บีเกิ้ลสีขาว ขาสั้น ร่าเริง ช่างฝัน

เป็นเวลา 75 ปีที่โลกรู้จัก ‘สนูปปี้’ (Snoopy) สุนัขตัวจิ๋วหน้าจิ้มลิ้มของ ชาร์ลี บราวน์ (Charlie Brown) หนึ่งในตัวเอกจากคอมิก Peanuts ผลงานของ ชาร์ลส์ เอ็ม. ชูลซ์ (Charles M. Schulz) ชายชาวอเมริกันผู้เป็นที่รู้จักในฐานะนักวาดการ์ตูนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ผู้ถักทอแรงบันดาลใจและประสบการณ์ในชีวิตมาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวอันน่าตื่นเต้น ผ่านลายเส้นที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยอารมณ์ขันและมุกเสียดสี

ภายในระยะเวลาไม่กี่ทศวรรษ สนูปปี้และผองเพื่อนจากแก๊ง Peanuts สร้างปรากฏการณ์ครองใจผู้คนทั่วโลก ไม่ใช่แค่เพราะภาพลักษณ์น่ารักอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงคาแรกเตอร์ที่แสดงถึงความเป็นมนุษย์ อย่างการแสดงอารมณ์ความรู้สึก หรือแม้แต่การมีความฝันเหมือนกับคนทั่วไป นั่นทำให้เจ้าบีเกิ้ลสีขาวทรงอิทธิพลในฐานะ Pop Culture และโลดแล่นไปทั้งวงการศิลปะ ดนตรี แฟชั่น หรือแม้แต่ดาราศาสตร์ในบทบาททูตสัญลักษณ์ให้กับองค์การ NASA (National Aeronautics and Space Administration) 

และวันนี้ River City ร่วมกับ Peanuts Worldwide และ Blue Dragon องค์กรเกี่ยวกับศิลปะสาธารณะในไต้หวัน นำเรื่องราวของสนูปปี้ตลอด 75 ปีที่ผ่านมุมมองของคนทั่วโลก โดยเฉพาะเอเชียแปซิฟิก มาถ่ายทอดเป็นนิทรรศการ How Do You Do, Snoopy? 75 Years: A Journey of Friendship Through Art พร้อมรวบรวมผลงานที่เกี่ยวข้องกับตัวละครใน Peanuts ของศิลปินมากกว่า 25 ชีวิต ทั้งชาวไทยและนานาชาติ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับตัวตนของเจ้าบ๊อกแบ๊กสีขาวในแบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

‘ยินดีที่ได้รู้จัก สนูปปี้’

คือธีมหลักของนิทรรศการครั้งนี้ภายใต้การจัดการของ หวัง อวี่หลิง (Wang Yuling) ผู้จัดการทั่วไปบริษัท Blue Dragon Art Company และ ไดสีเกะ คุชาคาริ (Daisuke Kusakari) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์จากพิพิธภัณฑ์สนูปปี้โตเกียว (Snoopy Museum Tokyo) โดยหวังให้ทุกคนได้สัมผัสมุมมองที่หลากหลายของเจ้าบีเกิ้ลตัวจิ๋วทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ศิลปะในการ์ตูนต้นฉบับ ความร่วมมือด้านงานศิลปะ แฟชั่นดีไซน์ และบทบาททูตของ NASA 

ไทยคือหนึ่งในจุดหมายสำคัญของการจัดแสดงนิทรรศการทั่วเอเชียแปซิฟิก แม้จะไม่มีบันทึกว่า ชูลซ์เคยเดินทางมาที่ภูมิภาคแห่งนี้ แต่ด้วยอิทธิพลของคอมิกจากเนื้อหาที่น้อยแต่มาก นุ่มนวลแต่บาดลึก เต็มไปด้วยเรื่องราวของมิตรภาพ การปลอมประโลม และความไม่ย่อท้อ ทำให้ Peanuts ได้รับความนิยมจากนานาชาติ รวมถึงแวดวงศิลปะที่ร่วมกันตีความและสรรค์สร้างจักรวาลนี้ขึ้นมาใหม่ในรูปแบบของตนเอง

River City ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนในการจัดและดูแลในชื่อ How Do You Do, Snoopy? 75 Years: A Journey of Friendship Through Art โดยเปิดให้ทุกคนได้เข้าชมแล้วตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน-7 ธันวาคม 2568 ณ RCB Galleria 1-2 ชั้น 2 ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกัน ได้แก่โซน Art of Peanuts, Snoopy in Art, Snoopy and Belle in Fashion และ Snoopy in Space ตามลำดับ

เมื่อเข้าไปถึงนิทรรศการจะพบกับโซนแรกคือ Art of Peanuts หรือ สนูปปี้ที่ผ่านการตีความในคตินิยมแบบตะวันออก (Orientalism) เพราะถึงแม้ต้นฉบับคอมิกจะมาจากฟากหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐฯ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เนื้อหาและรายละเอียดก็มีความเหมือนร่วมกับวัฒนธรรมเอเชียไม่น้อย โดยเฉพาะการเล่าเรื่องหรือบรรยายฉากธรรมชาติ ซึ่งคลับคล้ายคลับคลาภาพวาดในสไตล์ดั้งเดิม ที่มักมีเอกลักษณ์อย่างภาพวาดหมึกหรือภาพเขียนทิวทัศน์

คุซาการิเป็นผู้ออกแบบนิทรรศการนี้ โดยหยิบผลงานของศิลปินราว 50 กว่าชิ้นที่ผสมผสานแนวคิดเซน (Zen) กับศิลปะเอเชียตะวันออกคือ ภาพวาดหมึกจีนและงานพิมพ์ไม้แบบญี่ปุ่น (Ukiyo-e) ผ่านการเชื่อมโยงลายเส้นที่เรียบง่ายของชูลซ์ ซึ่งอีกนัยหนึ่งเป็นการสื่อโดยนัยว่า ผู้เข้าชมกำลังอ่าน Peanuts ในแบบเอเชียดั้งเดิมอยู่ 

ในระหว่างทางไปโซนที่ 2 นิทรรศการยังร้อยเรียงเส้นทางชีวิตของชูลซ์ ตั้งแต่การเกิดและเติบโต จุดพลิกผันในชีวิตอย่างการเป็นทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงการหยิบประสบการณ์และจินตนาการของตนเองมาร้อยเรียงเป็นคอมิกชื่อดังก้องโลก ซึ่งในโซนนี้ก็ยังถ่ายทอดวิวัฒนาการของหนังสือการ์ตูนและตัวละครใน Peanuts ร่วมด้วย เช่น พัฒนาการของสนูปปี้ในตอนแรกเป็นเพียงสุนัขธรรมดา ก่อนตัวละครจะเพิ่มความเป็นมนุษย์เรื่อยๆ แม้จะไม่สามารถพูดได้ก็ตาม แต่ผู้เขียนเลือกที่จะให้เจ้าสุนัขสีขาวแสดงออกผ่านบอลลูนความคิด สีหน้า อารมณ์ หรือแม้แต่สตอรีไลน์ในเรื่องอย่างการปลอมตัวเป็นนักศึกษา หรือเขียนนิยายเป็นของตนเองก็ตาม

ถัดมาคือโซน Snoopy in Art เป็นการรวบรวมงานของศิลปินชั้นนำในไทยและต่างประเทศทั้งหมด 25 คน ทั้งในรูปแบบจิตรกรรม ประติมากรรม แอนิเมชัน หรือสื่ออื่นๆ ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและแนวคิดท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป โดยงานจากศิลปินนานาชาติที่สะดุดตามากที่สุดคือ งานของ ซานเชีย เหลา (Sanchia Lau) จากมาเก๊า ที่หยิบเรื่องจริงในประวัติศาสตร์อย่างเส้นทางสายไหม และความสนใจส่วนตัวอย่างการปักผ้า ออกมาถ่ายทอดลงบนภาพการ์ตูน Pop Culture ด้วยวัสดุ ‘ไข่มุก’ สะท้อนให้เห็นความสวยงาม และการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกกับตะวันออก

นอกจากนี้งานของศิลปินไทยทั้ง 10 คนก็ได้มาร่วมจัดแสดงในโซนดังกล่าว ได้แก่ FAHFAHS, Tum Ulit, Munins, Tuagomstudio, julibaker and summer, Mackcha, 2CHOEY, Yamada, Poorboy และ KENZ โดยจุดเด่นของผลงานคือ การตีความเนื้อเรื่องและตัวละคร Peanuts ผ่านเลนส์ของศิลปินไทยแต่ละคน ดังเช่นงานของ FAHFAHS ที่หยิบ ‘บ้านสีแดง’ ในคอมิกมาตีความเป็น ‘สนามเด็กเล่น’ ของผู้อ่านที่เติบโต กว้าง ไร้ขอบเขต เปิดให้ทุกสร้างฝัน และร่องรอยอย่างอิสระ

สำหรับในโซนที่  คือ Snoopy and Belle in Fashion หรือการคอลแล็บระหว่างสนูปปี้กับโลกแฟชั่น ซึ่งก่อนหน้านี้เคยจัดแสดงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในช่วงต้นปี 2568 โดยรวบรวมคอลเลกชันผองเพื่อน Peanuts ในชุดกูตูร์ของเหล่าแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Balenciaga, Fendi, Swarovski, Thierry Mugler สะท้อนให้เห็นพลังของวัฒนธรรมป็อปที่โลดแล่นในภาคธุรกิจและแบรนด์เนมอย่างเป็นหนึ่งเดียว

ปิดท้ายนิทรรศการด้วยโซน Snoopy in Space ที่บอกเล่าความสัมพันธ์กับสนูปปี้กับ NASA นอกจากเป็นที่รู้จักในบทบาทสุนัขขี้เล่น เจ้าบีเกิ้ลสีขาวยังเป็น ‘ทูตสัญลักษณ์’ ให้กับองค์การดาราศาสตร์ชื่อดังในช่วงยุค 60s ที่ถูกกล่าวขานว่า เป็นยุคทองของภารกิจสำรวจอวกาศของสหรัฐฯ 

เพราะการปลุกปั้นคาแรกเตอร์ของผู้เขียน ให้เจ้าสุนัขสีขาวคิดกล้าคิด กล้าฝันเหมือนมนุษย์ โดยเฉพาะความใฝ่ฝันอยากเป็นนักบินอวกาศ ทำให้ภาพลักษณ์ของสนูปปี้ถูกนำมาสร้างขวัญและกำลังใจให้กับสาธารณชน หลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ยานอวกาศอะพอลโล 1 และทรงอิทธิพลถึงขั้น NASA ตั้งชื่อยานลงดวงจันทร์ว่า สนูปปี้ ขณะที่ในปี 1990 NASA ยังยกให้เป็นบีเกิ้ลตัวแรกที่เดินทางออกไปนอกโลกในภารกิจ STS-32 อีกด้วย

ปัจจุบันสนูปปี้เป็นไอคอนสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในโครงการ STEM (Science, Technology, Engineering, and Mathematics) ถือเป็นการเชิดชูความมุ่งมั่นของเจ้าบีเกิ้ลตัวจิ๋วหน้าจิ้มลิ้มของ NASA ที่เป็นภาพสะท้อนว่า ไม่ว่าจะยากแค่ไหน แต่ถ้ามีความกล้าหาญและอยากรู้อยากเห็นมากพอ ทุกคนก็สามารถไปสู่อวกาศ หรือแม้แต่บรรลุความฝันในชีวิตได้ไม่ต่างสนูปปี้เช่นกัน

เพราะนี่เป็นเพียงไฮไลต์ส่วนหนึ่งจากงานทั้งหมด หากใครสนใจ สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ทาง https://www.ticketmelon.com/rivercitybangkok/Snoopy/ ในราคา 450 บาท (สำหรับคนทั่วไป) และ 350 บาท (สำหรับนักเรียน-นักศึกษา)

Tags: , , , , , , , , , ,