ไม่ทันได้ ‘มั่น’ โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ก็เดินพรมแดงนำหน้าให้ฉาวไปก่อนเสียแล้ว

คืองานไพรด์ของปารีสที่มีชื่อของตนว่า La Marche des fiertés ขอแปลดิบว่า ‘เดินมั่น’ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน แต่ดันดราม่านับแต่แผ่นโฆษณางานซึ่งลงหราในหน้าปกหนังสือพิมพ์ L’Humanité จากนั้นกระแสเดือดดาลดราม่าก็ตามมาด้วยเนื้อหาและภาพลักษณ์ที่หลายฝ่ายออกจะไม่ชอบใจ บางหน่วยงานถึงขั้นไม่ลงโลโก้สนับสนุน แถมระงับทุนร่วม ไหงเป็นงั้น

ที่มาภาพ: https://www.marchedesfiertes.org/

นอกจากกำหนดการ วันเวลาเส้นทางสถานที่ สองข้อความโดดเด่น หนึ่ง คือเรียกร้องให้เควียร์ทุกประเทศร่วมแรงพร้อมใจกัน (Queers de tous les pays, unissons-nous) สอง คือป้าย Contre l’internationale réactionnaire/ reactionary international ต่อต้านบรรดากลุ่มคนหัวเก่าขัดขืนต่อการเปลี่ยนแปลงและมองคนกลุ่มน้อยแบบมีพิษมีภัย ทั้งสองเนื้อความจึงออกเฉดการเมืองอย่างตรงไปตรงมา แต่ส่วนที่ทำให้หลายกลุ่มตะขิดตะขวงขุ่นเคืองคือ บรรดารายละเอียดในภาพมีบุคคลหลากหลายประเภทตามคำเรียกร้อง หญิงโพกผ้าชูกำปั้นต่อต้าน, หญิง(?)แต่งชุดแบบอินเดียข้างชายหัวโล้นมีเคราใส่ตุ้มหู บนเสื้อมีตราสัญลักษณ์สามเหลี่ยมชมพูของกลุ่ม Act Up ซึ่งดัดแปลงจากสามเหลี่ยมชมพูหัวคว่ำที่นาซีเคยใช้ประณามกลุ่มโฮโมสมัยสงคราม, ชายชุดเขียวหน้าตาเหมือนเอเชียถือป้ายต่อต้าน บนเสื้อมีโลโก้คล้ายหัวกระต่าย ทางขวาผู้หญิงมวยผมติดเข็มกลัดหลากหลายและสะพายกระเป๋า ด้านหน้าหนุ่มคนหนึ่งน็อกเอาต์ชายผิวขาวหงายหลังตาเป็นวงงงงวยมาทางฝั่งผู้ชม

แน่นอนว่า การใช้ความรุนแรงดังกล่าวไม่ได้เป็นที่พึงประสงค์สำหรับฝ่ายใด โดยเฉพาะฝ่ายขวาจัดที่ออกเสียงชัดเพื่อขัดภาพลักษณ์เช่นนี้ เพราะชายที่เป็นเหยื่อถูกหมัดอย่างจังก็มีกางเขนเซลติกที่ตรงต้นคอ สัญลักษณ์ของกลุ่มขวาจัดฟาสซิสม์ นอกจากนี้การเมืองของไพรด์ปารีสยัง ‘เดินมั่น’ สนับสนุนไพรด์ในต่างประเทศที่รัฐบาลสั่งห้าม รวมถึงแสดงจุดยืนด้านเดียวกันกับปาเลสไตน์ที่ถูกย่ำยี กลุ่มโฮโมยิวปารีสจึงเป็นเดือดเป็นร้อนเมื่อเห็นเข็มกลัดสีบนคอปกเสื้อของผู้หญิงขวามือเป็นลายธงปาเลสไตน์ ซ้ำสีย่ามก็พลอยพาลออกโทนเดียวกัน ‘เดินมั่น’ เลยถูกวิจารณ์ทำนองเลือกข้าง ฝ่ายผู้จัด Inter-LGBT ออกมาอธิบายความเพื่อปรามความเลื่อนเปื้อนว่า สีกระเป๋าขาวแดงเขียวเป็นภาพตัวแทนของทั้งฮังการีและบัลแกเรียที่รัฐบาลขัดขวางการเดินไพรด์

ที่มาภาพ: https://leprog.com/agenda/marche-des-fiertes-2025

ไพรด์ปารีสเป็นเครื่องมือทางการเมือง? ทว่าทุกไพรด์ต่างก็มีเชื้อการเมืองอยู่แล้วในตัว ไม่ว่าครั้งไหนหรือที่ใด ไม่ว่าจะประกาศโครมๆ เสียงดังฟังชัด หรือเดินขบวนธรรมดา ไพรด์ที่เมืองตูร์ในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ที่มีสีสันการเมืองเสียงชัดฟังดัง แทนที่ภาพแม่หญิงมาริอานน์สวมหมวกฟรีเจียนซึ่งเป็นบุคลาธิษฐานของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ด้วยภาพผู้หญิงผิวสีชูแขนกำมือสวมหมวกฟรีเจียนเช่นกัน พร้อมคำโปรยกระจ่าง “ต้านการถดถอย ร่วมกันเดินหน้าอย่างมุ่งมั่น” ‘เดินมั่น’ ที่ไม่การเมืองก็คงแค่ตากลมตากแดดโชว์ชุดให้เหนื่อยเปล่า

และเสียงคัดค้าน คำโต้แย้ง กระแสวิพากษ์ บทวิเคราะห์ อะไรทั้งหลายทั้งที่รวมและไม่รวมอยู่ด้วย ต่างตอกย้ำเป็นอย่างดีว่าไพรด์ไม่ได้เป็นกลางอยู่ในที คือมีเนื้อหาการเมืองทั้งนอกและในตัว ทุกการอภิปราย ทุกการสนับสนุน ทุกการเข้าข้าง ทุกการเห็นต่าง ล้วนแต่การเมือง

คือมีการเรียกร้อง คัดค้าน ต่อต้าน สนับสนุน อธิบาย อภิปราย หลากหลายท่าทีที่ไม่มีท่าว่าจะไม่การเมือง

เรื่องน่ากลัวกว่าคือเมื่อมันเงียบ ไร้การถก ไม่ต่อล้อต่อเถียง และในยุคการสื่อสารสมัยใหม่ที่ใครๆ ต่างแสดงปากแสดงเสียง ต่อเรื่องโน้นเรื่องนี้ ต่อเรื่องที่เป็นเรื่องและไม่เป็นเรื่อง เสียงทั้งหลายนี่เองซึ่งสำทับหนักเข้าไปอีกว่า ‘เดินมั่น’ ไม่ได้เดินฟรี มีพันธกิจและมีจริตการเมืองทุกทีไป

ก็ในเมื่อโลกเดือดด้วยสงครามฟากโน้นซีกนี้ ด้วยกระแสขวาจัดที่ลุกลามและคุกคามทั้งบรรดาเควียร์ คนมุสลิม ผู้อพยพ แล้วจะยืนหยัดปาวๆ ยืนยันสิทธิความชอบธรรมของกลุ่มตนกลุ่มเดียวชั่วนาตาปี ก็คงกระไรและไม่ขยับไปไหน เมื่อเน็ตเวิร์กล่มมันก็จะล้มและจมกันทั้งยวง สำนึกไพรด์หาใช่จำกัดกับเรื่องตัวตนอัตลักษณ์อะไรทำนองนี้ที่หมุนเวียนไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยังรวมถึงสำนึกเชิงสังคมที่พัวพันกับเพื่อนพ้องญาติมิตรกลุ่มคนทั้งใกล้ทั้งไกลทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ทั้งที่ชาติเดียวกันและต่างเผ่าพันธุ์ ภาษาเดียวกันและต่างภาษา ขนบเดียวกันและธรรมเนียมอื่น หลากหน้าหลายตาหลากรหัสดังที่แนะในแผ่นประชาสัมพันธ์

ไม่ต้องแจกแจงความอับเฉาไม่เท่าเทียมของกลุ่มเควียร์ในที่ต่างๆ ทุกมุมโลก ก็พอจะเข้าใจได้ว่า แม้จะได้สิทธิสมรสเท่าเทียมมา ใช่ว่าเราจะลอยตัวหรือรอดตัว เรื่องเราและเรื่องเขาบ่อยครั้งเป็นเรื่องเดียวกัน

‘เดินมั่น’ เลยต้องร่วมเดินกับเพื่อนร่วมชะตานานาชาติ

โปรเฟสเซอร์ท่านหนึ่งจากสถาบันมีชื่อของปารีส ร่วมวิพากษ์ป้ายประชาสัมพันธ์ดังกล่าว แม้จะไม่ปฏิเสธว่า ไพรด์เป็นการขับเคลื่อนที่มีนัยการเมือง แต่ก็แสดงความคับข้องแคลงใจและตัดพ้อว่าภาพและเนื้อความในแผ่นป้ายขึงขังการเมืองเสียจนกลบนัยทางเพศสภาพอันว่าด้วยความรักความปรารถนา เหล่านี้ห่างไกลจากเหตุการณ์สโตนวอลล์ครั้งก่อนกระโน้น ที่เรียกร้องอิสระเสรีที่จะปรารถนาและรัก แถมย้ำให้ดูสิ ไม่มีคู่ชายชายหญิงหญิงเลยในภาพ มีแต่ชายหญิงยืนเรียงสลับกัน …เดี๋ยวนะ ท่านพลาดอะไรไปหรือเปล่า ชายหัวโล้นสวมตุ้มหูเสื้อมีสามเหลี่ยมชมพูเกย์ของกลุ่มเกย์ Act Up ไม่รู้จะเกย์ยังไง แล้วยังใช้แขนขวาโอบตัวหญิงในชุดอินเดียที่ไม่ใช่หญิงเพราะคาดผ้าฟ้าชมพูขาวสัญลักษณ์ธงทรานส์ จะว่าไปก็คือชายชาย ให้ถูกกว่านี้คือเกย์กับทรานส์อินเดียที่เรียกกันว่า ‘ฮิจรา’ จะไม่ให้เป็นคู่ได้ไงในเมื่อ LGBTQIA+ มีเครื่องหมายบวกห้อยท้าย แสดงหลากความเป็นไปได้เหนือชายชายเหนือหญิงหญิง

ที่สำคัญ หากย้อนเท้าความประวัติศาสตร์วินเทจและโหยหาปานนั้น ก็คงต้องสายแดดแสงลมรักหวานเบ่งบานอิ่มใจไข่ฟูอู้ฮู้อ้าฮ้าฟู่ฟ่ากันต่อไป เพราะโลกนั้นสวย เพราะสังคมมีสีสัน เพราะแค่เราชอบพอรักกัน วันหวานของเราก็ชื่นมื่นไร้กังวล พอเพียงและเพียงพอ อย่าไปขอและรออะไรอื่นใด แค่เป็นเควียร์ฮิปปี้แต่งตัวหลุดโลกและจำใส่กะโหลกว่าโลกสวยโลกงามตามเพศสภาพของฉัน

แล้วคำว่า Réactionnaire/ Reactionary มันจะย้อนหาใครกันน้า

นอกจากนี้ท่านผู้รู้ยังชี้ให้เห็นว่า บรรดาตราสัญลักษณ์ทั้งหลายในป้ายก็ยังขัดแย้งกันเอง เช่นสีย่ามสะพายแดงขาวเขียวของผู้หญิงขวามือเป็นสีธงชาติของฮังการีและบัลแกเรีย แต่ในขณะเดียวกันไพรด์ปารีสก็แสดงออกว่าคัดค้านรัฐบาลของทั้ง 2 ชาติที่ขวางการจัดไพรด์ในประเทศตน หรือบางเครื่องหมายก็ผิดที่ผิดทางไม่รู้จะมาทำอะไรตรงนั้น คือสัญลักษณ์ภาษามือตรงแขนข้างสะพายย่าม

สำหรับโปรเฟสเซอร์นักวิเคราะห์ ประชาสัมพันธ์ลักษณะนี้ สัญญะและสัญลักษณ์ต้องชัดเจน ไม่กำกวม ไม่ย้อนแย้ง เป็นกฎพื้นฐานของระบบสัญศาสตร์เชิงประจักษ์ที่ดูเหมือนว่าไม่อยู่ในความรับรู้ของผู้ออกแบบ ตลกน่า ท่านเล่นมุกหรือเปล่า มีสัญญะและสัญลักษณ์ใดบ้างที่โปร่งใสอ่านออกทันใดและไม่คลุมเครือไม่ย้อนแย้งในตัว ยิ่งรื้อยิ่งอ่านก็จะยิ่งเห็นว่าบรรดาสัญญะล้วนไม่เสถียร ปรับเปลี่ยนได้เสมอ คุมไม่ได้ทั้งจากฝั่งผู้สร้างและจากด้านผู้แกะ แล้วจะอิงมาตรฐานอันใดเพื่อให้สัญลักษณ์มีความหมายคงตัว นอกเสียจากบริบทจำเพาะตอนนั้นที่นั่น ดังนั้นสีธงขาวเขียวแดงบนย่ามจึงไม่อาจมีความหมายไปในทางสนับสนุนรัฐ เนื่องจากนี่คือบริบทไพรด์ ซ้ำบนย่ามยังเขียนออกหราว่า Free Prides เสมือนกำกับความหมายอีกคำรบ ส่วนใครผู้ใดจะอ่านเพี้ยนสีธงเป็นปาเลสไตน์ (ขาดดำอีกสีจ้า ดูจากเข็มกลัดสิ) ย่อมเป็นไปได้ แต่เท่ากับไม่มองบริบทองค์รวม ดังนี้และดังนั้น สัญลักษณ์ภาษามือที่พาดพิงผู้ด้อยสมรรถนะทางการได้ยิน จึงหมายรวมเควียร์ทั้งหลายที่อยู่ในประเภทดังกล่าว ไม่ใช่ว่าผิดที่ผิดทาง ส่วนหากใครไม่เควียร์และไม่ได้ยิน จะนับรวมตนลงตรงนั้นก็ห้ามไม่ได้เช่นกัน

ในมุมมองของโปรเฟสเซอร์ อุดมการณ์พื้นฐานของเควียร์ดังที่ปรากฏในปชส. เลยสับสน ไม่เป็นระบบ เนื่องจากมัวมุ่งไปยังปัญหาสังคมการเมือง แทนที่จะรักและปรารถนาแบบครั้งสโตนวอลล์ ไร้คู่รักชายชายหญิงหญิง ซ้ำชายหญิงในภาพไม่เรียงลำดับตามสีธงประจำกลุ่ม และซ้ำไม่มีสีรุ้งเลยในภาพ ท่านว่างั้น

คุณพระ! นี่งานศิลปะนะ ไม่ใช่อ่านตำราทาสีฝาบ้าน

ส่งรูปวันเดินไปให้คนรู้จักดู เจ้าตัวทักมาว่าทำไมมีแต่ธงสีรุ้งล่ะฮะ ก็ดันส่งภาพมุมนั้นไปนะสิ อันที่จริงมีธงสารพัดสารพันแบบจนไขไม่ออกว่าแทนชนใดกลุ่มไหน คนทักคงจะหมายถึงว่า ทำไมยังขับเน้นสัญลักษณ์ดั้งเดิมเก่าแก่เจนตาคุ้นกันถ้วนทั่ว รู้จักกันไปหมดและนานแล้ว ทำไมยังจะเล่นกับสัญลักษณ์เกร่อๆ นี่อยู่อีกล่ะฮะ

อ้าว ต้องตามคู่มือ ไม่งั้นไม่รู้(เลย)ว่าคือไพรด์

ผีเสื้อ-ลุงอ้วน-เด็กสาว: ร่วมกัน One เควียร์

หลากเรื่องเล่ามักขึ้นต้นด้วยลมฝนดินฟ้าอากาศเพื่อปูพื้นความร้อนความเย็นความฉ่ำชื่นขมุกขมัวเป็นละอองหรือแดดแปร๋ ปัจจัยสำคัญจริง จำได้ว่ามีอยู่ปีหนึ่งฝนฟ้าไม่เป็นใจหรือไงก็ไม่รู้ หรือตกมาเป็นลูกคู่อำนวยพร และจำได้อีกว่าจำใจต้องซื้อร่มข้างทางสีชมพูหวานลายการ์ตูนดิสนีย์ การยืนดูขบวนพาเหรดเหมือนเจ้าหญิงหลุดเทพนิยายไม่รู้อิโหน่อิเหน่โผล่มาวันฝนตก หวานสวยกว่าแดร็กควีนส์ทั้งหลายไปซะงั้น

ปัจจุบันร่มนั้นยังคงอยู่

รอบนี้ ฝนไม่หล่น แต่แดดแรงจนคนหลบมายืนเฝ้าดูฝั่งเดียว ทิ้งอีกฟากโล่งโล้นคน ฟ้าแจ่ม ร้อนเปรต รถเข็นขายน้ำวนเวียนปะปนไปมากับขบวนพาเหรด จนบางทีก็นึกสงสัยว่า เอ น้องชายขายน้ำนี่ร่วมอุดมการณ์วันขบวนด้วยหรือเปล่าหว่า เพราะใครจะไปรู้ มีทุกกลุ่มสังคม สโมสร สมาคม สมาพันธ์ ชมรม คลับ หน่วยสนับสนุน นักกีฬา แม่บ้าน พ่อบ้าน กะเทยบ้านๆ เควียร์ ลูกเด็กเล็กแดง แม่พ่อเข็นใส่รถ หลับปุ๋ย คงร้อนและเหนื่อย ผู้คนสารพัดสารพันในวันที่ได้ ‘มั่น’ เต็มที่สักวันและอย่างเป็นสาธารณะ

ความมากหน้าหลายตาย้ำเป็นอย่างดีว่าทำไมต้องมีเครื่องหมายบวกใน LGBTQIA+

ถ้าเดินร่วมหรือร่วมเดิน ก็จะอดดูคนอื่นๆ ที่นำหน้าและตามหลัง เลือกมาหมุดตรงช่วงกลางเส้นทาง ไม่จ่อที่ต้น ไม่รอที่ปลาย หยุดไม่ไกลจากห้างใหญ่ห้างหนึ่งติดธงทิวเซลล์ประจำปี ห่างไปหน่อย เจ้าหน้าที่รักษาการณ์ยืนเฝ้าดูแลความสงบเรียบร้อย การยืนจุดเดียวฝั่งเดียวเสียอย่างเดียวและหลายอย่าง อย่างน้อยคือได้ภาพมุมเดิมๆ แบ็กกราวนด์ไม่เปลี่ยน ยกเว้นแต่จะซูมจนกลบบริบทแวดล้อม

ฝูงชนเคลื่อนขบวนมาเป็นกลุ่มๆ แยกกัน เหมือนคลื่นที่โหมโรมรันครื้นเครงให้เฮฮาเป็นช่วงเป็นจังหวะ ดนตรีเคลียคลอ เครื่องทรงเครื่องแต่งเนื้อตัวหน้าตาทาปาก ความแปลกประหลาด สร้างสรรค์จินตนาการ เนื้อหนังวับแวม พาเหรดไพรด์มีสีสันเสมอ ไม่ใช่แค่การประดับประดารถแห่หรือแต่งกายชายหญิงดูไม่ออก ยังรวมถึงชูป้ายอุดมการณ์นานาประเภท บันเทิงจึงมีเนื้อหาที่มากกว่าเอาขำเอาขันเอาสวยเอามัน ทั้งที่เป็นการเมืองส่วนย่อย (พี่สาวผมเป็นไบโพลาร์ ผมเป็นไบเฉยๆ) การเมืองเสียดสี (ตัดต่อหัวทรัมป์เข้ากับภาพวาดผู้หญิง และอักษรกำกับ I 💖 dicks) การเมืองปัจจุบัน (Gays avec Gaza) แม้จะต่อล้อต่อเถียงกับป้ายประชาสัมพันธ์ฉาวเนื่องจากความต่างทางมุมมอง แต่แทบทุกกลุ่มก็มาร่วมขบวน 

กลุ่มเด็กสาวยืนใกล้กันเหมือนคอยอะไรหรือใครสักอย่าง น่าจะสักมัธยมปลายตอนต้นหรือมัธยมต้นตอนปลาย บ่นกระปอดกระแปดน่าเอ็นดูว่าโน่นแน่ะอีกนางไม่มาเสียที มัวแต่พิรี้พิไรในขบวนแห่ไกลๆ โน่น สาวๆ ไม่ได้แต่งพิสดาร และชวนอัศจรรย์เนื่องจากไม่ได้ยินคำสบถหยาบคายคำบ่นทะลึ่งลามกออกมาจากปากสักคำ น่ารักและสุภาพจริงในวันที่ผู้คนตะโกน ร้องเรียก อุทานเสียงดัง

หนูๆ ผละไปเพราะเพื่อนคงมาถึง แทนที่ด้วยลุงตัวโตสวมแว่น เสื้อลายตาราง กางเกงขาสั้นกรอมเข่า กล้องตัวใหญ่แขวนคอ ยืนโงนเงนเหมือนเข่าไม่ดี ถ่ายรูปไปหน้าตาอิ่มเอิบ แต่ก็โอนเอนไปมา กลัวล้มแทน จนโดนเบียดจากผู้คน ถึงได้โอนเอนเห็นชัดว่าลุงเข่าเท้าไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยังอุตส่าห์ทนยืน

บางที ภาพเจนตาจำพวกโชว์เนื้อหนังหุ่นกล้าม แต่งพิสดารแหวกแนวให้ถ่ายรูปสวย เติมหน้าเติมปากสวมเครื่องประดับตระการตา หลากทั้งหลายเป็นภาพจำหรือคุ้นชินในทุกพาเหรดไพรด์ แต่ที่น่าสนใจไม่น้อยกว่านั้นคือบรรดาเกร็ดสามัญ ภาพธรรมดาของทั้งผู้ร่วมขบวนและผู้ชมขบวน จนบางคราว พาเหรดหลักก็เทน้ำหนักให้ภาพนิ่งชั้นรองที่เป็นภาพอื่นๆ รายล้อม นึกภาพว่า เมื่อร้อนตับแตก เมื่อหนึ่งกลุ่มเพิ่งผ่านไป แล้วยังต้องรอขบวนที่ยังไม่มา ด้านหน้าคนโล่ง มีรถขายน้ำจอดอยู่ 1 คันเล็ก เดี่ยว เด่น ราวจะเคลียร์ ทันใด ผีเสื้อปีกสวยผิวคล้ำร่างบางก็บินย้อนกลับมาด้วยส้นสูงสีแดง ร้อนหิวน้ำ ปีกมัลติคัลเลอร์กับชุดชั้นในตัวน้อยไม่ช่วยปิดแดด ลองนึกภาพดู ว่าผีเสื้อผิวคล้ำสวยบนส้นสูงแดงสวย เดินย้อนกลับมาควักสตางค์ซื้อน้ำเพราะร้อน ไม่ใช่ภาพแสดงธรรมชาติจำแลงเทพนิยาย แต่เป็นเรื่องจริง เรื่องง่ายๆ ของการซื้อน้ำ

ใช่ เป็นเกร็ด ขอยกให้เป็นภาพเด่นที่เทียบเท่าเรื่องเล่าสักเรื่องได้เลย แต่งอยู่แล้ว เติมอยู่เดิมที แต่ Real สุด Real ในบรรยากาศอุดมการเมือง

สักพัก คนเริ่มโฟกัส ต้องกลับสวมบทผีเสื้อกางปีกสวยโชว์ เริ่ด!

เราจะเจอคนที่เราไม่รู้จักหน้าค่าตา เขาไม่รู้เรา เราไม่รู้ว่าคือใคร ต่างมีความเป็นอื่นนั้นในและนอกตัว เด็กสาวเหล่านั้นเมื่อครู่คือใคร มารอใคร คุณลุงอ้วนโตเป็นใคร อาการดีขึ้นไหม ผีเสื้อสวยนั้นทำการงานอะไร คนที่มาด้วยเจอนักข่าวอาวุโสที่ไม่ได้รู้จักเป็นส่วนตน แต่มีชื่อในวงการเกย์ เลยได้ทำความรู้จักกันตอนนั้น อ้าวนั่น นักเขียน เอดูอารด์ หลุยส์ (Édouard Louis) นี่นา เพิ่งเจอเมื่อต้นปีที่เมืองไทย เข้าไปทักทายตามอัธยาศัย ผลงานของนักเขียนหนุ่มแปลและตีพิมพ์เป็นไทยแล้วหนึ่ง (อวสาน เอ็ดดี้ แบลล์เกิล แปลโดย ณัฐ วิไลลักษณ์) อีกหนึ่งกำลังเตรียมออกมา วงเควียร์ไทยน่าจะได้อ่านเพราะงานมาแรง ทั้งแฝงเรื่องตนทั้งปนการเมือง

อะไรทั้งหลายเชื่อมต่อกัน ทั้งที่คาดการณ์ไม่ได้ และที่คาดไว้ได้ ไม่ได้ร้อนแค่อากาศรอบตัว บรรยากาศอื่นนอกตัวก็พลอยระอุ ‘เดินมั่น’ ที่ปารีสไม่ได้ยกขบวนเพียงเพื่อสิทธิของตน ยังร่วมสนับสนุนผู้คนฮังการีที่บูดาเปสต์ในวันเดียวกัน และข่าวว่าไพรด์ของยุโรปตะวันออกก็ล้นคนล้นเควียร์ล้นหลาม ไม่สนข้อห้ามของนายกรัฐมนตรี แม้แต่ผู้ว่าบูดาเปสต์ยังมาร่วมขบวน

เพราะถ้าไม่ ‘เดิน’ ตอนนี้ มวลร้อนก็จะทั้งคุกคามสิทธิที่จะไพรด์ ทั้งผลาญเผาทุกผู้ทุกนามในนิยามฟาสซิสม์

ปีกผีเสื้อส้นสูงแดงแรงสวยก็จะมอด จะเหลือรอดอะไรนอกจากความเห็นทางเดียว

ลุงอ้วนสะพายกล้องกระย่องกระแย่งข้ามถนนเมื่อจบขบวน ทำท่าไม่ไหว เลยเข้าไปถาม ลุงบอกลืมเอาไม้เท้ามา บริกรร้านกาแฟเห็น แนะให้ไปนั่งพักตรงเก้าอี้ใต้เงาไม้ ลุงคงไปต่อเองได้

ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินขากลับ แม่จูงลูกชายหน้าตามอมแมมเพราะแต้มสีบรรเจิด กลับจากไพรด์อย่างดูท่าไม่เหน็ดเหนื่อย ผู้หญิงผิวคล้ำเดินแจกใบปลิวอะไรสักอย่างในขบวนตู้ ไม่ค่อยมีใครรับไป ชายคนหนึ่งเอาไว้ นางเดินมาถึงยื่นให้หนึ่งชุด รับมาดู หน้าปกเขียนว่า Qu’est-ce que la vérité? =ความจริงคืออะไร เปิดไปข้างใน อ้อ คำสอนศาสนา

ความจริงคือว่า

ประโยคนี้และต่อไปนี้ เขียนก่อนและคิดทีหลัง

ท่อนสองคือประสบการณ์ทีหลัง คิดทีหลัง แต่เขียนก่อน

ความจริงคือว่า

ในทุกชั้นเรียน บ้างมีรถยนต์มาส่ง บ้างโหนรถเมล์มาเรียน บางคนไปตากอากาศหน้าร้อน บางคนทำจ็อบในร้านสะดวกซื้อ เด็กผู้ชายมีที่โคตรชายและมีที่โคตรหญิง มีนักศึกษาหญิงสุดจะแต่งและมีประเภทอะไรก็ได้ บ้างแฟชั่นวีกมาเรียน บ้างเสื้อกางเกงเป็นรู บางคนโพกผ้า บางคนก็หัวเกรียน บางคนสวดมนต์ ส่วนอีกคนก็ละหมาด มีชายจูงมือชาย มีหญิงสนิทหญิง และมีจริงที่ได้ทั้งหญิงและชาย บ้างก็ฉลาดล้ำ บ้างก็พลาดแล้วซ้ำอีก บางคนใสหวาน บางคนจัดจ้าน เพื่อนเล่นบอล ตนเล่นเกม เพื่อนอ่านหนังสือเรียน ฉันอ่านมังงะเพลิน มี A แบบงมโข่ง มี F แบบอารมณ์ดี ฯลฯ

ความจริงคือว่า เรื่องที่ผมอยากบอกนักศึกษาไม่ใช่พระวัจนะ ไม่ใช่คำสอน เป็นเพียงความในใจว่า สีสันของหนึ่งชั้นเรียนที่เป็นสังคมย่อย มาจากการคละเคล้าหลากหลายและแตกต่าง คงจะน่าเบื่อเมื่อเหลือแต่ชายในชั้น คงจะน่ารำคาญหากมีแต่หญิง คงจะแสนเซ็งหากมีเพียงกะเทย คงจะไม่ต้องสอนอะไรเมื่อทุกคนเกรด A

ในการ ‘เดินมั่น’ บางทีก็ต้องเบียดเสียด แทรก กระทบกระทั่ง ยิ้ม รำคาญ

รุ้งบนฟ้าไม่ได้มีสีเดียว

Tags: , , , , , ,