หลายคนอาจรู้จัก อู๋-ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์ ในนาม ‘อู๋ The Yers’ หรือศิลปินเดี่ยวในชื่อ torrayot ทว่าวันนี้อู๋ได้สวมหมวกอีกใบที่ไมใช่ศิลปิน แต่เป็นผู้คัดสรรและพัฒนาศิลปิน (Artists and Repertoire: A&R) ของ BEEEF ยูนิตย่อยภายใต้ทีม Artist Services ของ Believe ดิสทริบิวเตอร์ที่คอยช่วยเหลือและให้บริการศิลปินอิสระหลายด้านสำหรับยุคของสตรีมมิง โดยเฉพาะการเป็นตัวกลางระหว่างศิลปินกับแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อนำเพลงไปสู่สตรีมมิงจนถึงหูคนฟัง รวมถึงการขึ้นปกเพลย์ลิสต์ในสตรีมมิงต่างๆ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้แพลตฟอร์มเหล่านี้มีอิทธิพลต่อคนฟังอย่างมาก

โดยหน้าที่ของ Believe ไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เพราะยังมีหน่วยงานที่เรียกว่า Artist Services ซึ่งอู๋ทำหน้าที่หลัก 2 อย่างคือ เฟ้นหาศิลปินที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นแนวเพลงไหนก็ตามให้มาอยู่ใน Artist Services และดึงศิลปินอินดี้ให้เข้ามาอยู่ใต้ร่มอีกคันที่ชื่อ BEEEF และอีกหนึ่งหน้าที่คือ การพัฒนาศิลปินให้เดินต่อไปได้อย่างแข็งแรงในเส้นทางวงการเพลง

“ศิลปินที่ทำงานกับ Believe มีจำนวนมากพอสมควร เมื่อแบ่งแล้วมี 3 แนวเพลงหลักๆ คือ หมวดอินดี้ หมวดอาร์แอนด์บี แร็ป ฮิปฮิอป และสุดท้ายคือหมวดลูกทุ่งนอกกระแส ซึ่งเรามีแนวอินดี้กับฮิปฮอปเยอะมาก เลยสร้างค่ายย่อยขึ้นมาชื่อ bYOND สำหรับแนวฮิปฮอป และล่าสุดคือ BEEEF สำหรับหมวดอินดี้ ทั้งอินดี้ป็อปและอินดี้ร็อก” อู๋อธิบาย

อู๋เล่าต่อว่า ศิลปินที่เขาเลือกเข้ามาจาก Believe ส่วนใหญ่เป็นศิลปินอิสระ ที่ถูกเลือกขึ้นมาเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ศิลปินขาดไป และมุ่งเน้นไปที่ Digital Markrting รวมถึงการประชาสัมพันธ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

แล้วทำไมศิลปินต้องมี BEEEF ช่วยโปรโมต

ในยุคที่โซเชียลฯ มีอิทธิพลมากและศิลปินแทบทุกคนเล่นโซเชียลฯ หลายคนสามารถทำเพลงเองที่บ้าน และโปรโมตผลงานเพลงลงในโซเชียลฯ ของตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีค่ายเพลง นำมาสู่คำถามที่ว่า แล้ว BEEEF สำคัญต่อศิลปินอย่างไร

“ด้วยความที่เทคโนโลยีพัฒนาไปเร็วมาก ทำให้คนสามารถผลิตผลงานเพลงได้ไวและจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ บวกกับมีการแข่งขันสูงขึ้นด้วย ฉะนั้นโอกาสในการประสบความสำเร็จมันเกิดขึ้นได้ และอาจเกิดขึ้นไม่ได้ ศิลปินหลายคนทำเพลงฮิตขึ้นมา คนร้องเพลงได้ทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ว่าสิ่งที่เขาขาดไปคือ ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป ซึ่งไวรัลตอนนี้มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่คำถามต่อไปคือไวรัลแล้วไงต่อ นั่นคือสิ่งที่ทีม BEEEF เชี่ยวชาญ

“เราเอาไวรัลนั้นมาวิเคราะห์ว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง มาจากอะไร คนเข้ามาค้นพบไวรัลนี้ได้อย่างไร เกิดขึ้นที่ไหน คนอายุเท่าไร ทำไมถึงไวรัล ทุกอย่างเกิดจากการวิเคราะห์ วางแผนต่อยอด แล้วผลิตผลงาน จากสถิติพวกนั้นต่อ”

อู๋ที่เป็นศิลปินย่อมทราบดีว่า การทำงานไม่ใช่แค่ทำเพลงแล้วอัปโหลดขึ้นสตรีมมิง แต่ยังต้องลงทุนลงแรงโปรโมต และ BEEEF เข้ามาช่วยในด้านต่างๆ เพื่อช่วยให้ศิลปินสามารถทุ่มเทแรงกายแรงใจกับการสร้างสรรค์ผลงานได้เต็มที่ โดยไม่ต้องพะวงกับเรื่องอื่นๆ

เรนิษรา หนึ่งในศิลปินที่ BEEEF ช่วยเติมเต็ม

นอกจากเรื่องโปรโมต การวิเคราะห์และผลักดัน พัฒนาศักยภาพศิลปินคือสิ่งสำคัญที่ BEEEF ทำร่วมกับศิลปิน โดยอู๋ที่เป็นศิลปินอินดี้และพูดภาษาเดียวกับศิลปิน กล่าวในแง่ของการพัฒนาศิลปินว่า ด้วยความที่อู๋คลุกคลีอยู่ในฝั่งดนตรีอินดี้ ทำให้เขามีมุมมองบางอย่างที่ศิลปินบางคนอาจยังมองไม่เห็นหรือยังไม่เคยเจอ อย่างน้อยที่สุดคือ ช่วยให้ศิลปินค้นหาตัวตนให้เจอ

“ศิลปินอินดี้ที่ทำงานเองมาโดยตลอด ไม่ได้มีคนไกด์ ไม่ได้มีคนคอยแนะแนว นี่คือหน้าที่หลัก เป็นส่วนที่ผมต้องทำอย่างหนักหน่วง ศิลปินส่วนใหญ่ที่เข้ามาใหม่ๆ จะไม่ค่อยวิเคราะห์ตัวเองว่า จริงๆ แล้ว Identity หรือแก่นสำคัญที่แท้จริงของเขาคืออะไรกันแน่ สิ่งที่เขาควรจะนำเสนอ สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ไม่ทำ รวมถึงเรื่องอื่นๆ”

โดยตัวอย่างศิลปินที่ BEEEF ดูแลคือ วงเรนิษรา ที่มีสมาชิก 2 คนคือ สบาย-เรนิษรา ลีประโคน และตั้ม-ชยพล ล้วนเส้ง ซึ่งอู๋แนะนำให้ตั้มลองเปลี่ยนการทำเพลงมาใช้วิธีการอัดดนตรีสดแทนในเพลงหวานใจผมน่ารักกว่าใคร

สิ่งที่เราให้รนิษราคือ ระบบหลังบ้าน การวิเคราะห์ดาต้า เพราะเขาไวรัลบ่อยมาก เราก็เอามาวิเคราะห์กลุ่มคน ตลาด ไลฟ์สไตล์ของคน เป็นสิ่งที่ทีม BEEEF ทำอยู่เสมอ เพลงล่าสุดที่เป็นไวรัลของเรนิษราคือ หวานใจผมน่ารักกว่าใคร สำเร็จในแง่ของการรับรู้ของแฟนเพลง หรือว่าไม่ใช่แฟนเพลงก็ตาม ก็รับรู้มากขึ้นว่าเรนิษราปล่อยเพลงนี้ แล้วเพลงก็เพราะดี มันมาจากการที่เราคุยกับศิลปิน ในช่วงที่เขากำลังหาไดเรกชันใหม่เพื่อไปต่อ เขามีแรงบันดาลใจใหม่ เราก็พูดคุยแนะนำทั้งในพาร์ตของการทำเพลง

“เราถามน้องว่า หนทางใหม่มันทำให้ตื่นเต้น อยากจะปล่อยเพลงใหม่เร็วๆ ไหม มีความรู้สึกแบบนี้หรือเปล่า เขาบอกว่ามี เราเลยโอเคทำเลย ไม่ต้องไปสนใจ นี่คือการรีเฟรชตัวเอง ไม่ใช่การทำเพื่อรายได้ พอทำออกมาแล้ว ฟังเดโม่แล้วมันใช่ แล้วมันเป็นแนวเรโทรแบบย้อนยุคหน่อย เราเลยให้อัดเครื่องดนตรีสด ยกระดับคุณภาพเพลง

“คนต้องไม่มองเรนิษราว่าเป็น TikToker คนต้องมองเป็นศิลปินจริงๆ ที่ทำเพลงจริงจัง จะต้องไม่มีใครมาดูถูกงานเพลงเราได้ แล้วสุดท้ายเขาก็สนุกสนานไปกับการทำงานทุกขั้นตอน แล้วพอโจทย์มันคือเรโทรที่พรีเมียม เขาก็ทำการตลาดแบบสนุกสนานมากขึ้น มีการวาดป้ายติดรถกระบะแห่ในต่างจังหวัดด้วย”

นอกจากนี้อีกหนึ่งความสำเร็จของ BEEEF ที่ดูแลเรนิษราได้สะท้อนออกมาจากการที่ปกเพลงผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง (ดอกไม้ฤดูหนาว) ของเรนิษรา ได้เข้าไปอยู่บนเว็บ Apple เพื่อโปรโมต iPhone 17 

“สิ่งหนึ่งที่เราทำทุกวันนี้คือ การเป็นพาร์ตเนอร์กับร้านค้าทั้งหลาย เรามีคนคอย Pitching เพลงเพื่อให้ได้เข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์ และปกของเพลย์ลิสต์นั้นๆ ปัจจุบันเรามองว่า การขึ้นปกเพลย์ลิสต์เหมือนขึ้นปกนิตยสารเลย” อู๋กล่าว

ข้อแนะนำศิลปิน

นอกจากดูแลศิลปินภายใต้ BEEEF แล้ว ในฐานะที่อู๋เองเป็นศิลปินอินดี้เหมือนกันและมีประสบการณ์ไม่น้อย สิ่งที่น่าสนใจคือ อู๋มีคำแนะนำสำหรับศิลปินอินดี้คนอื่นบ้างไหม และเขาตอบว่า หากจะแนะนำคงเป็นเรื่องความขยัน มุ่งมั่น และทะเยอทะยาน

“ถ้าเป็นยุคเราก็คงแนะนำให้หางานทำควบคู่ไปด้วย ต้องมีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน และขยันเป็นพื้นฐาน นั่นคือยุคเรา แต่ยุคนี้ความมุ่งมั่น ทะเยอทะยานก็ยังต้องมีอยู่ แต่สิ่งที่ต้องมีเพิ่มเติมคือ ไม่ต้องไปหางานทำเพิ่มแล้ว แค่มุ่งมั่นแบบนี้แล้วศึกษาเรื่องลิขสิทธิ์ เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพราะปัจจุบันเราสามารถมีรายได้จากสิ่งที่ซ่อนอยู่และมองไม่เห็นเยอะมาก โดยเฉพาะในโลกดิจิทัล ควรศึกษาเรื่องพวกนี้ควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นทำเพลง” อู๋กล่าวทิ้งท้าย

Tags: , , , , , ,