การจากไปของนักร้องนำวง Linkin Park เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2017 เป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่ง ในขณะที่หลายคนช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีคนจำนวนไม่น้อยที่หลั่งน้ำตาหลังจากทราบข่าว บางคนไม่เคยเสียใจถึงขั้นร้องไห้เวลาศิลปินล่วงลับมาก่อน
เชสเตอร์ เบนนิงตัน (Chester Bennington) คือคนแรก
เหมือนเราไม่ทันคิดมาก่อนว่าจะผูกพันกับแกนหลักของวงดนตรีร็อกจากยุค 2000 มากขนาดนี้ แฟนเพลงจำนวนไม่น้อยก็ห่างเหินจาก Linkin Park หลังจากพวกเขาเริ่มทำผลงานที่ลดดีกรีความหนักหน่วงลงไปในช่วงหลัง
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ มันเหมือนภาพเก่าๆ ของพวกเขา รวมถึงเชสเตอร์ ได้ถูกดึงออกจากลิ้นชักความทรงจำ ให้กลับมาทวนถึงความผูกพัน การเป็นเพื่อนที่อยู่ข้างๆ กันมาตลอดช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของวงการเพลง
นับจากนี้ เราจะไม่ได้ยินเสียงร้องสดเต็มไปด้วยพลังที่แผดออกมาได้อย่างเต็มดีกรี สลับกับการร้องเมโลดี้เพราะๆ ที่เราคุ้นเคยในยุครุ่งเรืองสุดขีดของ Linkin Park อีกแล้ว
ย้อนไปช่วงก่อนปี 2000 วงดนตรีชื่อ Xero กำลังหานักร้องนำคนใหม่ เชสเตอร์ เบนนิงตัน ผ่านการออดิชั่น และวงก็เปลี่ยนชื่อเป็น Hybrid Theory หลังจากนั้น พวกเขาคิดจะใช้ชื่อวงว่า Lincoln Park ตามชื่อสวนสาธารณะที่เดินทางผ่านเป็นประจำในแซนตามอนิกา แต่ติดปัญหาที่ชื่อเว็บไซต์ Lincolnpark.com ถูกใช้ไปแล้ว พวกเขาจึงเปลี่ยนตัวสะกดเป็น ‘Linkin Park’ เพื่อจะใช้ชื่อนี้จดทะเบียนเว็บไซต์ทางการของวง ส่วน ‘Hybrid Theory’ ก็กลายเป็นชื่ออัลบั้มแรกของวงในเวลาต่อมา
ส่วนผสมในการร้องและแผดเสียงของเชสเตอร์ เบนนิงตัน ที่หนักแน่น แต่ไม่หนักหน่วงจนเกินไป บวกกับการแร็ปที่สอดประสานกันได้พอดิบพอดีของไมค์ ชิโนะดะ (Mike Shinoda) และดนตรีของวงร็อกกลิ่นอายนูเมทัลที่กำลังอยู่ในกระแสช่วงนั้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นวงนูเมทัลเหมือนอย่าง Korn, Limp Bizkit หรือแม้แต่ Deftones ในยุคเฟื่องฟู ดนตรีและการร้องของ Linkin Park เป็นแร็ปร็อกมากกว่า นั่นจึงทำให้เป็นที่ถกเถียงเมื่อหยิบชื่อ Linkin Park มาอยู่ในกลุ่มนูเมทัล
อย่างไรก็ดี งานเพลงของพวกเขาในอัลบั้มเปิดตัว มีความโดดเด่นและชัดเจนมาก พร้อมกับการติดหูที่ไม่จำกัดเฉพาะคอเพลงร็อกในการเข้าถึง มันเป็นอัลบั้มขายดีระดับกว่า 30 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก มีวงดนตรีนับร้อยนับพันที่พยายามเดินตามรอยของพวกเขา โดยเฉพาะการมีนักร้องเสียงหลักกับการร้องแร็ปในวง จนถึงขนาดมีชื่อเรียกว่าเป็น Linkin Park Sound
นักร้องในยุคนั้นที่หัดร้องแบบแผดเสียง เกือบทุกคนมีเชสเตอร์ เบนนิงตัน เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ
ความโดดเด่นในการร้องเพลงของเชสเตอร์ เบนนิงตัน ไม่ได้อยู่ที่การแผดเสียงให้หนักที่สุด แต่มีความหลากหลายและความเฉพาะตัว นิตยสารดนตรีในตอนนั้นนิยามการร้องของเขาไว้ว่า “เป็นนักร้องที่มีความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาทางน้ำเสียงได้อย่างดียิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ บันดาลโทสะ หรือเสียงที่อ่อนนุ่ม เขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์ต่างๆ ออกมาได้อย่างครบถ้วน น้ำเสียงของเขาสะท้อนความรู้สึกไปถึงจิตวิญญาณของคุณเลยทีเดียว” นอกจากนั้น เขายังร่วมแต่งเพลงให้กับ Linkin Park มาตลอด เป็นหนึ่งในคนที่มีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนทิศทางของวงในอัลบั้มแต่ละชุด
นอกเหนือจากเรื่องการทำงานเพลง Linkin Park ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมการกุศลมาอย่างต่อเนื่อง และเชสเตอร์เองก็อุทิศเวลาให้กับงานด้านนี้เป็นการส่วนตัวบ่อยครั้ง ที่น่าจะอยู่ในความทรงจำมากที่สุดคือการที่เขามาเมืองไทยเพื่อร่วมงาน MTV Asia Aid 2005 ที่จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ และทำมากกว่านั้นด้วยการไปเยี่ยมผู้ประสบภัยที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมทาสีบ้านใหม่ของผู้ประสบภัย ไปหาเด็กๆ ที่โรงเรียนในบริเวณซึ่งถูกคลื่นยักษ์ซัดถล่ม และมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ
เขาไม่ใช่ร็อกสตาร์ที่มีอีโก้สูงลิ่วหรือเข้าถึงได้ยาก ความทุ่มเทในเรื่องเหล่านี้แบบไม่ถือตัว เป็นหนึ่งในเรื่องที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนเพลงเป็นอย่างมาก
การเป็นศิลปินที่ดีนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของการทำเพลงดี หากยังรวมถึงการเป็นแบบอย่างให้กับคนที่ติดตามผลงาน เป็นคนที่เรายกให้เขาเป็นไอดอลหรือฮีโร่ได้อย่างเต็มปาก
เชสเตอร์ เบนนิงตัน คือคนที่มีคุณสมบัตินั้น
การจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควรด้วยการผูกคอตาย จึงเป็นความสูญเสียที่สร้างความโศกเศร้าให้กับคนทั่วโลก
ที่น่าเสียใจไม่น้อยไปกว่าแฟนเพลงของ Linkin Park ซึ่งจองตั๋วรอพวกเขามาเล่นคอนเสิร์ตตามตารางทัวร์ที่ประกาศไว้และถูกยกเลิกไปบ้างแล้ว (คาดว่าตารางที่เหลือในปีนี้น่าจะถูกยกเลิกเช่นกัน) นั่นคือมีข่าวว่า Linkin Park จะมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยระหว่างเอเชียทัวร์ปลายปีนี้ และกำลังรอประกาศอย่างเป็นทางการ
นับจากนี้ สมาชิกที่เหลือจะทำอย่างไรกันต่อไป เดินหน้าต่อโดยไม่มีเชสเตอร์ หานักร้องนำคนใหม่ ยุบวง หรือทำวงในชื่อใหม่ แต่สมาชิกชุดเดิม เพื่อให้ชื่อ Linkin Park จบลงแค่นี้ เราก็คงต้องติดตามกันต่อไป
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าแฟนเพลงของวงดนตรีวงนี้น่าจะอยากให้สมาชิกอีก 5 คนทำผลงานเพลงกันต่อ และจะยังคงติดตามพวกเขาในฐานะเพื่อนที่อยู่เคียงข้างกันมานานเกือบ 20 ปีในวงการดนตรี
Tags: ไมค์ ชิโนะดะ, Mike Shinoda, MTV Asia Aid 2005, เชสเตอร์ เบนนิงตัน, Linkin Park, Hybrid Theory