สิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงไม่น้อยแน่ๆ หลัง A Quiet Place: Day One (2024) ออกฉาย คือท่าทีที่หนังพูดถึง ‘การรับมือกับวาระสุดท้าย’ ของตัวละคร, การมาเยือนของมนุษย์ต่างดาวที่เป็นต้นธารให้โลกทั้งใบต้องใช้ชีวิตอย่างสงัดเงียบ และแน่นอนว่าเจ้าโฟรโด น้องแมวในหนังที่แสนจะขโมยซีนเสียเหลือเกิน
A Quiet Place: Day One เป็นหนังในแฟรนไชส์ A Quiet Place (2018) และภาคต่อ A Quiet Place Part II (2020) หนังที่กำกับโดย จอห์น คราซินสกี (John Krasinski) ซึ่งล้วนแล้วแต่เล่าเรื่องวันที่มนุษยชาติต้องใช้ชีวิตภายใต้การปกครองของมนุษย์ต่างดาวที่สังหารทุกต้นเสียงที่ได้ยิน นำไปสู่การ ‘ปฏิวัติ’ โดยมนุษย์ตัวเล็กๆ ที่หาทางกำจัดมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ ขณะที่ A Quiet Place: Day One ที่กำกับโดย ไมเคิล ซาร์โนสกี (Michael Sarnoski)
หนังเล่าย้อนไปถึงต้นกำเนิดของวันหายนะ เมื่อวันหนึ่งยานอวกาศลึกลับดิ่งตรงมายังใจกลางเมืองนิวยอร์ก ซามิรา (แสดงโดย ลูพิตา ยองโก) หญิงสาวที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและเหลือเวลาในชีวิตอีกไม่กี่วัน ดิ้นรนเอาชีวิตรอด พร้อม โฟรโด แมวลายวัวที่เป็นสัตว์บำบัดของเธอไปทั่วเมือง ระหว่างนั้น เธอพบกับ อีริก (แสดงโดย โจเซฟ ควินน์) ชายหนุ่มชาวอังกฤษที่เคว้งคว้างและรับมือกับความพินาศไม่ได้ ติดสอยห้อยตามมาด้วย การเดินทางของหญิงที่ชีวิตใกล้แตกดับกับชายหนุ่มผู้ตื่นกลัว และแมววัวที่เป็นเสมือนสัตว์คู่หูของทั้งสองจึงเริ่มต้นขึ้นในวันที่แมนฮัตตันกำลังถล่มลง
แน่นอนว่าคนดูลุ้นเอาใจช่วยให้ตัวละครหาทางเอาตัวรอด จากสิ่งมีชีวิตประหลาดจากนอกโลก แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ การลุ้นจนตัวโก่งให้เจ้าโฟรโดรอดไปด้วย ชนิดว่าต่อให้มีตัวละครมนุษย์ถูกสัตว์ประหลาดเชือดต่อหน้าต่อตา ก็ยังไม่ชวนกระวนกระวายใจเท่าเมื่อแมววัวตัวเก่งเฉียดใกล้สัตว์ยักษ์
ทั้งนี้ มีหนังหลายเรื่องที่ความตายของสัตว์เลี้ยง กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตัวละคร เช่น I Am Legend (2007) หนังซอมบี้ที่ว่าด้วยความโดดเดี่ยวของมนุษย์ หรือ John Wick (2014) ที่แค่เอาเข้าจริงๆ แล้วเรื่องการล้างบางมาเฟียทั้งมวล ก็มาจากนักเลงกระจอกไปฆ่าหมาน้อยของอดีตมือสังหารระดับพระกาฬคนหนึ่ง และแม้แต่กับ Pig (2021) หนังเรื่องก่อนหน้าของซาร์โนสกี ที่ว่าด้วยหมูคู่ใจของชายคนหนึ่งหายตัวไป เขาจึงกระเสือกกระสนตามมันกลับมา แม้ต้องเผชิญชะตากรรมหนักหน่วงมหาศาลก็ตาม
หลายคนวิเคราะห์ว่า เหตุผลที่ทำให้คนดูกระอักกระอ่วน หรือทำใจต่อการจากไปของสัตว์เหล่านี้ในหนังไม่ได้ชนิดว่า มีเว็บไซต์ DoesTheDogDie.com (แปลเป็นไทยว่า น้องหมาตายหรือเปล่า) ขึ้นมาเพื่อสปอยล์ชะตากรรมหมาโดยเฉพาะ อันเนื่องมาจากสัตว์เลี้ยงเหล่านี้คือ สัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา การต้องทนดูสัตว์เหล่านี้ถูกสังหารหรือ ‘โดนลูกหลง’ จึงเป็นเรื่องชวนหัวใจสลาย ขณะเดียวกัน ตัวหนังบางเรื่องก็ใช้สัตว์เหล่านี้่เป็นภาพแทนของความพิสุทธิ์ หรือความเป็นมนุษย์บางอย่างด้วยจริงๆ เมื่อมันจากไป มันจึงเป็นภาพแทนของ ‘ตัวตน’ หรือความเป็นมนุษย์บางอย่างที่เหือดหายไปจากตัวละครในเรื่องด้วย อันจะเห็นได้จากจอห์น วิก ที่หวนคืนกลับโลกความรุนแรงจนกลายเป็นแฟรนไชส์ดังจากการที่หมาผู้เป็นของต่างหน้าภรรยาผู้จากไปของเขาตายลง
ปรากฏการณ์ ‘ห่วงน้องสัตว์’ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับ A Quiet Place: Day One แต่เอาเข้าจริงยังถือเป็นบรรยากาศที่เกิดขึ้นเวลาที่เราดูหนังหลายเรื่องที่มีสัตว์เป็นองค์ประกอบ พ้นไปจากเสียจากสงครามที่ม้ามักตายอย่างน่าเศร้าในสมรภูมิรบ The Mountain Between Us (2017) หนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันในปี 2010 ของ ชาร์ลส์ มาร์ติน (Charles Martin) ว่าด้วยเที่ยวบินของ อเล็กซ์ (แสดงโดย เคต วิสสเล็ต) นักข่าวสาวกับ เบน (แสดงโดย ไอดริส เอลบา) ศัลยแพทย์ที่ต่างมีธุระต้องไปจัดการยังปลายทาง ต้องตกที่นั่งลำบากเพราะติดพายุหิมะทั้งคู่ พวกเขาจึงจ้างเครื่องบินขนาดเล็กให้โดยสารพวกเขาไปยังที่หมายให้ได้ แต่เหตุการณ์กลับรุนแรงไปกว่าเดิม เมื่อเครื่องบินตกกลางเทือกเขาสูง พวกเขาซึ่งเป็นคนแปลกหน้าต่อกันจึงต้องหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้ พร้อมน้องหมาลาบราดอร์ที่ติดสอยห้อยตามการเดินทางของทั้งคู่ไปด้วย
หนังได้รับคะแนนวิจารณ์ไม่ดีนัก ว่ากันตั้งแต่เคมีที่แสนจะไม่ลงตัวของวินสเล็ตกับเอลบา หรือลวดลายการกำกับขาดๆ เกินๆ ของ ฮานี อาบู-อัสสาด (Hany Abu-Assad) คนทำหนังเชื้อสายปาเลสไตน์-ดัตช์ จนทำให้ตัวหนังถูกมองว่า เป็นหนังที่นักวิจารณ์ก็ไม่ชอบ คนดูก็ไม่เห็นในสายตา จนสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของหนังเรื่องนี้เห็นจะเป็นแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์หนัง โพสต์ประกาศอย่างเป็นทางการตั้งแต่ก่อนหนังออกฉายว่า “สปอยล์จ้า! เรื่องนี้น้องหมารอด!” (ซึ่งด้านหนึ่ง เราก็อาจพิจารณาได้ว่าเป็นการตายของหนังเช่นกัน)
หนังอีกเรื่องที่ชวนให้คนดูลุ้นจนใจหายใจคว่ำว่าน้องหมาจะมีชีวิตรอดไปจนจบหรือไม่คือ Independence Day (1996) เมื่อมนุษย์ต่างดาวรุกรานโลกหวังกวาดล้างทรัพยากร สตีเวน (แสดงโดย วิลล์ สมิธ) นายทหารหนุ่มที่ใช้ชีวิตแสนสุขกับลูกเมีย พร้อมหมาอีกหนึ่งตัวจึงต้องลุกขึ้นไปจัดการผู้มาเยือน ด้วยความร่วมมือของ เดวิด (แสดงโดย เจฟฟ์ โกลด์บลัม) นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่ทำทุกวิถีทางเพื่อหาจุดอ่อนของมนุษย์ต่างดาว และพบว่า ในภัยคุกคามอันแสนร้ายกาจ ผู้มาเยือนเหล่านี้ไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสหรือไข้หวัดอย่างที่มนุษย์โลกมี ภารกิจของพวกเขาจึงเป็นการหาทางทำให้มัน ‘ติดหวัด’ ด้วยการบุกขึ้นยานแม่แบบตามมีตามเกิด! และตัวละครสมทบดีเด่นคือ บูเมอร์ ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ตัวเก่งที่หลบระเบิดได้แบบ ‘ชวนลุ้น’ เหลือจะกล่าว
อย่างไรก็ดี ตัวหนังถือว่าให้ภาพแทนความเป็นอเมริกันชนสุดขีด ทั้งหน้าหนังที่พูดถึงการปกป้องภัยจากมนุษย์ต่างดาว ปาฐกถาของประธานาธิบดีที่แสนจะชาตินิยม ทั้งยังพูดถึงเสรีภาพอันเป็นค่านิยมหลักของชาวอเมริกัน รวมทั้งตัวหนังก็ออกฉายในวันชาติสหรัฐฯ และทำเงินไปได้ระเบิดระเบ้อที่ 817 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Prey (2022) หนังจากแฟรนไชส์ Predator ที่ถูกขนานนามว่า เป็นหนังที่พาคนดูหวนกลับไปสำรวจรากของนักล่าพรีเดเตอร์ได้หมดจดอย่างที่สุด ด้วยการหวนกลับไปยังที่ราบเกรตเพลนส์ในอเมริกาเหนือยุค 1719 นารู (แสดงโดย แอมเบอร์ มิดธันเดอร์) เด็กสาวในชนเผ่าที่ถูกฝึกให้เป็นผู้ดูแลสมาชิกในเผ่าด้วยสมุนไพรและพืชป่า ผู้ฝันอยากเป็นนักล่าที่ยิ่งใหญ่เหมือนพี่ชายตัวเอง มิหนำซ้ำ ฝีมือการล่าของเธอก็เข้าขั้นเยี่ยมยอด ไม่ว่าจะทักษะในการต่อสู้หรือใช้อาวุธ เธอจึงออกแกะรอยตามล่าสัตว์ เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้เหล่าผู้ใหญ่ในชนเผ่ายอมรับ และออกเดินตามรอยเท้าประหลาดที่เธอคิดว่าเป็นสัตว์หายาก
ทว่านารูกลับไปเจอพรีเดเตอร์ผู้มาเยือนสุดคุกคาม ที่ทำให้เธอต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากมัน พร้อมกันกับที่ศึกษาหาจุดอ่อนอีกฝ่ายไปด้วย โดยมีอาวุธที่แสนสามัญอย่างขวานหรือดาบ แต่ตัวช่วยสำคัญของนารูเห็นจะหนีไม่พ้นซารี หมาป่าที่เป็นเพื่อนคู่ใจของเธอ ซึ่งคนดูลุ้นกันตัวโก่งว่า ซารีจะเอาชีวิตรอดจากเหล่าพรีเดเตอร์ที่เข้ามาคุกคามมนุษยชาติได้หรือไม่
เช่นเดียวกันกับน้องแมวโฟรโดแห่ง A Quiet Place: Day One หลังจากหนังออกฉาย คนพากันถามหาว่า น้องหมานักล่าแห่ง Prey เป็นใคร หมาสายพันธุ์แคโรไลนาหรือหมาป่าอเมริกันกลายเป็นที่จับจ้องสนใจของผู้คนในวงกว้างครั้งใหญ่ด้วย
อันที่จริง มีหนังบางเรื่องที่แค่หน้าหนังก็บอกชัดแล้วว่าสัตว์ต้องตายแน่ๆ เช่น Marley & Me (2008) ซึ่งหนังเหล่านี้ล้วนสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยงโดยตรงอยู่แล้ว แต่ทันทีที่มันเป็นหนังฌ็องอื่น ที่พูดถึงการเอาตัวรอดของมนุษย์กับภัยคุกคาม ไม่ว่าจะจากต่างดาวหรือภัยธรรมชาติ ก็พอเข้าใจได้ที่จะรู้สึกลุ้นให้หมาแมวเอาชีวิตรอดเสียยิ่งกว่าคน กระนั้น ถึงที่สุดเราอาจยังต้องย้ำเตือนกันว่า การเปิดใจดูหนังโดยไม่ต้องสปอยล์ตัวเองถึงชะตากรรมของเหล่าสัตว์ ก็ดูจะเป็นทางเลือกในการเสพภาพยนตร์ให้ได้เต็มอรรถรสที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
Tags: People Also Watch, สัตว์ตายในหนัง, A Quiet Place: Day One, The Mountain Between Us, Independence Day, Prey