ก่อนหน้านี้ฮอนด้าดูไม่ได้ให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าเท่าไรนัก มีเครื่องยนต์ไฮบริดในบางรุ่น และทำตลาดเป็นพักๆ สุดท้ายก็หายไป แต่หลังจากนี้ฮอนด้าจะเดินหน้ารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นไฮบริด EV และ Fuel Cell ประเดิมด้วยแอคคอร์ดไฮบริดที่จะวางขายต้นปีหน้า เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายในปี 2030 ที่รถยนต์สองในสามของฮอนด้าจะต้องขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า

พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฎิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของฮอนด้าในปีนี้ไม่ได้มีการออกรถรุ่นใหม่ แต่เน้นการประคองยอดขายให้เป็นไปตามเป้า ซึ่งปีนี้น่าจะมียอดขายทั้งสิ้น 128,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดขายอยู่ที่ 127,000 คัน

“ยอดขายปีนี้ของเราน่าจะเกินเป้า เพราะเป็นจังหวะที่เราไม่ได้มีการออกรถรุ่นใหม่ ก็วางแผนยอดขายให้สอดคล้องกับสภาพของเรา ซึ่งตัวที่ดันให้เกินเป้าคือซีวิคกับเอชอาร์วี”

ผู้บริหารฮอนด้าเปิดเผยอีกว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างมาก เฉลี่ยแล้วมียอดขายถึง 1 ล้านคัน แสดงให้เห็นว่าตลาดรถยนต์กลับมาเหมือนเดิมแบบที่ควรเป็น

“ตั้งแต่นโยบายรถคันแรกที่ไปกระตุ้นความต้องการของคน จากนั้นมันก็ทำให้ยอดขายลดลง แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่ก็ไม่ได้ชดเชยดีมานด์ที่หายไป ปีที่แล้วเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว เพราะมียอดขายรวมกันถึง 8 แสนคัน ปีนี้ก็น่าจะแตะ 1 ล้านคัน และหลายค่ายก็ออกรถรุ่นใหม่กันเยอะขึ้น บวกกับคนที่ซื้อรถยนต์คันแรกปลอดล็อก 5 ปีแล้ว ก็ทำให้ตลาดกลับมาเติบโตเป็นแบบธรรมชาติที่ควรจะเป็น”

ล่าสุดในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 ฮอนด้าเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ ซีวิค ซีอาร์วี-ใหม่ รุ่น 5 ที่นั่ง และแอคคอร์ดใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Full Hybrid ครั้งแรกในประเทศไทย โดยจะวางขายในช่วงต้นปี 2019

“หลังจากนี้จะเห็นโมเดลไฮบริดมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาเราออกรถรุ่นใหม่จะมีรุ่นที่เป็นไฮบริดควบคู่ไปด้วย เพราะตามวิชั่น 2030 คือสองในสามเป็นรถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งมีทั้งไฮบริด อีวี และ Fuel Cell ซึ่งการที่รัฐบาลออกมาตรการเรื่องภาษีของรถยนต์ไฮบริด มันก็มีโอกาสที่จะลงไปในรถรุ่นเล็กอย่างแจ๊สหรือซิตี้ แต่ขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าด้านราคา เพราะมันเป็นเทคโนโลยีที่ดีแต่ราคายังแพงไปหน่อย แต่ต่อไปถ้าราคาเหมาะสมมากขึ้น ผมว่าลูกค้าย่อมเลือกอยู่แล้ว” พิทักษ์ กล่าวทิ้งท้าย