โคโคนะ (Cocona) สมาชิกวง XG เลือกวันเกิดอายุครบ 20 ปี ประกาศว่าเป็น Transmasculine Non-binary พร้อมเปิดเผยว่า เข้ารับการผ่าตัดหน้าอกเรียบร้อยแล้ว

ในวันที่อุตสาหกรรมบันเทิงเอเชียยังยึดโยงอย่างแน่นแฟ้นกับภาพลักษณ์ของคำว่า ‘ไอดอล’ การที่ศิลปินคนหนึ่งออกมาพูดถึงเรื่องร่างกาย เพศสภาพ และอำนาจในการตัดสินใจของตัวเองต่อหน้าสาธารณะ จึงไม่ใช่เพียงการเปิดเผยตัวตน แต่คือการต่อรองเชิงโครงสร้างกับทั้งระบบที่เคยนิยามชีวิตของศิลปิน

การเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของไอดอลที่ถูกฝึกให้รักษาภาพลักษณ์ตลอดเวลา จึงคล้ายกับการเปิดประตูให้บทสนทนาเรื่องเพศสภาพ สิทธิในร่างกาย และความเป็นมนุษย์ของศิลปิน กำลังถูกผลักเข้าสู่พื้นที่สาธารณะมากขึ้น 

โคโคนะ XG เปิดใจประกาศตัวตนในวัย 20 ปี

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา โคโคนะ แรปเปอร์วง XG โพสต์ภาพของตนเองพร้อมรอยแผลจากการผ่าตัดผ่าน Instagram ทางการของวง XG หรือ @xgofficial เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 20 ปี โดยโคโคนะบอกว่านี่คือช่วงเวลาของการเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิต จึงอยากใช้โอกาสนี้เปิดเผยเรื่องที่เก็บไว้ในใจมานานว่า ตนเป็น AFAB Transmasculine Non-binary หรือบุคคลข้ามเพศแบบนอนไบนารี และเข้ารับการผ่าตัดหน้าอกไปตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

โคโคนะอธิบายว่า แม้ตนจะเกิดมาเป็นหญิงและถูกนิยามว่าเป็นเพศหญิงมาตลอดชีวิต แต่กรอบความหมายเหล่านั้นไม่สามารถสะท้อนตัวตนที่แท้จริงได้ เพราะลึกๆ แล้วใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกแบบผู้ชาย และค่อยๆ เรียนรู้ที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แม้ว่าการยอมรับตัวตนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อค่อยๆ เปิดใจกับมันทีละเล็กทีละน้อย ก็เหมือนเปิดประตูบานใหม่ให้กับชีวิต ช่วงเวลานั้นจึงทำให้โคโคนะมองโลกเปลี่ยนไป เข้าใจโลกมากขึ้น และได้รับทั้งความกล้าหาญและพลังในการเติบโต จนบอกกับตัวเองได้อย่างมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดในตัวเราที่ผิด

Transmasculine Non-binary ตัวตนที่อยู่นอกกรอบชาย-หญิง

คำว่า Transmasculine Non-binary อาจฟังดูซับซ้อนสำหรับหลายคน แต่แก่นของมันเรียบง่ายกว่าที่คิด มันคือการปฏิเสธกรอบคิดที่พยายามบีบมนุษย์ให้เลือกได้เพียง 2 ทางว่าเป็นชายหรือหญิง ทั้งที่ตัวตนของคนเรามีความหลากหลายมากกว่านั้น

Transmasculine มักใช้กับบุคคลที่เกิดมาในเพศกำเนิดหญิง หรือที่เรียกว่า AFAB (Assigned Female at Birth) แต่มีตัวตนหรือการแสดงออกเอนเอียงไปทางความเป็นชาย มากกว่าสิ่งที่สังคมนิยามไว้ตั้งแต่แรก ขณะที่ Non-binary หมายถึงการไม่จำกัดตัวเองไว้ในกรอบเพศชายหรือหญิงเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง

เมื่อรวมกันแล้ว Transmasculine Non-binary จึงหมายถึงการระบุว่า ตนมีความสอดคล้องกับความเป็นชาย แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมรับกรอบเพศแบบตายตัว เป็นการมีตัวตนอยู่ระหว่างและนอกเหนือจากเส้นแบ่งทางเพศที่สังคมคุ้นเคย

คำเหล่านี้ไม่ใช่ป้ายชื่อเพื่อความเท่ หรือศัพท์เฉพาะของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นภาษาที่อธิบายความจริงภายในของตัวเองให้ใกล้เคียงที่สุด ในโลกที่ภาษาทั่วไปยังเปิดพื้นที่ให้กับความซับซ้อนของตัวตนได้ไม่มากนัก

เมื่อการประกาศตัวตนของไอดอล คือการทวงคืนร่างกายจากอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมไอดอลในเกาหลี ญี่ปุ่น และเอเชียตะวันออก เติบโตขึ้นจากสมการที่เข้าใจกันดีว่า ภาพลักษณ์เท่ากับมูลค่า ศิลปินไม่ได้ถูกฝึกแค่ให้ร้อง เต้น หรือแสดงบนเวที แต่ยังต้องเรียนรู้การรักษาภาพลักษณ์อย่างเข้มงวด น้ำหนักต้องพอดี ทรงผมต้องตรงตามคอนเซปต์ ความรักต้องถูกซ่อน และเพศสภาพต้องไม่กลายเป็น ‘ความเสี่ยง’ ทางการตลาด ภายใต้โครงสร้างเช่นนี้ ร่างกายของไอดอลจึงแทบไม่ใช่ของตัวเองอย่างแท้จริง แฟนคลับรู้สึกว่ามีส่วนเป็นเจ้าของ บริษัทมองผ่านสายตาของผลกำไร ขณะที่ศิลปินต้องยืนรักษาภาพลักษณ์ตามกติกาที่ไม่ได้เขียนไว้

  ด้วยเหตุนี้ การที่โคโคนะเลือกเข้ารับการผ่าตัดหน้าอกและออกมาประกาศอัตลักษณ์ของตัวเอง จึงไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการดึงร่างกายและตัวตนกลับคืนมาในอุตสาหกรรมที่เคยผูกไว้กับความคาดหวังของผู้อื่นและตัวเลขทางธุรกิจ

  ในบริบทของเกาหลีใต้ยิ่งทำให้การตัดสินใจครั้งนี้มีความหมายมากขึ้น แม้ประเทศจะเป็นศูนย์กลางซอฟต์พาวเวอร์ระดับโลก แต่ประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศยังคงถูกจำกัด การสมรสเท่าเทียมยังไม่เกิดขึ้น กฎหมายคุ้มครองยังมีช่องโหว่ และบุคคลข้ามเพศในวงการบันเทิงกระแสหลักยังมีจำนวนแทบนับคนได้

  ที่ผ่านมา ผู้ชมอาจเคยเห็นศิลปินบางคน ‘ส่งสัญญาณ’ เรื่องอัตลักษณ์ผ่านแฟชั่นหรือผลงานเพลง แต่การออกมาพูดอย่างชัดเจนว่าตนเป็น Transmasculine Non-binary พร้อมเปิดเผยประสบการณ์การผ่าตัด นั่นถือเป็นการก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยที่อุตสาหกรรมเคยอนุญาตให้มี

  อีกจุดที่น่าสนใจคือ XG แม้จะถูกจัดอยู่ในกระแส K-Pop แต่มีรากฐานจากบริษัทญี่ปุ่น และวางตัวเป็น ‘Global Girl Group’ ตั้งแต่ต้น ความเป็นวงข้ามพรมแดนนี้เอง อาจกลายเป็นช่องว่างเล็กๆ ที่เปิดโอกาสให้โคโคนะพูดในสิ่งที่ไอดอลสายหลักของเกาหลียังคงพูดไม่ได้ในวันนี้

ตัวตน สิทธิ และความเป็นมนุษย์ของศิลปิน

หากมองในระดับโครงสร้าง การที่ศิลปินออกมาพูดถึงเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศอย่างตรงไปตรงมา ย่อมกระทบกับภาพที่ K-Pop และอุตสาหกรรมบันเทิงเอเชียพยายามสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดูสากล สะอาดตา และไม่ท้าทายค่านิยมหลักมากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเรื่องเพศสภาพยังถูกมองว่าเป็น ‘ความเสี่ยง’ มากกว่าจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงนี้เองกลับทำให้มีมิติของความเป็นมนุษย์มากขึ้น จากเดิมที่ศิลปินถูกทำให้เป็นเพียงสินค้าวัฒนธรรมที่ถูกขัดเงาให้ไร้ตำหนิ โดยเปิดพื้นที่ให้ไอดอลได้มีตัวตน ความรู้สึก และการตัดสินใจเหนือร่างกายของตนเอง

สิ่งที่โคโคนะทำอาจยังไม่เปลี่ยนแปลงทั้งระบบได้ในทันที แต่มีความหมายที่ลึกกว่านั้นมาก เพราะคือการส่งสัญญาณถึงเยาวชนและคนรุ่นใหม่ทุกคนว่า การเป็นตัวเองไม่ใช่เรื่องผิดไม่ว่าคุณจะอยู่จุดไหนบนสเปกตรัมทางเพศ ขณะเดียวกันในระดับอุตสาหกรรม ไม่อาจหลีกเลี่ยงการพูดถึงประเด็นสิทธิในร่างกาย ความเป็นธรรมทางเพศ และอคติที่ฝังรากลึกอยู่ในระบบการทำงานได้อีกต่อไป เพราะทุกครั้งที่ใครสักคนกล้ายืนขึ้น แม้จะเป็นก้าวเล็กๆ แต่ก็เพียงพอที่จะเขย่าทั้งระบบ และเปิดทางให้การเปลี่ยนแปลงต่อไป

  ท้ายที่สุด โคโคนะไม่ได้เรียกร้องคำชื่นชมในฐานะ ‘ไอดอลผู้กล้าหาญ’ หากแต่กำลังยืนยันสิทธิขั้นพื้นฐานที่สุด นั่นคือสิทธิในการเป็นตัวเอง เพราะตัวตนไม่ควรถูกต่อรองด้วยยอดขาย

อ้างอิง

https://www.billboard.com/music/music-news/xg-cocona-comes-out-transmasculine-non-binary-1236130004/

https://rainbowstream.club/genders

https://www.instagram.com/p/DR5_gYHEfM-/?img_index=8&igsh=d3p6MHVlYm5veG5u

Tags: , , , , , ,