เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติของประเทศไทย นอกจากแม่ที่มีหน้าที่เลี้ยงดูลูกแล้ว หลายคนอาจเติบโตมากับเหล่า ‘ป้า’ ที่เลี้ยงดูเราประหนึ่งเป็นแม่อีกคน โดยที่ป้าเหล่านั้นได้ตัดสินใจแล้วว่า จะไม่มีลูกเป็นของตัวเองในอนาคต
แม้ปัจจุบันแนวโน้มการเป็น ‘ป้าเลี้ยง’ ให้กับเหล่าลูกหลานของเพื่อนในกลุ่มเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด จนถึงขั้นมีการบัญญัติศัพท์ให้คนกลุ่มนี้ว่าเป็น Professional Aunt No Kids หรือ ‘PANK’ ซึ่งหมายถึงคุณป้าคนเก่งที่ไม่มีลูกและมักเปย์หลานอย่างเต็มที่
คนกลุ่ม PANK โดยส่วนใหญ่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นวัยที่คนรอบตัวเริ่มแต่งงาน มีลูก สร้างครอบครัว และเป็นวัยที่หลายคนกำลังประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เริ่มมีความมั่นคงในฐานะทางการเงิน กลุ่มผู้หญิงเหล่านี้ที่ไม่แต่งงานและไม่มีลูก จึงได้กลายเป็นเหล่าคุณป้าหรือคุณน้าที่รักดูแลหลานประหนึ่งลูกตัวเอง
PANK ไม่ใช่ศัพท์ใหม่ ย้อนกลับไปในช่วงปี 2008 ผู้หญิงในสังคมอเมริกันกว่า 50% เลือกที่จะไม่มีลูก แต่เด็กยังเป็นศูนย์กลางของความรักและความสัมพันธ์ที่ผู้หญิงอยากมอบความรักให้ ไม่ว่าจะเป็นลูกของพี่น้องหรือลูกของเพื่อน พวกเขาจึงตัดสินใจครองตนในฐานะคุณป้าที่แสนดีหรือแม่ทูนหัว (Godmother)
ด้วยเหตุนี้ เมลานี นอตกิน (Melanie Notkin) นักการตลาดชาวแคนาเดียนในสหรัฐฯ จึงสร้างเว็บไซต์ Savvy Auntie ขึ้นมา ซึ่งเป็นบล็อกหรือคอมมูนิตี้สำหรับคุณป้าที่ไม่มีลูก เพื่อแชร์ความรู้ในการเลี้ยงหลาน หรือวิธีปฏิบัติตัวต่อหลาน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าคุณป้าคุณน้าทั้งหลาย พร้อมสำรวจแนวโน้มทางการตลาดของคนกลุ่มนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาวโสดที่มียอดการจับจ่ายสูงในวันหยุดหรือเทศกาล
นอตกินยังนิยามคำว่า PANK ว่า เป็นคุณป้ามืออาชีพที่ไม่มีลูก มีการศึกษาในระดับดี และมีฐานะทางเศรษฐกิจมั่นคง ในขณะที่ปี 2021 แอนนา โจนส์ (Anna Jones) นักข่าวจากบีบีซี (BBC) สำรวจทัศนคติของ PANK ในยุคปัจจุบันและระบุว่า ป้าที่ไม่มีลูกมักจะปรากฏอยู่ในวรรณกรรมและภาพยนตร์เสมอ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘ป้าเมย์’ หรือเมย์เบลล์ พาร์กเกอร์-เจมส์สัน (Maybelle Parker-Jameson) คุณป้าคนสวยของ ปีเตอร์ พาร์กเกอร์ (Peter Parker) จากแฟรนไชส์สไปเดอร์แมน (Spider-Man) หรือป้าลิเดีย (Aunt Lydia) จากนิยายดิสโทเปียเรื่อง เรื่องเล่าของสาวรับใช้ (The Handmaid’s Tale) ของมาร์กาเรต แอตวูด (Margaret Atwood) ที่ถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้หญิงโสดและไม่มีลูก
คำถามคือ ทำไมผู้หญิงเลือกที่จะไม่แต่งงานและไม่มีลูก
หากไม่นับตัวละครเหล่านั้น มีผู้หญิงมากมายที่ตัดสินใจอยู่เป็นโสด แม้เนื้อแท้ของมนุษย์จะเป็นสัตว์สังคมผู้คนต้องการดำรงเผ่าพันธุ์ด้วยการมีคู่ แต่งงาน และสืบพันธุ์ ทว่าในปัจจุบันกลับพบว่า การแต่งงานไม่ใช่เป้าหมายหรือความปรารถนาของมนุษย์ทุกคนอีกต่อไป แต่เป็นเพียงทางเลือกเท่านั้น แม้ต้องเผชิญกับการตั้งคำถามของสังคม แต่ผู้หญิงหลายคนให้คำตอบว่า หากมองการมีลูกเป็นการสืบทอดเผ่าพันธุ์มนุษย์ พี่น้องและเพื่อนของเธอก็ได้มีลูก เพื่อดำรงไว้ซึ่งวงศ์ตระกูลเรียบร้อยแล้ว เธอจึงไม่จำเป็นต้องมีลูก และไม่ได้รู้สึกบกพร่องในฐานะมนุษย์แต่อย่างใด
นอกจากเจตจำนงของปัจเจกบุคคลแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีเรื่องเศรษฐกิจและสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะแม้ PANK ทั้งหลายจะมีความมั่นคงทางการเงิน แต่การเลี้ยงดูส่งเสียลูกในฐานะแม่ ย่อมมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าหลายเท่าตัว และในด้านสังคม ด้วยปัจจัยหลายประการจึงทำให้เลือกเป็นโสด มากกว่าตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่และมีลูกเป็นของตัวเอง
การเลือกคู่ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายฉันใด การเลี้ยงลูกย่อมเป็นเรื่องที่ยากกว่าเป็นเท่าตัว และผู้หญิงหลายคนก็ต่างไม่มั่นใจว่า ตนจะสามารถทำหน้าที่แม่ได้ดี เพราะความเป็นแม่ต้องใช้ทั้งสัญชาตญาณ ทักษะการเลี้ยงดูเด็กเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน จนทำให้บางคนเกิดความรู้สึกว่า หรือตนไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นแม่
อย่างไรก็ตาม แม้ PANK จะเลี้ยงดูหลานอย่างดีและมักเลือกของที่ดีที่สุดให้หลาน แต่พวกเธอไม่ได้คาดหวังว่า หลานของตนเองต้องตอบแทนบุญคุณ หรือต้องเลี้ยงดูยามแก่เฒ่า เพราะ PANK มักมีฐานะดี และอาจมีการวางแผนชีวิตหลังเกษียณไว้เรียบร้อยแล้ว
นับตั้งแต่ปี 2008 ที่เว็บไซต์ Savvy Auntie ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลากว่า 16 ปีแล้ว หลานๆ ของ PANK ในยุคนั้นเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นกันแล้ว สิ่งที่ป้าต้องการจากหลานๆ อาจไม่มีอะไรที่ซับซ้อน อาจเป็นแค่การเอาใจใส่ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลานๆ ที่เริ่มโต อาจเริ่มห่างเหินกันออกไป การนัดเจอคุณป้าบ้างบางครั้ง แค่นี้ก็ทำให้คุณป้ามีความสุขแล้ว
นอกจากนี้ วารสาร เอเมอรัลด์ (Emerald Publishing Limited) ได้เผยแพร่งานศึกษาใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ว่า ยังมีกลุ่มที่เรียกว่า PUNK หรือ Professional Uncle No Kids คือคุณลุงมืออาชีพที่ไม่มีลูกอีกด้วย สะท้อนว่าในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่เลือกไม่มีลูก เพราะผู้ชายก็มีแนวคิดในทำนองเดียวกัน
สำหรับใครที่วางแผนจะเป็น PANK หรือ PUNK อยากให้ถามตนเองให้แน่ชัดว่า สิ่งที่ต้องการจากหลานอะไร แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ความคาดหวัง ความกดดัน เพราะนั่นจะทำให้หลานไม่สบายใจและตีตัวออกห่างจากป้าหรือลุงเรื่อยๆ
วันแม่ปีนี้นอกจากแสดงความรักต่อแม่แล้ว อย่าลืมดูแลเอาใจใส่คุณป้าคนเก่งที่ไม่มีลูก เพื่อไม่ให้ป้ารู้สึกเหงาหรือว้าเหว่ที่ต้องอยู่คนเดียวในวันสำคัญนี้
ที่มา:
Gökçe, A. (2024), “PANKS and PUNKS (Professional Aunts/Uncles With No Kids)”, Tanrisever, C., Pamukçu, H. and Sharma, A. (Ed.) Future Tourism Trends Volume 2 (Building the Future of Tourism), Emerald Publishing Limited, Leeds, pp. 225-236. เข้าถึงจาก https://www.emerald.com/insight/content/doi/10.1108/978-1-83753-970-320241014/full/html
http://savvyauntie.com/About.aspx?GroupId=389&Name=PANK:%20Professional%20Aunt%20No%20Kids
https://www.bbc.com/worklife/article/20211208-aunt-with-no-kids-the-women-redefining-family-roles
Tags: PANKs, Professional Aunt No Kids, ครอบครัว, Family Tips, PANK