หากพูดถึงบุคคลในวงการกีฬาที่เริ่มต้นถูกเรียกว่า ‘G.O.A.T.’ ซึ่งย่อมาจาก Greatest Of All Time (ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล) คงต้องกล่าวถึงชื่อของยอดนักมวยตลอดกาลอย่าง มูฮัมหมัด อาลี ยอดนักมวยเจ้าของแชมป์ในรุ่นเฮฟวีเวตทั้ง WBA​, WBC และ NABF ผู้สามารถป้องกันแชมป์ที่ตนถือครองอยู่ได้มากกว่า 10 ครั้ง

ย้อนกลับไปในปี 1963 อาลีมีโอกาสได้บันทึกบทสุนทรพจน์ที่ชื่อ ‘I Am The Greatest’ ใน CBS 30th Street Studio แม้ในตอนนั้นเขายังเป็น เคสเซียส เคลย์ (Cassius Clay) วัย 21 ปี ซึ่งเป็นชื่อเดิม และไม่ใช่อาลีผู้ยิ่งใหญ่ แต่สุนทรพจน์ของเขานั้นเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความทะนงตนว่าคือ G.O.A.T. ของวงการมวยอย่างแท้จริง

“เด็กคนนี้มีหมัดซ้าย เด็กคนนี้มีหมัดขวา หากโดนมันเข้า คุณจะหลับไปทั้งคืน หากคุณล้มลงพื้นและกรรมการเริ่มนับ 1-10 คุณจะภาวนาขอให้มันจบโดยเร็ว เพราะคุณจะไม่อยากสู้กับเด็กคนนั้นอีก

“ผมคือเด็กในกวีบทนั้น เด็กที่อยู่ในกวีซึ่งพูดถึงแชมป์โลกคนต่อไป เรื่องนี้ไม่มีสิ่งให้ต้องสงสัย ทุกอย่างคือความจริง เด็กคนนี้พูดจริง หากเด็กคนนี้พูดว่าวัวสามารถออกไข่ได้ สิ่งนี้ก็เป็นเรื่องจริง ไม่ต้องถามว่าจะเป็นไปได้อย่างไร คุณมีหน้าที่เพียงรับฟังเท่านั้น”

 

แม้จะเป็นบทประพันธ์ตลกเชิงโอ้อวด ฟังดูทีเล่นทีจริงของอาลี แต่มันก็สะท้อนถึงทัศนคติและมุมมองที่เขามีต่อตนเองในฐานะนักมวยได้อย่างชัดเจน 

กระทั่ง 6 เดือนต่อมา บทประพันธ์นี้กลับไม่ใช่แค่เรื่องตลก เพราะอาลีสามารถคว้าแชมป์เข็มขัดรุ่นเฮฟวีเวตเป็นครั้งแรก ส่งผลให้แผ่นเสียงบทสุนทรพจน์ดังกล่าวขายดีมากยิ่งขึ้น ก่อนที่ต่อมาในปี 1992 ลอนนี่ อาลี ภรรยาของเขาจะเริ่มก่อตั้งบริษัทชื่อ G.O.A.T. เพื่อจัดการธุรกิจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับอาลี หลังจากเขาแขวนนวม เกษียณตัวเองจากการเป็นนักมวย 

และนั่นจึงทำให้วลี G.O.A.T. กลายเป็นภาพจำของ มูฮัมหมัด อาลี ไปโดยปริยาย 

 

 

แต่ถึงกระนั้น คำดังกล่าวยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายในวงการกีฬาอื่นๆ จนกระทั่ง ปี 2004 มีข้อมูลปรากฏใน Google Trends ว่า วลี G.O.A.T. เริ่มปรากฏในวงการกีฬาอีกครั้งเมื่อ ทอม เบรดี (Tom Brady) นักอเมริกันฟุตบอล สามารถพาทีม New England Patriots คว้าแชมป์การแข่งขันซูเปอร์โบวล์ (Super Bowl) ในปีนั้นมาครอง จึงส่งผลให้ในเวลาต่อมา สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียเริ่มมีการตั้งฉายาให้กับเบรดีว่าเป็น G.O.A.T. ของวงการอเมริกันฟุตบอลบ่อยครั้งขึ้น

หลังจากนั้น วลี G.O.A.T. ก็เริ่มแพร่ไปในวงการกีฬาประเภทอื่นๆ อาทิ ความสำเร็จของ ไมเคิล เฟลป์ส นักว่ายน้ำทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่สร้างสถิติคว้าเหรียญทอง โอลิมปิกรวมทั้งหมด 23 เหรียญ หรือไทเกอร์ วูดส์ (Tiger Woods) นักกอล์ฟจากสหรัฐอเมริกาก็ถูกยกย่องว่าเป็น ‘แพะ’ ผู้ยิ่งใหญ่ ในช่วงเดือนเมษายน 2019 เมื่อเขาสามารถกลับมาคว้าแชมป์รายการ Masters หลังห่างหายจากความสำเร็จไปนานกว่า 11 ปี 

หากถอดสมการทั้งหมด คำว่า G.O.A.T. เริ่มต้นจากการสร้างแบรนดิงให้กับตัวเองของ มูฮัมหมัด อาลี กระทั่งวันที่เขาประสบความสำเร็จและกลายเป็นเบอร์หนึ่งของวงการกีฬามวยได้จริง ก่อนที่วลีดังกล่าวจะเริ่มแพร่สู่แวดวงกีฬาอื่นๆ โดยที่คราวนี้จะเป็นแฟนกีฬาและคนในวงการกีฬาที่มอบให้กับนักกีฬาในประเภทนั้นๆ เมื่อนักกีฬาคนดังกล่าวสามารถขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งจากการคว้าแชมป์ ทำลายสถิติ หรือไม่มีคู่แข่งคนไหนขึ้นมาเทียบเคียงความสำเร็จได้ในแบบเดียวกัน 

จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ สหรัฐอเมริกามีแนวโน้มจะสามารถตั้งนักกีฬาของชาติตนให้เป็น G.O.A.T. ได้มากกว่านักกีฬาประเทศอื่นๆ ยกเว้นในวงการฟุตบอลที่ยังไม่มีการยกให้ใครเป็น G.O.A.T. อย่างเป็นเอกฉันท์ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกีฬาดังกล่าวไม่เป็นที่นิยมในประเทศสหรัฐอเมริกา

 

 

อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่สุดที่วงการฟุตบอลยังไม่มี G.O.A.T. ตัวจริง คือการมีอยู่ของสองนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ในยุคสมัยเดียวกันอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi) จากอาร์เจนตินา และคริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) จากโปรตุเกส ที่แข่งกันสร้างสถิติและความสำเร็จเพื่อการเป็นอันดับ 1 ในวงการฟุตบอลอยู่ตลอด 

ทว่าในวันนี้ที่เมสซี่เพิ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ร่วมกับทีมชาติอาร์เจนตินาได้ และโรนัลโด้เลือกย้ายออกจากสโมสรในยุโรป เพื่อไปค้าแข้งร่วมกับสโมสรฟุตบอลอัล นาสเซอร์ ริยาด ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ตามแบบฉบับของนักฟุตบอลที่เตรียมแขวนสตั๊ดอำลาวงการนั้น ก็ทำให้คอฟุตบอลหลายคนมองว่า คำตอบที่ว่าใครคือ G.O.A.T. ของวงการฟุตบอลนั้นกระจ่างและเป็นเอกฉันท์แล้ว

 

Tags: , , ,