‘สวยเหมือนหญิงแท้’ หรือ ‘ตลกโปกฮา’ การยอมรับอย่างมีเงื่อนไข ที่กะเทยไทยยังคงต้องเผชิญ

‘สวยเหมือนหญิงแท้’ หรือ ‘ตลกโปกฮา’ 

การยอมรับอย่างมีเงื่อนไข

ที่กะเทยไทยยังคงต้องเผชิญ

นอกจากอัตลักษณ์ทางเพศแบบชายหญิงแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยมีความคุ้นเคยกับหญิงข้ามเพศ (Trans Women) หรือที่สังคมมักเรียกกันว่า ‘กะเทย’ มากกว่ากลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในพื้นที่สื่อ ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้กับหญิงข้ามเพศ (รวมถึงเกย์ชายในระยะหลัง) มากกว่าที่ไหนๆ 

เพราะผู้คนรับรู้ถึงการมีอยู่และรู้สึกคุ้นเคย ดังนั้นการที่ใครคนหนึ่งแสดงออกว่าตนมีอัตลักษณ์ทางเพศเป็นหญิงข้ามเพศจึงดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร หากเทียบกับการบอกว่าตนเป็นทรานส์เมน นอนไบนารี เควียร์ รวมถึงเพศหลากหลายอื่นๆ ที่ยังไม่ได้มีพื้นที่มากนักหรือไม่แม้แต่จะมีใครรู้จัก 

แต่การได้รับการรู้จักที่มากกว่า ก็ไม่ได้หมายความว่าหญิงข้ามเพศหรือกะเทยจะได้รับการยอมรับแล้วจริงๆ

“สวยจนอยากยกมดลูกให้” 

เราพบเห็นคำนี้อยู่บ่อยครั้ง เมื่อเปิดโซเชียลมีเดียไปแล้วเจอกับภาพของหญิงข้ามเพศที่มีความงามตรงตามบรรทัดฐาน ที่แม้ว่าเจตนาของผู้พูดจะเป็นไปในเชิงชื่นชม แต่แท้จริงแล้วมันอาจเป็นการไม่เคารพถึงอัตลักษณ์ทางเพศ และตอกย้ำว่า ไม่ว่าอย่างไรความงามของกะเทยก็ต้องมีผู้หญิงเป็นต้นฉบับ มีการแบ่งแยกว่าแบบไหนคือของแท้ แบบไหนของปลอมอยู่ดี

หากหญิงไทยส่วนใหญ่อยากสวยแบบ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ หญิงข้ามเพศไทยบางส่วนก็อยากสวยแบบ ปอย-ตรีชฎา เพชรรัตน์ มาตรฐานความงามในวงการหญิงข้ามเพศเป็นไปอย่างเข้มข้นไม่แพ้ผู้หญิง จนเรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่อีกทางหนึ่ง จะเห็นได้ว่าก็ยังคงมีการแบ่งแยกหญิงข้ามเพศออกจากผู้หญิงอย่างชัดเจน เพราะต่อให้มีใบหน้าหวาน ตาโต จมูกโด่ง รูปร่างผอม ผิวนวลเนียนเหมือนกัน แต่ความสวยของกะเทยก็ยังถูกมองว่าแตกต่างกันกับผู้หญิงด้วยเหตุจากเพศกำเนิด

เพื่อจะเป็นกะเทยรุ่นพี่ที่สวยเป๊ะปัง เรื่องอาจไม่ได้จบแค่การแต่งหน้าหรือแต่งตัวที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศ แต่ยังต้องผ่านกระบวนการอื่นๆ ที่อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งกายและใจ 

การรับฮอร์โมนเพศหญิง ศัลยกรรมเสริมความงาม การผ่าตัดแปลงเพศ ไปจนถึงการผ่าตัดกล่องเสียงให้เล็กแหลมขึ้น วิธีเหล่านี้คือสิ่งที่หญิงข้ามเพศจำนวนมากต้องเผชิญ หากอยากจะสวยตามบรรทัดฐานของผู้หญิงที่กลายเป็นกรอบค่านิยมบางอย่างในสังคม แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีต้นทุนที่จะได้เข้าถึงสิ่งเหล่านี้ หลายคนจึงยังคงต้องดำเนินชีวิตด้วยรูปลักษณ์แบบผู้ชาย แม้จะอยากปรับเปลี่ยนมันให้สวยหมดจด ไม่ว่าจะตามที่ตนเลือกหรือเพราะสังคมบอกก็ตาม

ถ้าขายสวยไม่ได้ ก็ต้องขายขำ

ถ้าไม่สามารถพิสูจน์ถึงความสวยเนียนนี (งดงามเหมือนผู้หญิง) ของตัวเองได้ อีกหนึ่งทางในการที่หญิงข้ามเพศจะถูกยอมรับจากสังคม ก็ต้องเป็นเรื่องนิสัยใจคอ 

กะเทยมักจะถูกคาดหวังให้เป็นคนเฮฮา อารมณ์ดี ซึ่งแม้ว่าจะเป็นคุณสมบัติที่ดี แต่ก็น่าแปลกที่ผู้คนยังคงสร้างภาพเหมารวม ราวกับว่าอัตลักษณ์ทางเพศเป็นปัจจัยเดียวที่จะกำหนดอุปนิสัยของคนคนหนึ่งได้ทั้งหมด

สตรีเหล็ก หอแต๋วแตก และตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค ฯลฯ เหล่านี้คือภาพยนตร์ที่มีตัวละครนำเป็นหญิงข้ามเพศ ที่ส่วนมากล้วนแล้วแต่ผ่านกระบวนการสร้างภาพจำให้กะเทยดูเป็นคนตลก สนุกสนาน เป็นผู้สร้างเสียงหัวเราะ และหลายครั้งมุขตลกเหล่านั้นมักจะอิงอยู่กับการล้อเลียนอัตลักษณ์ทางเพศของกะเทยเสียเอง

ก่อนที่หญิงข้ามเพศจะได้มีพื้นที่ในสื่อกระแสหลักและมีเรื่องราวเป็นของตัวเองเช่นนี้ ในอดีตนั้น ภาพของกะเทยที่ถูกเสนอต่อพื้นที่สาธารณะในไทยมักเป็นไปในเชิงลบ และเป็นไปเพื่อผลิตภาพจำในเชิงเหยียดหยามว่ากะเทยมีรสนิยมทางเพศที่ผิดไปจากปกติ หรืออาจถึงขั้นต้องได้รับการบำบัดรักษา

เราคงเคยได้ยินคำว่า ‘อัดถั่วดำ’ ที่ถูกใช้เป็นคำเรียกแทนการร่วมเพศทางทวารหนัก คำนี้ถูกอ้างอิงมาจากคดีของ การุญ ผาสุก หรือ ‘นายถั่วดำ’ ซึ่งมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายและนำเด็กชายไปขายบริการ แม้ว่าคดีนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2478 และเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล แต่ก็ยังคงมีการนำชื่อของนายถั่วดำมาใช้ในการเหยียดรสนิยมทางเพศอยู่ตลอด

แม้การเหยียดเพศแบบตรงไปตรงมาจะถูกตั้งคำถามมากขึ้นในสังคมปัจจุบัน และภาพจำแบบลบสุดขั้วต่อหญิงข้ามเพศจะถูกนำเสนอน้อยลง รวมถึงมีการยอมรับหญิงข้ามเพศมากขึ้น แต่การยอมรับที่ว่าก็ยังคงต้องแลกมาด้วยเงื่อนไขหลายอย่างอยู่ดี จากการเหยียดหยามอย่างตรงไปตรงมาในอดีต นำมาสู่การล้อเลียนเป็นมุขตลก จนสุดท้ายหญิงข้ามเพศกับความตลกที่บ่อยครั้งมีนัยของการเหยียดหยามก็ได้กลายเป็นของคู่กันไปโดยปริยาย

การพิสูจน์ตัวเองคงเคยเกิดขึ้นกับเราทุกคนอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต แต่การพิสูจน์ตัวเองของหญิงข้ามเพศรวมถึงเพศหลากหลายเป็นไปอย่างหนักหนากว่านั้น ตราบใดที่ยังมีผู้คนที่เปลี่ยนใจทีหลังหากรู้ว่าสาวสวยที่ตัวเองชอบพออยู่เป็นหญิงข้ามเพศ กะเทยไทยที่มีคนบอกว่าโชคดีเพราะถูกยอมรับจากสังคมมากกว่าใครๆ ก็ยังไม่ได้ถูกยอมรับอย่างแท้จริงอยู่ดี