3 ขั้นตอนเทรนด์ให้ผู้หญิงยอมให้คุณมีบ้านที่สอง

วิธีคบซ้อนมากกว่า 2 คน (แบบผู้หญิงต่อรองไม่ได้)

เกมซ้อนเกม ปั่นหัวผู้หญิงให้ยอมให้คุณมี 2 คน

เหล่านี้คือเนื้อหาในวิดีโอขนาดสั้นของ ‘ครูตี๋ สอนจีบสาว’ (@krutee_sonjeebsaw) TikToker แนวไลฟ์โค้ชรายหนึ่งที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายสื่อโซเชียลฯ ถึงความไม่เหมาะสมของเนื้อหาที่ส่งเสริมให้ผู้ชายกดขี่และด้อยค่าผู้หญิงที่ตนคบหา

หนึ่งในคลิปที่ถูก ‘ทัวร์ลง’ อย่างหนัก คือคลิปแนะนำวิธีการ Gaslight ให้ฝ่ายหญิงยอมให้ตนไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยได้ โดยแนะนำว่า ต้องเลือกผู้หญิงที่มีเลเวลต่ำกว่า ไม่ควรแสดงตัวอย่างชัดเจนแต่แรกว่านอกใจ เพราะผู้หญิงคนนี้อาจจะ ‘กบฏจนขอเลิก แต่ควรเปลี่ยนเป็นการค่อยๆ ‘เทรนด์’ ให้เธอเรียนรู้ที่จะรับมันได้ โดยการเกริ่นทีเล่นทีจริงว่าจะมีคนอื่น แม้ช่วงแรกอาจจะรับไม่ได้ แต่ในที่สุดเธอก็จะชินกับคำพูดเหล่านี้ 

นี่คือการล้างสมอง เราจะต้องทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเมื่อถึงจุดหนึ่ง เราก็ค่อยๆ หายไป แต่อย่าเพิ่งไปสร้างบ้านที่สองทันที ให้ไปที่อื่นโดยไม่มีเหตุผล เพื่อให้เธอหาไม่เจอ แล้วมาโมโหใส่ แต่อย่าลืมถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐานนำมา Gaslight ให้ผู้หญิงรู้สึกงี่เง่า และ Toxic เกิดความไม่มั่นใจและความกลัวว่าจะเสียคุณไป 

แล้วเราถึงจะเริ่มต้นคุยกับบ้านที่สอง หรือที่เราเรียกว่ามือที่สาม หรืออะไรก็แล้วแต่ ค่อยๆ หนักแน่นและเลี้ยงให้บ้านนี้เติบโต จนถึงจุดหนึ่งผู้หญิงก็จะรับได้กับสิ่งนี้ เพราะเธอโทษตัวเองว่า คุณไปมีคนอื่นเพราะเธอเป็นแบบนี้” ตี๋กล่าวแนะนำผู้ชมของตน

ไม่แน่ว่าสำหรับคนไทย คำว่า Gaslight อาจเป็นหนึ่งในคำแห่งปีที่เราเห็นบ่อยที่สุดคำหนึ่ง โดยเฉพาะปรากฏการณ์ที่ชาวเน็ตเรียกกันขำๆ ว่า ‘ปรากฏการณ์พระโคแดกชายแท้’ ที่ปรากฏชื่อชายมีชื่อเสียงยาวเป็นหางว่าว ที่ถูกแฉในปี 2023 ว่า นอกใจ ทำร้ายร่างกาย กลั่นแกล้ง หรือไม่ก็ล่วงละเมิดทางเพศผู้อื่น มาจนถึงกรณีล่าสุด เมื่อชายที่ตั้งตนเป็นไลฟ์โค้ชด้านความสัมพันธ์รายหนึ่ง แนะนำให้ผู้ชาย Gaslight คนรักของตน เพื่อให้สามารถนอกใจได้อย่างสะดวก

แรกเริ่มเดิมที คำว่า Gaslight มีที่มาจากภาพยนตร์เรื่องดังแห่งยุค 40s ที่มีชื่อเดียวกันคือ Gaslight (1938) เกี่ยวกับภรรยาที่ถูกสามีพยายามเข้าควบคุมอารมณ์และจิตใจของเธอ ทำให้เธอสงสัยเคลือบแคลงในสติสัมปชัญญะของตนเองด้วยวิธีการต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการหรี่ไฟตะเกียงแก๊สให้มืดลง เมื่อภรรยาเอะใจ เขากลับบอกว่าเธอคิดไปเอง และทำเช่นนี้ซ้ำๆ จนอีกฝ่ายรู้สึกสับสน ราวกับตัวเองกำลังจะเป็นบ้า

คำว่า Gaslight จึงกลายมาเป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกการกระทำในทำนองเดียวกันโดยจงใจ เพื่อที่จะด้อยค่าอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้เขาหรือเธอรู้สึกว่าไม่สามารถเชื่อใจตนเองได้ จึงต้องรู้สึกผิดต่อผู้กระทำ ทั้งที่ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด 

 

ลิซา ลอว์เลส (Lisa Lawless) นักจิตบำบัดและผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ ระบุว่า “เมื่อไรที่คนรักจะ Gaslight คุณ เขาจะพยายามควบคุมจิตใจของคุณด้วยการทำให้คุณตั้งคำถามกับความคิด ความทรงจำ และเหตุการณ์ต่างๆ พวกเขามักจะกล่าวหาว่า คุณ ‘เซนซิทีฟเกินจำเป็น’ หรือ ‘ไม่มีเหตุผล’ และบอกว่าคำพูดของคุณ ‘เวอร์’ หรือ ‘เหมือนคนบ้า’ เขาทำแบบนี้ก็เพื่อให้คุณรู้สึกว่าต้องพึ่งพาเขา ให้เขาคอยยืนยันสิ่งต่างๆ เพื่อที่เขาจะสามารถหลอกให้คุณเข้าใจเรื่องต่างๆ ผิดไปจากความจริง”

ลิซากล่าวว่า นี่เป็นเทคนิคที่คนรักกำลังนอกใจมักใช้เพื่อปกปิดความสัมพันธ์ของเขากับมือที่สาม หรือแม้กระทั่งโบ้ยความผิดให้คนรักของตนเชื่อว่า การโดนนอกใจในครั้งนี้เกิดจากความบกพร่องของเจ้าตัวเอง

‘ไลฟ์โค้ช’ แห่งคอมมูฯ ชายแท้

ครูตี๋เป็นเพียง TikToker คนหนึ่งท่ามกลางคลื่นผู้ผลิตคอนเทนต์ลักษณะนี้ ที่มีอยู่จำนวนมากบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น TikTok, YouTube หรือ Facebook ทั้งในภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ

คนเหล่านี้มักอ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหาแฟนและสานความสัมพันธ์กับผู้หญิง แต่กลับให้คำแนะนำและเสนอมุมมองที่เกลียดชังและด้อยค่าผู้หญิง (Misogynistic) อย่างรุนแรง เช่น ‘5 คุณสมบัติของแม่ของลูกที่ดี’ (ในคลิประบุว่า คุณสมบัติประการหนึ่งที่สำคัญ คือต้องไม่ผ่านผู้ชายมาเยอะ) ‘ข้อผิดพลาดที่ทำให้ผู้ชายเบื่อคุณ’ หรือ ‘เหตุผลที่ผู้ชายไม่ควรเชื่อฟังผู้หญิง’ 

โดยแนวคิดที่ทั้ง ครูตี๋ สอนจีบสาว และผู้ผลิตคอนเทนต์หลายราย มักใช้เป็นแนวคิดแกนหลักของแชแนล มีดังนี้

1. ระบบวัดระดับคุณค่าของชายหญิง

‘ผู้ชายคุณค่าสูง’ หรือ ‘ผู้หญิงคุณค่าสูง’ เป็นคำที่พวกเขาใช้บ่อยครั้ง และปรากฏให้เห็นบ่อยเป็นพิเศษในหลายคลิป แน่นอนว่าเมื่อมีชายหญิงคุณค่าสูงแล้ว ย่อมมีขั้วตรงข้ามคือชายหญิงคุณค่าต่ำตามมา

โดยมาก ผู้ชายคุณค่าสูง (High Value Men) มักได้รับคำนิยามว่า เป็นผู้ชาย ‘แมนๆ’ มีความเป็นชายชาตรีตามค่านิยมดั้งเดิม และที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมีรายได้สูง ในขณะที่ผู้หญิงคุณค่าสูง (High Value Women) อาจจะไม่ได้จำเป็นต้องมีรายได้มากมายนัก แต่ควรจะมีคุณสมบัติความเป็น ‘แม่ของลูก’ ที่สามารถตีความได้หลายทาง บางชาแนลอาจให้ความสำคัญกับประสบการณ์เรื่องเซ็กซ์ว่าไม่ควรมีมากจนเกินไป ในขณะที่ชาแนลอื่นๆ เช่น ครูตี๋ ก็ให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาของผู้หญิง

ในคลิป ‘วิธีสูบเงินและปอกลอกผู้หญิงอย่างถูกต้อง’ ครูตี๋อธิบายว่า สิ่งที่เขากำลังแนะนำไม่ใช่การสูบทรัพยากรอยู่ฝ่ายเดียว แต่เป็นการแลกเปลี่ยนอย่างสมน้ำสมเนื้อด้วยคุณค่าต่างๆ ที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ในมือ เช่น ผู้ชายที่มีเงินกับผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาดี หรือผู้หญิงที่มีเงินกับผู้ชายที่พึ่งพาได้ มีความเป็นชายสูง มาแลกเปลี่ยนกัน

2. คนอื่นเลือก Blue Pill ที่อยู่กับโลกมายา ส่วนฉันคือ Red Pill ที่อยู่กับความเป็นจริง

แนวคิด Red Pill หรือยาเม็ดสีแดง ถือเป็นอีกหนึ่งสรณะที่ผู้ชายกลุ่มนี้ยึดถือ มีที่มาจากภาพยนตร์ที่ออกฉายเมื่อประมาณ 25 ปีก่อน คือ The Matrix (1999) ที่ตอนต้นเรื่อง ชายสวมแว่นดำชื่อมอร์เฟียส (Morphius) มอบ 2 ตัวเลือกให้กับพระเอก โดยใช้ยาเม็ดสีแดงและยาเม็ดสีน้ำเงินเป็นภาพแทน

ยาเม็ดสีน้ำเงินสื่อถึงภาพมายาของโลกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกตาเราให้ใช้ชีวิตไปวันๆ มีสุข มีทุกข์ มีสีสัน มีความสนุกสนาน มีแพสชันในอุดมการณ์อันว่างเปล่า (เดาว่าหมายถึง Feminism? หรือความเท่าเทียมทางเพศ?) เป็นตัวเลือกที่เราจะสามารถเชื่อในสิ่งที่เคยเชื่อ และหลอกตัวเองต่อไปว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นความจริง

ส่วนยาเม็ดสีแดงสื่อถึงการหลุดพ้นจากภาพมายา มาเผชิญหน้ากับโลกความเป็นจริงที่โหดร้าย และใน ‘โลกความเป็นจริง’ ที่ว่านั้น ผู้หญิงเป็นเพศที่ด้อยกว่าผู้ชาย ผู้ชายซึ่งเป็นเพศผู้นำโดยธรรมชาติ จึงควรตระหนักได้ถึงความจริงข้อนี้ แล้วช่วงชิงอำนาจให้กลับมาอยู่ในการควบคุมของตนเอง

ฉะนั้น ภายในเอคโค่เชมเบอร์ขนาดใหญ่ พวกเขาแลกเปลี่ยนมุมมองที่ตนเองมีต่อผู้หญิง ประสบการณ์ของตนที่เกี่ยวข้องกับเพศหญิง ตลอดจนคำแนะนำที่จะทำให้พวกเขา ‘พัฒนาตัวเอง’ จนสามารถใช้ชีวิตอย่างผู้ชายคุณค่าสูง ได้เลือกพิชิตผู้หญิงคุณค่าสูงที่ควรค่าแก่การครอบครอง หรือไม่ก็รีดเอาผลประโยชน์จากผู้หญิงที่ถูกมองว่ามีคุณค่าต่ำกว่า

แน่นอนว่าแนวคิดเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่แต่อย่างใด หากพิจารณาตามความเป็นจริง นี่เป็นวิธีการมองโลกล้าสมัยที่มีมานานและโดนตีตกไปหลายครั้งแล้วด้วยซ้ำ 

แต่เมื่อมุมมองและเนื้อหาเหล่านี้ถูกนำกลับมา พร้อมทั้งถ่ายทอดในรูปแบบของคลิปสั้นย่อยง่ายขนาด Bite Size ผ่านแอปพลิเคชันที่นิยมในกลุ่มเยาวชน ทั้งทัศนคติ ศัพท์เฉพาะกลุ่ม และตัวตนของพวกเขา จึงถูกส่งต่อออกไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายราวกับเชื้อไวรัสแพร่ระบาด

สิ่งสำคัญที่เราทุกคนควรจับตามองให้ดีหลังจากนี้ คือมุมมองที่เป็นภัยต่อเพศหญิงเหล่านี้ กำลังถูกส่งต่อไปไกลขนาดไหน มีใครเป็นผู้รับสารหลัก ในกลุ่มผู้รับสารนั้นมีสัดส่วนเป็นเยาวชนมากเท่าไร ตลอดจนพฤติกรรมที่ปรากฏตาม ‘คำแนะนำ’ ที่ว่านี้ จะถูกนำมาปฏิบัติกับผู้หญิงในชีวิตจริงมากน้อยแค่ไหน

อ้างอิง

https://www.theguardian.com/technology/2016/apr/14/the-red-pill-reddit-modern-misogyny-manosphere-men

https://www.vox.com/culture/23978325/dating-advice-shera-seven-tiktok-sprinkle-sprinkle

https://www.women.com/1233282/signs-your-partner-is-gaslighting-you-to-disguise-their-cheating/

https://www.tiktok.com/@kru_teesonjeebsaw

Tags: , , , , , , , ,