ 500 ล้านบาท

วันนี้ (4 กรกฎาคม 2565) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเชื่อมสวนสาธารณะเบญจกิติกับสวนลุมพินี ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้คือเร่งรัดสวนเบญจกิติให้เสร็จ แล้วทำทางเชื่อมระหว่างสวนเบญจกิติกับสวนลุมฯ รวมถึงหน้าที่อื่นที่ได้รับมอบหมาย

สำหรับ กทม. จะดูแลสวนเบญจกิติในเรื่องของพรรณไม้ให้เหมาะสม รวมถึงเตรียมการประชุมเอเปคซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ เพราะสวนเบญจกิติอยู่ติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ขณะที่การเชื่อมสองสวนในปัจจุบันก็มีการเชื่อมต่อกันอยู่แล้ว ผ่าน ‘สะพานเขียว’ และคลองไผ่สิงโตที่ติดกัน โดย กทม. ตั้งงบประมาณไว้ 200 กว่าล้านบาทในการปรับปรุง ทั้งในส่วนของสะพาน 3-4 แห่ง ซึ่งเป็นทางชัน ผู้สูงอายุ และวีลแชร์ขึ้นไม่ได้ ซึ่งเปิดประมูลไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ผู้รับจ้าง รวมถึงปรับปรุงทางลงสะพานเขียว ซึ่งขณะนี้ไปลงอยู่ในคอร์ทแบดมินตันของสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ทำให้เกิดความไม่สะดวก ซึ่งต้องอาจเจรจากับสมาคมแบดมินตันต่อไป นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้อนุมัติทางเชื่อมสวนเบญจกิติ จากสุขุมวิทซอย 10 ที่เดิมเป็นทางตัน สะพานไม้ เข้าไม่ได้ ก็จะเปลี่ยนเป็นสะพานปูน และที่สุขุมวิท ซอย 4 กรมธนารักษ์จะทำถนนเชื่อมให้ดีขึ้น

ชัชชาติยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ กทม. มีโครงการปรับปรุงสวนลุมฯ 1,800 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้อนุมัติ โดยในส่วนของยุคตนเอง ขอแค่ปรับปรุงทางขึ้น-ทางลง แล้วก็ทำทางวิ่ง ทำห้องน้ำให้ดี โดยในส่วนของงบประมาณ ตั้งกรอบไว้อยู่ที่ 500 ล้านบาท

จากนั้นจะปรับปรุงคลองไผ่สิงโตให้สะอาดขึ้น เพราะปัจจุบันน้ำเน่ามาก โดยต้องมีกระบวนการปรับปรุง เพราะมีอาคารบ้านเรือนลุกล้ำ รวมถึงยังต้องแก้ปัญหาเรื่องที่จอดรถของสวนลุมพินี ซึ่งปัจจุบัน 300 คันไม่เพียงพอ อาจทำที่จอดรถใต้ดินลงไปบริเวณถนนราชดำริ เพื่อไม่ให้กระทบทัศนียภาพ แล้วมี Hawker Center หรือศูนย์อาหารอยู่ด้านบน โดยการมีที่จอดรถเพิ่มจะทำให้ผู้ใช้สวนที่จอดรถที่สวนลุมพินีสามารถเดินไปที่สวนเบญจกิติได้ และผู้ใช้สวนที่จอดรถที่สวนเบญจกิติก็เดินไปสวนลุมพินีได้เช่นกัน โดยหากทำสำเร็จจะเป็นการเพิ่มศักยภาพของทั้งสองสวน เพราะทั้งสองสวนเป็นสวนระดับโลก ทำให้ดีก็สมบูรณ์ได้ยิ่งขึ้น ถ้าสวน 400 กว่าไร่ และสวน 400 กว่าไร่ รวมกันก็จะได้สวนขนาดใหญ่กว่าพันไร่

สำหรับโครงการปรับปรุงสวนลุมพินีนั้น เป็นโครงการที่ พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ตั้งใจปรับปรุงสวนลุมพินีครั้งใหญ่ ในโอกาสครบรอบ 100 ปี สวนลุมพินีในปี 2568 โดยมีการแถลงข่าวโครงการไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 และในงานแถลงข่าว พลตำรวจเอกอัศวินระบุว่าจะใช้งบประมาณทั้งหมด 1,890 ล้านบาท สำหรับสวนลุมพินีโฉมใหม่

อย่างไรก็ตาม โครงการปรับปรุงสวนลุมพินีของพลตำรวจเอกอัศวินเป็นหนึ่งในโครงการที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ระบุว่าเป็นการทุ่มงบประมาณมหาศาลกับพื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองมากเกินไป ทำให้ กทม. มีงบประมาณเหลือเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสำหรับเขตอื่นๆ ที่เหลือทั้งหมดเพียง 20 ล้านบาท โดยหากรวมโครงการจัดสร้างอาคารจอดรถใต้ดิน ที่ กทม. ยุคพลตำรวจเอกอัศวินตั้งงบประมาณไว้ 1,600 ล้านบาท และโครงการเชื่อมสวน รวมถึงหอชมเมือง 5 ชั้น งบประมาณในการปรับปรุงสวนลุมพินี จะสูงถึง 3,800 ล้านบาท

อ้างอิง: https://themomentum.co/report-tdri-chongnonsi/