1

ดอรีน ลีออย (Doreen Lioy) เปิดโทรทัศน์ในวันที่ 30 สิงหาคม 1985 ปรากฏภาพหน้าตรงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ริชาร์ด รามิเรซ’ (Richard Ramirez) โดยตำรวจระบุว่านี่คือบุคคลอันตราย เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนอย่างโหดร้ายทารุณ หากใครมีเบาะแสให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที นี่คือชายที่ได้รับการตั้งฉายาจากสื่อว่า ‘นักฆ่าแห่งรัตติกาล’ (Night Stalker)

หลายคนที่ดูทีวีต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว โดยเฉพาะผู้คนในเมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ที่รามิเรซตระเวนก่อเหตุหลายครั้ง เขาฆ่าคนด้วยอาวุธปืน มีด ค้อน ทั้งย่องเบา รัดคอ ซ้อมเหยื่อ ข่มขืน บางครั้งก็ฆ่าด้วย ผู้เสียชีวิตและเหยื่อของรามิเรซมีตั้งแต่เด็กจนถึงคนชรา ตั้งแต่คนขาวยันคนเอเชีย (หนึ่งในเหยื่อของเขามีครอบครัวคนไทยที่ย้ายไปอยู่อเมริกาด้วย)

ภายใต้บรรยากาศการเฉลิมฉลองมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ลอสแองเจลิสเป็นเจ้าภาพในปี 1984 นักฆ่าแห่งรัตติกาลยังคงฆ่าคนไปเรื่อยๆ อย่างลอยนวล ทางการตั้งนักสืบที่เก่งกาจมาไล่ล่าคนร้ายรายนี้โดยเฉพาะ ความน่าสะพรึงกลัวและความโหดเหี้ยมวิปริตของรามิเรซทำให้ชาวเมืองตกอยู่ในอาการขวัญผวา แต่ไม่ใช่กับลีออย เพราะสำหรับเธอแล้ว รามิเรซมีเสน่ห์น่าค้นหา ดูเป็นคนดี น่ารักอบอุ่น

เมื่อรามิเรซถูกจับกุมตัว ลีออยซึ่งทำงานเป็นฟรีแลนซ์ให้กับนิตยสารวัยรุ่นได้เขียนจดหมายถึงรามิเรซ ไม่นานทั้งคู่สานสัมพันธ์ผ่านทางจดหมาย จนเข้าคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ แต่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสทางกาย เนื่องจากรามิเรซเป็นนักโทษที่รอประหารชีวิตอยู่ในคุก ไม่มีสิทธิ์ได้รับการเข้าเยี่ยม ยกเว้นว่าทั้งคู่จะแต่งงานกัน

สุดท้ายลีออยก็ได้แต่งงานกับรามิเรซ ฆาตกรต่อเนื่องผู้บูชาซาตาน ท่ามกลางความตกตะลึงของสังคมและความผิดหวังจากสมาชิกในครอบครัวของลีออย มันเป็นงานแต่งงานที่ผิดปกติเอามากๆ เพราะมีแต่ญาติเจ้าบ่าว ส่วนญาติเจ้าสาวไม่มีใครเดินทางมาที่เรือนจำ แม้กระทั่งฝาแฝดของลีออยก็ไม่มาร่วมงาน พิธีจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวใส่ชุดสีขาว หลังจากพิธีจบ เจ้าบ่าวเข้าคุก เจ้าสาวใช้ชีวิตเยี่ยงเสรีชน 

การแต่งงานครั้งนี้หักอกแฟนคลับสาวๆ ของนักฆ่าแห่งรัตติกาล ขนาดรามิเรซฆ่าคนและติดคุกก็ยังมีแฟนคลับส่งจดหมายมาหา ส่งภาพเปลือยตัวเองแนบมาด้วย และขอต่อคิวเข้าพบพูดคุยทางโทรศัพท์กับรามิเรซเป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งลูกขุนผู้หญิงคนหนึ่งยังยอมรับว่าตกหลุมรักเขาเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำใจตัดสินให้ประหารชีวิตชายผู้นี้

นี่คือเซเลบฆาตกรต่อเนื่องที่ใช้ช่วงเวลาของการขึ้นศาลเป็นที่ ‘เปล่งประกาย’ ต่อสังคม สร้างความเจ็บช้ำให้เหยื่อและญาติผู้เสียชีวิต การกระทำของลีออยจึงเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมฉงนสงสัยว่าทำไมผู้หญิงดีๆ อย่างเธอกลับเลือกคู่ชีวิตเป็นฆาตกรต่อเนื่องได้อย่างน่าประหลาดใจ

แม้สุดท้ายความรักของทั้งสองจะจบลงที่การหย่าร้าง ลีออยไม่ได้รับโอกาสกลับคืนสู่สังคมและครอบครัวเธออีกต่อไป ดังที่ฝาแฝดของลีออยให้สัมภาษณ์กับสื่อในเวลาต่อมาว่า 

“ฉันไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับเธอทั้งสิ้น สิ่งที่เรามีร่วมกันก็แค่เราเกิดมาพร้อมกันเท่านั้น”

2

ริชาร์ด รามิเรซ เป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้องทั้ง 5 ของครอบครัวเม็กซิกันอพยพ พ่อทำงานให้บริษัทรถราง แม่ทำงานโรงงาน ตอนเด็กๆ เขาป่วยเป็นโรคลมบ้าหมู และติดกาว ชอบปลีกวิเวกไปใช้ชีวิตเพียงลำพังในสุสาน พ่อของรามิเรซชอบใช้ความรุนแรงเป็นประจำ ตอนอายุ 12 ปี ลูกพี่ลูกน้องที่ไปรบในสงครามเวียดนามกลับมา และได้โชว์รูปผู้หญิงเวียดนามที่ถูกเขาข่มขืน ถูกทรมาน และยิงทิ้ง มันตราตรึงรามิเรซมาก พอเขาอายุ 15 ปี รามิเรซยังเป็นพยานในเหตุการณ์ที่ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ใช้ปืนยิงแสกหน้าภรรยาตัวเองจนตายอีกด้วย

รามิเรซติดยาเสพติดงอมแงมจนเลิกเรียนหนังสือ เขาตระเวนย่องเบา งัดแงะขโมยรถ เพื่อหาเงินไว้ซื้อยาเสพ ซึ่งได้รับวิชาลักทรัพย์มาจากพี่ชายคนโต กระทั่งเขาโดนจับและต้องติดคุกในข้อหาลักทรัพย์

ครั้นออกจากคุกในวัย 24 ปี เส้นทางนักฆ่าแห่งรัตติกาลก็เริ่มอุบัติขึ้น เดือนมิถุนายน 1984 รามิเรซฆ่าเหยื่อเป็นรายแรก เป็นหญิงชราวัย 79 ชื่อ เจนนี วินคาว (Jennie Vincow) เธอถูกฆ่าปาดคอ ร่างกายถูกกระหน่ำแทงหลายแห่ง ศพถูกพบโดยลูกที่มาเยี่ยม มันคือการฆ่าที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก หลังจากนั้นรามิเรซก็ไล่ฆ่าคนตอนกลางคืนอย่างบ้าคลั่ง จนสื่อมวลชนตั้งฉายาว่า ‘นักฆ่าแห่งรัตติกาล’

บางครั้งเขาก็วาดรูปบูชาซาตานไว้ในที่เกิดเหตุ บางคราเขาชำแหละศพ ควักลูกตาศพ เหยื่อที่ถูกเขาข่มขืนมีทั้งชายและหญิง ไม่เกี่ยงอายุ ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนแก่ ต่างมีโอกาสตกเป็นเป้าหมายของฆาตกรใจโฉดรายนี้ทั้งสิ้น 

ตอนแรกตำรวจมีพยานจากเหยื่อเพียงแค่ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีเชื้อสายละติน ผมยาว และกลิ่นตัวแรงมาก ผู้รอดชีวิตรายหนึ่งเผยว่าผู้ก่อเหตุบังคับให้เธอพูดว่าบูชาซาตาน และห้ามมองหน้าหรือสบตา ก่อนจะถูกข่มขืน ระหว่างนั้นเธอแอบสังเกตเห็นรถที่เขาขับมาแล้วพยายามจดจำสี รุ่น เธอเห็นทะเบียนรถส่วนหนึ่ง และได้บอกเป็นเบาะแสแก่ตำรวจ

รามิเรซเลือกเหยื่อหลากหลาย โดยใช้เทคนิคการย่องเบา บ้านไหนที่เปิดหน้าต่างไว้ เขาก็จะเข้าไป แต่บ้านหลายหลังก็ถูกเขางัด ตำรวจพบรอยรองเท้าที่เขาเข้าไปก่อเหตุ พวกเขาสืบสาวถึงยี่ห้อ สถานที่จำหน่าย แต่ทางการเมืองซานฟรานซิสโกดันเปิดเผยเบาะแสนี้แก่สื่อ ทุกอย่างเลยพัง เพราะรามิเรซก็ตามดูข่าว เขาเลิกใช้รองเท้านี้ก่อเหตุทันที

อย่างไรก็ดี เบาะแสรถที่เหยื่อของเขาให้ข้อมูลกับตำรวจ นำไปสู่การสืบสวนจนเจอรถคันดังกล่าว พวกเขาพบว่ารถถูกขโมยมา มีการสืบสวนหารอยนิ้วมือ รูปสเก็ตช์คนร้ายใบแรกของรามิเรซมาจากเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่ถูกเขาอุ้มลักพาตัวจากบ้านไปล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนปล่อยให้รอดชีวิต 

แม้จะมีเบาะแสมากขนาดนี้ แต่ก็ยังห่างไกลกับการสาวถึงตัวรามิเรซ ถึงตำรวจจะมีลายนิ้วมือคนร้ายแล้ว แต่ด้วยวิทยาการสมัยนั้นไม่สามารถระบุตัวได้ทันที ตำรวจต้องเอาลายนิ้วมือไปเทียบกับลายนิ้วมือผู้ต้องหาที่โดนจับกุมทีละคน ดังนั้นจึงแทบจะยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร หลักฐานเดียวที่พอจะเป็นไปได้คือพวกเขาพบนามบัตรคลินิกทำฟันแห่งหนึ่งในย่านไชนาทาวน์ ซึ่งตกอยู่ในรถที่ใช้ก่อเหตุ ตำรวจตามเบาะแสนั้นไป พบว่าชายที่เข้ารักษาคนหนึ่งมีรูปพรรณใกล้เคียงกับนักฆ่าแห่งรัตติกาล ทั้งรูปร่างและรูปทรงของฟัน ที่ตรงกับบาดแผลโดนกัดจากร่างเหยื่อคนหนึ่ง 

เจ้าหน้าที่พบว่าชายที่มารักษานี้ใช้ชื่อปลอม ตำรวจย้ำกับทันตแพทย์ว่า หากชายคนนี้เข้ามารักษาฟันอีกครั้งให้รีบแจ้งทันที ทันตแพทย์ทำทุกอย่างที่ตำรวจบอก แต่เจ้าหน้าที่ก็คว้าน้ำเหลว ยังจับตัวเขาไม่ได้

การฆ่ายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แรงกดดันถาโถมใส่นักสืบ เจ้าหน้าที่ ความหวาดผวาก็เพิ่มสูงขึ้นในเมืองลอสแองเจลิส ตำรวจคลำหาเบาะแสทุกอย่างที่เป็นไปได้ จนพบเบาะแสของพ่อหญิงสาวคนหนึ่ง ที่แจ้งว่าลูกเขาเคยคบหากับผู้ชายลักษณะเหมือนนักฆ่าแห่งรัตติกาล ตำรวจจึงสืบสาวไปจนพบชื่อ ริชาร์ด รามิเรซ เมื่อดูประวัติอาชญากรรมแล้วนำลายนิ้วมือรามิเรซมาเทียบลายนิ้วมือของนักฆ่าแห่งรัตติกาล ทุกอย่างตรงกัน ในที่สุดหมายจับก็ได้รับการอนุมัติ รูปถ่ายของรามิเรซถูกนำเสนอผ่านทางสื่อทุกช่องทาง โดยเฉพาะโทรทัศน์

วันที่ 31 สิงหาคม 1985 สิบสี่เดือนหลังการก่อเหตุครั้งแรก รามิเรซนั่งรถทัวร์กลับจากการไปเยี่ยมญาติ เมื่อถึงสถานี เขาก็เห็นภาพของตัวเองลงหนังสือพิมพ์ ผู้คนเริ่มมองหน้าเขาเทียบกับภาพข่าวหน้าหนึ่ง ชายหนุ่มจึงเริ่มวิ่งหนี พยายามจี้ชิงรถจากหญิงสาวคนหนึ่ง แต่สามีของเธอได้ยินเสียง จึงใช้เหล็กตีหัวรามิเรซเข้าอย่างจัง ก่อนตะโกนแจ้งว่าพบนักฆ่าแห่งรัตติกาลแล้ว 

ชาวบ้านละแวกนั้นต่างกรูเข้าช่วยจับกุมและรุมประชาทัณฑ์รามิเรซ ก่อนจะมีการแจ้งตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงรามิเรซได้พูดออกมาว่า 

“ผมเองแหละ นักฆ่าแห่งรัตติกาล”

3

ตำรวจค้นที่พักของริชาร์ด รามิเรซ พบทรัพย์สินที่เขาขโมยจากที่เกิดเหตุที่เขาลงมือสังหารโหด รามิเรซหยิบฉวยมาเหมือนของที่ระลึก ซึ่งมีจำนวนมหาศาล และกลายเป็นหลักฐานมัดตัวเขาเป็นอย่างดี เหยื่อผู้รอดชีวิตต่างชี้ตัวเขาได้ถูกต้องทั้งหมด 

การไต่สวนคดีเริ่มขึ้น นักฆ่าแห่งรัตติกาลปรากฏกายในฐานะคนดัง เขาใส่แว่นดำ สวมสูท ชูฝ่ามือที่เขียนสัญลักษณ์ซาตานไว้เพื่อให้สื่อถ่ายภาพ คนที่เข้าร่วมการพิจารณคดี นอกจากเหยื่อที่รอดชีวิตและญาติผู้เสียชีวิตแล้ว ก็ยังมีสาวๆ ผู้ที่ชื่นชอบเขามานั่งฟังด้วย บางคนโบกมือทักทายรามิเรซ ซึ่งเขาก็โบกมือทักทายแฟนคลับสาวๆ กลับด้วย แน่นอน ตัวลีออยก็มานั่งฟังด้วยความชื่นชมเช่นกัน

“ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาน่าจะบริสุทธิ์ เพราะหลักฐานมันอ่อนมาก”

นักข่าวที่ไปทำข่าวยอมรับว่าตัวรามิเรซเองมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด ช่วงเวลานั้นลีออยเริ่มส่งจดหมายหารามิเรซ ว่ากันว่าตอนนั้นมีหญิงสาวที่ปวารณาตัวเองเป็นคนรักของรามิเรซอยู่ถึง 15 คนด้วยกัน

รามิเรซถูกคุมขังกว่า 4 ปี ก่อนที่ลูกขุนจะมีคำตัดสินว่าเขากระทำผิดฐานฆาตกรรม 13 ราย พยายามฆ่า 5 ราย ข่มขืนเหยื่อ 11 คดี ย่องเบา 14 คดี มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตริชาร์ด รามิเรซ ท่ามกลางความโล่งอกของเหยื่อและญาติผู้เสียชีวิต ตัวรามิเรซเองนั้นไม่ได้มีความสำนึกผิดในสิ่งที่เขาก่อเลย ในขณะไต่สวนคดีเขาเคยพูดออกมาว่า

“พวกเอ็งไม่อาจเข้าใจข้าได้หรอก ข้าคือสิ่งที่อยู่เหนือประสบการณ์พวกเอ็งทุกคน ข้าเป็นได้ทั้งคนดีและปีศาจ ข้าจะกลับมาล้างแค้น ลูซิเฟอร์จะกลืนกินพวกเราทั้งหมด”

แม้กระทั่งพอได้ยินว่าตัวเองถูกประหารชีวิต นักฆ่ารายนี้ยังพูดออกมาอย่างไม่สะทกสะท้านว่า 

“เยี่ยมไปเลย”

4

ขณะรอเวลาประหารชีวิตในเรือนจำ รามิเรซยังคุยกับแฟนๆ ทางจดหมายและทางโทรศัพท์ ลีออยก็เช่นกัน เธอหมั่นไปเยี่ยมเขาบ่อยครั้ง และเถียงสุดใจขาดดิ้นว่ารามิเรซมีเธอเป็นแฟนสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ 15 คนตามที่สื่อนำเสนอ ทั้งสองพูดคุยกันจนตกลงหมั้นหมายในปี 1988 ท่ามกลางเสียงก่นด่าสาปแช่งของคนในสังคม

ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่กับลีออย เธอรักรามิเรซสุดหัวใจ ถึงขนาดโดนครอบครัวตัดขาด ยอมโดนเพื่อนเลิกคบ หลังการหมั้นหมาย 8 ปี เรือนจำก็อนุญาตให้ทั้งสองแต่งงานกันได้ในปี 1996 เธอเปลี่ยนนามสกุลไปใช้ของนักฆ่าแห่งรัตติกาล ลีออยบอกกับสื่อว่าตัวเธอนั้นอยากจะมีลูกหลายๆ คน แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้

“ฉันอยากจะแต่งงานกับเขา ฉันรู้หัวใจของตัวเองดีว่าจะต้องทำอะไร”

อย่างไรก็ตาม รักครั้งนี้ดำรงอยู่ได้เพียง 13 ปีเท่านั้น เมื่อเจ้าหน้าที่นำดีเอ็นเอของรามิเรซไปเทียบเคียงพบว่าเขาเคยก่อเหตุฆาตกรรมเด็กหญิงเชื้อสายเอเชียวัย 9 ขวบในช่วงก่อนปี 1984 ตอนนั้นรามิเรซยังไม่กลายเป็นนักฆ่าแห่งรัตติกาลด้วยซ้ำ ทำให้ลีออยตัดสินใจหย่าขาดจากสามีที่ไม่เคยได้สัมผัสทางกายหลังจากแต่งงานแม้แต่ครั้งเดียว

ชีวิตของลีออยหลังจากนั้นเงียบหายไปจากการรับรู้ของสาธารณชน ยิ่งในปี 2013 ที่รามิเรซเสียชีวิตในเรือนจำ แม้สื่อจะออกตามหาลีออยกัน แต่ก็หาตัวไม่พบ ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตเธอหลังการหย่าร้างกับฆาตกรต่อเนื่องเป็นเช่นไร

แต่สำหรับนักฆ่าแห่งรัตติกาลแล้ว ช่วงเวลาในเรือนจำของเขา ไม่เคยขาดแคลนแฟนคลับสาวๆ ในวันที่เสียชีวิตนั้น มีหลักฐานยืนยันว่ารามิเรซแต่งงานหญิงสาวแฟนคลับคนหนึ่งด้วย

ความตายของรามิเรซทำให้ญาติผู้เสียชีวิตและเหยื่อต่างโล่งใจ แม้จะไม่ได้เห็นเขาต้องโทษประหารชีวิต แต่ความตายก็ช่วยยุติความเจ็บปวดและฝันร้ายลงได้บ้าง

หนึ่งในเหยื่อของรามิเรซและรอดชีวิตมาได้ ยอมเปิดเผยถึงเหตุการณ์ถูกทำร้าย ซึ่งส่งผลต่อเธอทั้งร่างกายและจิตใจว่า

“ตอนกลางคืนคือช่วงเวลาที่แย่สุด ฉันกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวอยู่เสมอ ถึงวันนี้ ฉันยังคงได้ยินเสียงลูกสาวซึ่งนอนจมกองเลือด พูดคร่ำครวญออกมาอยู่ตลอดว่า แม่จ๋า อย่าตายนะ”

 

อ้างอิง

https://www.nytimes.com/2013/06/08/us/night-stalker-killer-richard-ramirez-dies-at-53.html

https://www.esquire.com/entertainment/tv/a35191661/richard-ramirez-night-stalker-the-hunt-for-a-serial-killer-netflix-facts/

https://www.cbsnews.com/pictures/richard-ramirez-night-stalker-murders/49/

https://www.manchestereveningnews.co.uk/news/tv/who-night-stalker-story-behind-19697744

https://www.oxygen.com/true-crime-buzz/why-did-serial-killer-richard-ramirez-attract-fangirls

https://www.latimes.com/archives/la-xpm-1989-11-08-me-891-story.html

http://edition.cnn.com/US/9707/28/nightstalker.wife/

https://www.marieclaire.com/culture/a35048990/richard-ramirez-wife-doreen-lioy/

https://www.latimes.com/archives/la-xpm-1996-10-03-ls-49781-story.html

Tags: , ,