ช่วงเย็นวันที่ 22 พฤษภาคม เมื่อ 9 ปีก่อน เป็นวินาทีประวัติศาสตร์ เมื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในเวลานั้น ตัดสินใจทุบโต๊ะยึดอำนาจ หลังประกาศกฎอัยการศึกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และจัดให้มีการพูดคุยจากกลุ่มบุคคลหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจากรัฐบาล จากพรรคเพื่อไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม กปปส. คนเสื้อแดง สมาชิกวุฒิสภา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่สโมสรทหารบก (วิภาวดี) โดยมี ‘ทหาร’ เป็นตัวกลาง แต่ไม่ได้ข้อยุติว่ารัฐบาลรักษาการในเวลานั้นจะลาออกหรือไม่ ภายหลัง กปปส.ชุมนุมต่อเนื่องยืดเยื้อมานานกว่า 204 วัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการลาออกจากตำแหน่ง
เวลา 16.30 น. คณะทหารควบคุมตัวกลุ่มคู่ขัดแย้งทางการเมืองกลุ่มต่างๆ ขึ้นรถตู้ไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ จากนั้นบางคนถูกปิดตา มัดแขน ใช้ปืนจี้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บางคนถูกควบคุมตัวโดยสงบไปยังสถานที่ปิดลับ ได้แก่ ค่ายทหารต่างๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดลพบุรี โทรทัศน์และวิทยุเล่นเพลงปลุกใจ พร้อมกับมีประกาศตั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการทันที โดยพลเอกประยุทธ์ให้เหตุผลในเบื้องแรกว่า ต้องการยุติความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อ
จากนั้น ทหารได้เข้าควบคุมเวทีคนเสื้อแดงที่ถนนอักษะ เช่นเดียวกับเวที กปปส.ที่บริเวณถนนราชดำเนิน อย่างไรก็ตาม ที่เวที กปปส. เมื่อมีประกาศยึดอำนาจ ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งโห่ร้องแสดงความยินดี ดังเช่นภาพนี้ที่สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) บันทึกไว้ได้
มีการเปิดเผยภายหลัง โดย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กับกลุ่มผู้ชุมนุมในวงเล็กๆ และถูกนำมาเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ฉบับวันที่ 23 มิถุนายน 2557 ว่า พลเอกประยุทธ์คุยกับสุเทพผ่านไลน์มาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนการรัฐประหารไม่นาน พลเอกประยุทธ์ไลน์หาสุเทพว่า “คุณสุเทพ คุณกับมวลมหาประชาชน กปปส.เหนื่อยเกินไปแล้ว ต่อไปขอเป็นหน้าที่กองทัพบกที่จะทำภารกิจนี้แทน”