ปฏิเสธไม่ได้ว่าน้ำหอมเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งตัว แม้มองไม่เห็นเป็นรูปธรรม แต่กลิ่นคือตัวเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้การแต่งกาย เพราะการเลือกกลิ่นน้ำหอมให้ไปในทางเดียวกับชุดที่สวมใส่จะยิ่งช่วยขับเน้นบุคลิกภาพ ช่วยเสริมความมั่นใจ อีกทั้งยังบ่งบอกรสนิยมของผู้ใช้ในแต่ละกลิ่น
แม้หลายคนให้ความสำคัญกับกลิ่นกลายหอมๆ เป็นอย่างมาก แต่อาจมีบางวันที่ลืมฉีดน้ำหอมก่อนออกจากบ้าน หรือคนที่มีนัดสำคัญแต่ที่บ้านไม่มีกลิ่นน้ำหอมที่ตรงกับสไตล์การแต่งตัว ตู้กดน้ำหอมอัตโนมัติจึงเกิดขึ้นเพื่อมาแก้เพนต์พอยต์นี้
The Momentum ได้พูดคุยกับ เม-ภัทร์ปรียา อภิรติวงศ์โชติ แห่ง DEAL! Investment Matching บริษัท ดีลอินเวส จำกัด ตัวแทนในการจัดหาทุนให้กับธุรกิจ SME (Small and Medium Enterprises) ถึงที่มาแนวคิดการให้บริการตู้กดน้ำหอมอัตโนมัติ หนึ่งในธุรกิจที่น่าลงทุนในปัจจุบัน กับความท้าทายเมื่อคนไทยไม่ได้คลั่งไคล้น้ำหอมกันทุกคน
ตู้อัตโนมัติ: ธุรกิจที่ใครก็อยากเป็นเจ้าของ
ภัทร์ปรียาเล่าว่า DEAL! Investment Matching ทำหน้าเป็นตัวกลางระหว่างผู้ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองกับนักลงทุน ในบรรดาธุรกิจที่หลายคนเชื่อมั่นและต้องการลงทุนคือ ‘ตู้อัตโนมัติ’ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ
“เราดูกระแสของนักลงทุนกลายเป็นว่า เขาชอบตู้อัตโนมัติ เพราะเขาอยากมีอะไรที่มันสามารถควบคุมได้ ไม่หนี ไม่หาย ไม่โกง อย่างน้อยก็เป็นสินทรัพย์เป็นรูปธรรม ซึ่งมีความเสี่ยงมากที่สุดคือการโดนขโมยตู้ ซึ่งไม่ใช่ความเสี่ยงด้านกำไรขาดทุน” ภัทร์ปรียาอธิบาย
เมื่อทราบดังนั้น ภัทร์ปรียาจึงเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตู้อัตโนมัติ หรือตู้หยอดเหรียญต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน และสามารถทำกำไรได้ดี จึงได้โมเดลตู้กดน้ำแข็งเป็นบริการแรก ซึ่งเป็นบริการที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทย ที่มีอากาศร้อนเกือบทั้งปีเลยต้องกินน้ำแข็งทุกวัน และจากนั้นจึงมีตู้กดน้ำหอมตามมา
“เราได้ข้อมูลมาว่าที่ยุโรปมีตู้กดน้ำหอมค่อนข้างเยอะ ที่ดูไบก็มีตามโรงแรม แต่ที่ไทยเรายังไม่เคยเห็น ก็เลยสั่งทำตู้กดน้ำหอม เป็นอีกหนึ่งธุรกิจให้กับนักลงทุนนอกจากตู้กดน้ำแข็ง”
สำหรับการติดตั้งตู้ ทางดีลอินเวสจะเป็นผู้หาทำเลการวางตู้กดน้ำหอมในที่มีผู้คนใช้น้ำหอมเยอะ เช่น ย่านมหาวิทยาลัย สถานบันเทิง และแหล่งท่องเที่ยว เข้าไปพูดคุยตกลงกับเจ้าของพื้นที่ โดยนักลงทุนหรือเจ้าของตู้จะต้องแบ่งกำไรกับเจ้าของพื้นที่ และดีลอินเวสจะเป็นฝ่ายดูแลตู้กดน้ำหอมให้
“ทางนักลงทุน กับเจ้าของพื้นที่ และดีลอินเวสจะแบ่งกำไรกัน ซึ่งการแบ่งกำไรร่วมกัน ทำให้นักลงทุนไม่ต้องมีการจ่ายรายเดือนอย่างค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ เมื่อติดตั้งแล้วดีลอินเวสจะดูแลให้ เข้าไปเปลี่ยนน้ำหอมเมื่อน้ำหอมหมด ซึ่งในปีแรกเราจะเซอร์วิสให้ฟรี แต่หลังจากนั้นจะต้องแบ่งเปอร์เซนต์ให้ทางดีลอินเวสด้วย” ภัทร์ปรียากล่าว
ความท้าทายเมื่อสังคมไทยไม่ได้คลั่งไคล้น้ำหอมทุกคน
แม้นักลงทุนหลายคนจะเชื่อว่า การเป็นเจ้าของตู้กดอัตโนมัติเปรียบเสมือนเสือนอนกิน เพราะการดูแลเครื่องที่ไม่ยากนัก และสามารถทำกำไรได้เรื่อยๆ จึงลงทุนในตู้กดอัตโนมัติที่จำหน่ายสินค้าแตกต่างกันไป แต่สำหรับตู้กดน้ำหอมในประเทศไทยยังคงมีความท้าทายอยู่ไม่น้อย เพราะด้วยสังคมไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการฉีดน้ำหอมเป็นอันดับแรก และในขณะที่คนชอบน้ำหอมก็มักจะฉีดน้ำหอมออกจากบ้านมาเรียบร้อยแล้ว หรือบางคนก็เลือกที่จะพกขวดน้ำหอมใส่กระเป๋าติดตัวไปไหนมาไหนด้วย จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะดึงดูดผู้ใช้บริการจำนวนมาก
ซึ่งประเด็นนี้ภัทร์ปรียากล่าวว่า ต้องใช้การศึกษาพื้นที่ในการวางตู้ และพฤติกรรมของคนในพื้นที่นั้น โดยในพื้นที่ที่เลือกติดตั้งตู้จะเป็นพื้นที่ที่คนมักใช้น้ำหอมกันอยู่แล้ว และเป็นกลุ่มคนที่ลืมเอาน้ำหอมมา และมีเหตุฉุกเฉินให้ต้องฉีดน้ำหอม จำเป็นต้องทำให้ตนเองมีกลิ่นหอม หรืออยากลองฉีดกลิ่นใหม่ที่บ้านไม่มี
“ก็มีลูกค้าถามว่าแล้วเขาไม่พกน้ำหอมกันเหรอ มันก็จะมีกลุ่มที่พกน้ำหอม กับกลุ่มที่ลืม ซึ่งกลุ่มลูกค้าของตู้น้ำหอมคือกลุ่มที่ลืมนำน้ำหอมมา แล้วฉุกละหุกต้องใช้น้ำหอมจริงๆ ถ้ากรณีที่คุณไม่ได้พก คุณก็แค่มากด คอนเซปต์ก็เหมือนกับการใช้ตู้กดผ้าอนามัยเลย”
ในมุมของนักลงทุนที่เคยมีความไม่แน่ใจว่า จะมีลูกค้ามาใช้บริการตู้กดน้ำหอมอัตโนมัติหรือไม่ เพราะอาจมีแค่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ลืมพกน้ำหอมจริงๆ จึงจะมาใช้บริการ ในวันนี้อาจคลายความกังวลลงแล้ว เพราะตู้กดน้ำหอมอัตโนมัติที่มีความแปลกใหม่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย ปัจจุบันนี้ดีลอินเวสจึงมีตู้กดน้ำหอมที่ดูแลอยู่ประมาณ 50 ตู้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และพัทยา ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีการเลือกกลิ่นน้ำหอมมาใส่ในตู้แตกต่างกันไป โดยค่าฉีดจะอยู่ที่ 40-80 บาทต่อ 1 ฉีด ขึ้นอยู่กับมูลค่าของน้ำหอมแต่ละขวด
“วิธีการเลือกกลิ่นน้ำหอมใส่ตู้เราจะอิงจากทำเล เราจะมีทีมคอนเทนต์เข้าไปสัมภาษณ์คนในพื้นที่นั้นๆ ว่าเขานิยมน้ำหอมกลิ่นอะไร เราก็จะรู้ว่าทำเลมหาวิทยาลัย นักศึกษาไปเที่ยวสถานบันเทิงร้านไหน เขาชอบฉีดกลิ่นอะไรไปเรียน ฉีดกลิ่นอะไรไปเที่ยว เขาอาาจะนิยม Miss Dior, Jo Malone หรือ YSL แล้วเขาคาดหวังอะไรมากกว่านั้นไหม อย่างเช่นเป็น Tom Ford ที่ราคาขยับขึ้นมา หรือกลิ่นที่เหนือความคาดหมายที่เขาอยากลอง”
ในแง่ของผู้ใช้บริการตู้กดน้ำหอม แม้จะถูกดึงดูดด้วยกลิ่นน้ำหอมที่หลากหลาย แต่ก็อาจมีความกังวลถึงคุณภาพของน้ำหอมที่เก็บอยู่ในตู้ว่าจะมีกลิ่นเหมือนเดิมหรือไม่
“เคยสอบถามกูรูด้านน้ำหอม ถ้าวางน้ำหอมโดนแดดมันจะทำให้คุณภาพลดลง แต่ตู้กดน้ำหอมของเราทุกตู้จะอยู่ในอาคารทั้งหมด เลยไม่มีปัญหาเรื่องนี้ คุณภาพน้ำหอมจะเหมือนกับเราวางไว้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเลย” ภัทร์ปรียาให้ความมั่นใจ
ทั้งนี้ตู้กดน้ำหอมอัตโนมัติเป็นโมเดลที่เพิ่งเริ่มต้นในไทย ประสบการณ์การใช้บริการมีเพียงแค่จ่ายเงิน ฉีดน้ำหอมเสร็จแล้วก็ไป แต่ภัทร์ปรียากล่าวว่า ในอนาคตอาจมีระบบสะสมแต้ม และขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมไปยังโรงแรมหรือที่พักอาศัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีแพลนในการนำน้ำหอมแบรนด์ไทยเข้ามาใส่ในตู้ด้วย
“น้ำหอมแบรนด์ไทยก็มีชาวต่างชาติชอบกันหลายแบรนด์ เราก็กำลังดูว่าจะเป็นไปได้ไหมที่จะนำมาใส่ตู้ให้บริการด้วย เพราะต้องคุยกับนักลงทุนด้วย ซึ่งน้ำหอมแบรนด์ไทยมันอาจจะ Niche แต่เรารู้สึกว่า การได้สนับสนุนแบรนด์ไทยมันเป็นเรื่องที่ดี” ภัทร์ปรียากล่าวทิ้งท้าย
Tags: น้ำหอม, Perfume Vending Machine, Deal Investment Matching, Deal, ตู้กดน้ำหอม, Feature, Business