*มีการเปิดเผยเนื้อหาของละครเล็กน้อย
Hollow คือละครออริจินัลเรื่องแรกของคณะ Peel the Limelight ซึ่งเราจะขออนุญาตหยิบยืมคำจากมิตรสหายท่านหนึ่งที่นิยามว่านี่คือกึ่งสารคดีที่มาให้เรารับชมในรูปแบบละครเวที—นั่นคือความรู้สึกหลังจากได้รับชม โดยอันที่จริงแล้วนี่เป็นการหยิบความจริงในประวัติศาสตร์มาเล่าใหม่ในรูปแบบบทละคร จึงเป็นอีกรสชาติแปลกลิ้นที่ชวนลิ้มลอง
ใครที่รู้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ comfort women หรือผู้หญิงหลายเชื้อชาติที่ถูกนำตัวไปกักขังเป็นทาสทางเพศให้กับทหารญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง น่าจะรู้ซึ้งถึงเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพวกเธอเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะที่ถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับทหารวันละหลายสิบคนติดต่อกันเป็นเป็นปีๆ บางส่วนเสียชีวิตไปกับความเจ็บปวด ที่รอดชีวิตก็ต้องเผชิญความอยุติธรรมหลังจากนั้น เช่นที่รัฐบาลญี่ปุ่นเลือกจะให้เงินชดเชยน้อยนิด และราวกับว่าเงินนั้นจะสามารถทดแทนหรือเยียวยาสิ่งที่เหยื่ออย่างพวกเธอได้รับ ซึ่งแน่นอนว่าไม่
ละครเวที Hollow ทำให้ภาพทุกอย่างชัดเจนขึ้น เมื่อพวกเขาจำลองตัวละครหญิงสาวเหล่านั้นขึ้นมาเล่าให้เราฟังกันใกล้ๆ สาธิตสิ่งที่ถูกกระทำให้เราเห็นกันตรงหน้า ตัวละครน่าจะถูกสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะให้มี diversity มากที่สุด เราจะได้เห็นภาพชีวิตของเด็กสาวเกาหลี ที่มาตักน้ำที่แม่น้ำแล้วโดนลักพาตัวไป เด็กสาวชาวไทยที่ถูกพ่อขายให้ทหาร พร้อมความฝันว่าเธอจะมีลูกแล้วชีวิตจะดีขึ้น หญิงสาวชาวดัทช์ผู้เคร่งศาสนาและเชื่อว่าศรัทธาจะทำให้เธอผ่านนรกนี้ไปได้ พยาบาลชาวอเมริกันที่รักษาทหารอยู่ดีๆ ก็ถูกจับมาเป็นทาสทางเพศ รวมถึง เกย์สาว ที่ถูกจับมาเป็นบำเรอในกองทัพขณะที่เธอและเพื่อนกำลังใช้ชีวิตในทางของตัวเอง
ภาพที่เราเห็นจึงเป็น them all VS men ตัวละครชายหลายตัวกลายเป็นปีศาจ ตัวละครหญิงและเควียร์ดูเป็นมนุษย์ บาดแผลทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้จึงดำเนินไปด้วยแรงขับเคลื่อนทางเพศและความรุนแรงของเพศชายเป็นสำคัญ
เปิดฉากด้วยความเป็นมิวสิคัลจัดเต็มอย่างที่เราไม่เคยเห็นในละครเรื่องไหนของ Peel the Limelight เท่าที่ได้ดูมา นักแสดงฝรั่งรับบทฝรั่ง ส่วนนักแสดงไทยเหมารับบทเอเชียนทั้งหมด เราพบว่ามีความประดักประเดิดเล็กน้อยในสำเนียงพูด แต่ก็เห็นได้ว่านักแสดงพยายามเก็บรายละเอียดวิธีพูดภาษาอังกฤษของแต่ละเชื้อชาติ คนที่พูดสำเนียงเป๊ะมากก็ดูเหมือนต้องโทนดาวน์ตัวเองลง ผู้รับบทสาวเกาหลีก็เก็บรายละเอียดด้วยการไม่ออกเสียงตัว F ซึ่งไม่มีในภาษาเกาหลีได้อย่างตลอดรอดฝั่งมากๆ ในส่วนของการสื่ออารมณ์ความรู้สึก ทุกคนทำได้ดี แม้จะต้องใช้เวลาจูนอินสักหน่อย แต่ท้ายที่สุดเราก็เชื่อว่าพวกเขาและเธอเป็นตัวละครนั้นในที่สุด
ในบรรดานักแสดงชายที่มีจำนวนมากพอๆ กับนักแสดงหญิง พวกเขาเวียนกันรับบทเป็นเพศชายคนนั้นคนนี้สลับกันไป มีเพียงสองตัวละครที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นเป็นของตัวเอง ได้แก่นายพลแก่ที่รับเอาอดีตพยาบาลสาวไปเป็นเมียเก็บด้วยการมอมยา (ซึ่งชีวิตเธอก็ไม่ได้ดีขึ้น) และหนุ่มเกาหลีอีกคนหนึ่งที่รับเอาซากุระ(Cherry) ไปเป็นภรรยา เพราะเธอมีใบหน้าคล้ายแม่ของเขา ทั้งคู่ย้ายไปอยู่ที่อเมริกา สาวเกาหลีผู้ถูกเรียกด้วยรหัสว่าซากุระจึงหลุดพ้นไปจากนรกในสมรภูมิรบ แต่สิ่งที่ตกค้างในความทรงจำและชีวิตของเธอก็อาจจะยังเป็นนรกอยู่ดี
อีกหนึ่งตัวละครที่ทำหน้าที่สื่อสารกับพวกเราโดยตรง ชวนคนดูตั้งคำถามและจี้จุดไปยังความบิดเบี้ยวของมนุษย์ในยุคสงคราม คือหลานของคุณยายรหัสซากุระ เธอเป็นอเมริกันเอเชียนที่ค่อนข้างผูกพันกับยาย แม่ของเธอหนีเตลิดไปอาจเพราะอดีตของยาย ขณะที่ยายอยู่จมอยู่กับความรู้สึกที่ว่าเธอไม่เคยถูกนักบินคนนั้นรักเลย เพียงแต่เป็นตัวแทนของแม่เขาเท่านั้น
เรื่องราวทั้งหมดที่เราได้ดูมาตั้งแต่ต้น ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าที่ขยายออกไปจากบันทึกของยาย ที่เธอได้เปิดอ่านหลังจากที่ยายตายไปแล้ว เพียงแต่เราไม่ได้รับรู้รับฟังแค่เรื่องของยาย แต่ยังเป็นเรื่องของเพื่อนร่วมรุ่นยายหรือสหายรหัสดอกไม้กระท่อมใกล้ๆ กันด้วย
จนถึงตอนจบเราไม่มีทางรู้ชื่อเสียงเรียงนามของเหล่า comfort women เพราะที่ค่ายทหารนั้นพวกเธอถูกจับยัดในกระท่อมผุพังและมีรหัสเป็นชื่อดอกไม้ ไม่มีชื่อเรียก ไม่ถูกจดจำ เป็นเพียงดอกไม้เฉาๆ ที่ถูกข่มขืนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันและเกือบจะตลอดเวลา มีเพียงความหวังริบหรี่เล็กๆ น้อยๆ สำหรับแต่ละคน แต่สุดท้ายความหวังนั้นก็ถูกดับลงอย่างไม่เป็นท่า ผ่านตรงนั้นมาได้ก็ยังต้องถูกสังคมกีดกันออกให้เป็นอื่น เป็นชะตากรรมอันเลวร้ายที่สุดเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งหรือเพศใดก็ตามพึงจะได้รับ
ตลอดทั้งเรื่องเราได้ยินเสียงพวกเธอเล่าเรื่องอย่างเย็นชา แม้แต่ตอนที่แสดงความเจ็บปวดสาหัสขณะถูกกระทำ โดยแอคชั่นแล้วนับว่าแรงอยู่พอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็ยังดูไร้ชีวิตจิตใจ เล่าคล้ายคนที่ยังหลอนๆ อยู่กับภาวะ PTSD ดังนั้น ทันทีที่พวกเธอได้ระเบิดอารมณ์ด้วยการเปล่งเสียงออกมา ตอนนั้นเองที่เราต้องร้องไห้ออกมาอย่างช่วยไม่ได้
โลกอาจจะรับรู้การมีอยู่และสิ่งที่ comfort women เผชิญ แต่น้อยคนนักจะได้ยินและฟังเสียงของพวกเธอจริงๆ จัง ในฐานะของละครเวที พวกเขาทำได้เยี่ยมยอด ระหว่างดู เรายังแอบคาดหวังเล็กน้อยว่าเรื่องจะพาเราไปไหนต่อ แต่ที่สุดแล้ว ละครก็ยังมุ่งมั่นที่จะบอกเราแค่ว่า “มีสิ่งนี้เคยเกิดขึ้น” หากมีเรื่องต่อจากนั้น โดยอาจจะเป็นตัวละครหลานสาวที่พาเราไป เราจะรักเรื่องนี้มาก
ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก Peel the Limelight
Fact Box
Hollow เป็นละครเวทีภาษาอังกฤษ มีซับไตเติลภาษาไทย
ทำการแสดงถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2018 ติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/events/223213318507014/